6 วิธีเลือกซื้อ บ้านมือสอง ยังไงไม่ให้โดนหลอก

วันนี้ทางทีมงานได้นำ 6 วิธีเลือกซื้อ "บ้านมือสอง" ยังไงไม่ให้โดนหลอก มาให้ได้อ่านกันก่อน ที่จะสายเกินไป แล้วแก้ไขไม่ทัน

คำว่า บ้าน ไม่ใช่แค่ที่พักอาศัยเท่านั้น แต่นี่คือจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตของใครหลายๆคน ดังนั้นการเลือกซื้อ บ้าน จึงคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคนคนหนึ่ง หากได้บ้านดีๆจะทำให้ชีวิตสะดวกสบายและส่งเสริมหลายๆอย่าง การเลือกซื้อบ้านควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนเปรียบเทียบทำเลและฟังก์ชั่นการใช้งาน 

เพื่อให้เราได้บ้านที่เราชอบและตอบโจทย์ชีวิตเราจริงๆ และสำหรับบ้านมือ2 เป็นหนึ่งในตัวเลือกของการซื้อที่พักอาศัยที่น่าสนใจสำหรับยุคนี้ ทั้งราคาที่จับต้องได้และยังมีให้เลือกหลายทำเล แต่ก่อนซื้อต้องดูอะไรบ้างเพื่อไม่ให้โดนหลอก 

วันนี้ทางทีมงาน ได้นำ 6 วิธีเลือกซื้อบ้านมือสอง มาให้ได้อ่านกัน

6 วิธีเลือกซื้อ บ้านมือสอง ยังไงไม่ให้โดนหลอก

วิธีแรก รู้เหตุผลที่แท้จริงในการขายบ้านมือสอง
สิ่งแรกที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อบ้านมือสอง หรือคอนโดฯ มือสอง คือเหตุผลในการประกาศขายของเจ้าของเดิม เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจและต่อรองราคา เนื่องจากบางสาเหตุอาจส่งผลกระทบในอนาคตได้ เช่น ขายบ้านเนื่องจากมีภาระหนี้สิน หรือถูกเจ้าหนี้บังคับขาย หรือขายเพราะปัญหาเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้าน
 

2. เช็กสภาพบ้านมือสองให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ
ผู้ซื้อควรสังเกตรายละเอียดโครงสร้างบ้านมือสองและสภาพแวดล้อมต่างๆ ประกอบด้วยเช่นกัน เนื่องจากเจ้าของเดิมอาจจงใจไม่แจ้งปัญหาด้านโครงสร้าง หรือการใช้งานอื่นๆ ให้ผู้ซื้อทราบ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกดราคาก็เป็นได้ เช่น พื้นดินรอบบ้านหรือรั้วทรุดตัว เสาหรือคานมีรอยแตกร้าวลึก หากพบปัญหาเหล่านี้ ผู้ซื้อควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินค่าใช้จ่ายในการแก้ไข ก่อนตกลงต่อรองเรื่องราคากับเจ้าของเดิมอีกครั้ง

3. ตรวจสอบกรรมสิทธิ์ของบ้านมือสอง หรือคอนโดฯ มือสอง
อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญคือการตรวจสอบให้ละเอียดว่าโฉนดที่ดินของบ้านมือสอง หรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคอนโดฯ มือสอง ที่จะซื้อนั้นถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากโฉนดที่ผู้ขายนำมาให้อาจจะเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือมีการปลอมแปลง หรือถูกอายัดตามกฎหมาย ผู้ซื้อจึงควรตรวจสอบรายละเอียดว่าใครเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริงก่อน เพื่อป้องกันกรณีที่ผู้ประกาศขายไม่ใช่เจ้าของบ้านตัวจริง แล้วแอบอ้างขายบ้านมือสองของผู้อื่น ซึ่งหากได้ตกลงทำการซื้อขายเรียบร้อยแล้ว จะทำให้ผู้ซื้อเกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้ ในกรณีที่จำเป็นต้องตกลงซื้อขายกับผู้อื่น เช่น ญาติของเจ้าของเดิม จะต้องให้ผู้ขายนั้นแสดงหลักฐานใบมอบอำนาจพร้อมหลักฐานประกอบอื่น ๆ ที่ชัดเจนก่อนเสมอ
 

6 วิธีเลือกซื้อ บ้านมือสอง ยังไงไม่ให้โดนหลอก

4. “ใบปลอดหนี้” สิ่งจำเป็นในการซื้อขาย
ใบปลอดหนี้ คือเอกสารที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินค่าส่วนกลางในการอยู่อาศัยในคอนโดฯ หากขาดเอกสารนี้จะไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินได้ โดยผู้ขายต้องเป็นผู้ดำเนินการขอเอกสารนี้ที่สำนักงานนิติบุคคล เพื่อจัดการค่าใช้จ่ายค้างชำระ (ถ้ามี) ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ซื้อควรตรวจสอบให้ดีว่าเจ้าของเดิมค้างจ่ายค่าส่วนกลางหรือมีหนี้ค้างอื่นกับทางนิติบุคคลหรือไม่ และแจ้งให้ผู้ขายจัดการเคลียร์หนี้ค้างให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นผู้ซื้อจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบชำระหนี้เอง

5. ตกลงรายละเอียดสัญญา และค่าใช้จ่ายวันโอน
เมื่อได้บ้านมือสองที่ถูกใจแล้ว ผู้ซื้อควรติดต่อผู้ขายเพื่อตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายให้ชัดเจน โดยควรระบุราคาที่ตกลงซื้อขาย รวมถึงค่ามัดจำ และระยะเวลาที่ต้องชำระส่วนที่เหลือให้ชัดเจน หากผู้ซื้อไม่สามารถชำระเงินส่วนที่เหลือได้ภายในกำหนด ผู้ขายก็จะมีสิทธิ์ยึดเงินมัดจำเช่นกัน ซึ่งเมื่อทำสัญญาจะซื้อจะขายเรียบร้อยแล้ว ผู้ขายจะต้องให้สำเนาโฉนดที่ดินหรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดเพื่อใช้เป็นเอกสารในการดำเนินการยื่นกู้กับสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ในสัญญาจะซื้อจะขายต้องระบุรายละเอียดในเรื่องค่าใช้จ่ายวันโอนกรรมสิทธิ์ให้ชัดเจนว่า ฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง หรือตกลงแบ่งจ่ายกันอย่างไร หลัก ๆ แล้วผู้ซื้อจะมีค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ดังนี้

-ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 2% ของราคาประเมินที่ดินหรือราคาซื้อขาย ส่วนใหญ่แบ่งจ่ายคนละครึ่งกับผู้ขาย (หากราคาที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท ค่าโอนกรรมสิทธิ์จะเหลือ 1%)
-ค่าจดจำนอง 1% ของยอดเงินกู้ทั้งหมด ในกรณีที่ขอยื่นกู้กับสถาบันการเงินเท่านั้น (หากราคาที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท ค่าจดจำนองจะเหลือ 0.01%)
-ค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของราคาซื้อขาย แต่ต้องไม่ต่ำกว่าราคาประเมินที่ดิน

6. เลือกเอเจนต์ที่มีความน่าเชื่อถือเป็นตัวช่วยซื้อบ้านมือสอง
การซื้อบ้านมือสอง หรือคอนโดฯ มือสอง มีรายละเอียดที่แตกต่างไปจากการซื้อบ้านใหม่ไม่น้อย จึงอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้ซื้อที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน การเลือกใช้บริการนายหน้าหรือเอเจนต์อสังหาฯ จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ นอกจากเอเจนต์จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาฯ แล้ว ยังสามารถให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกในขั้นตอนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งช่วยประหยัดเวลาของผู้ซื้อมือใหม่ได้ไม่น้อย