รมว.ยุติธรรมยันตรวจสอบรถโบราณ"สมเด็จฯช่วง" ช่วงนี้เหมาะสมแล้ว

"ไพบูลย์" เผย ดีเอสไอเข้าตรวจสอบรถโบราณ สมเด็จฯช่วง ทำไปตามหน้าที่ ระบุชัดเรื่องเกิดมาตั้งแต่ปี 56 ตรวจสอบตอนนี้เหมาะสมแล้ว ย้ำทำอย่างรอบคอบและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
         

วันนี้ (20 ม.ค.)   ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.)    พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)  เข้าตรวจสอบรถหรูของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ว่า เจ้าหน้าที่เขาทำไปตามหน้าที่  ต้องให้อิสระกับข้าราชการในการทำงาน เหมือนคดีอื่นๆ ตนจะไม่ได้ลงไปถามในรายละเอียด  ซึ่งเขาไปจะตรวจสอบการนำเข้า และมีอีก 2-3 กรมที่ต้องเข้ามาตรวจสอบ  เท่าที่ทราบจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงขอให้รอผลตรวจตามเวลาที่เจ้าหน้าที่เขาบอก และตนจะไม่ไปเร่งรัดการทำงาน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน

อย่างไรก็ตาม  ถือว่าเป็นเรื่องดี  เพราะหากว่าสังคมเกิดความสงสัยอะไรแล้วสามารถตอบได้  มีความชัดเจนด้านเรื่องก็จะจบ อีกทั้งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญกับประเทศชาติ  ต้องเข้าใจนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นเรื่องสำคัญ  ถ้าการทำงานของกระทรวงยุติธรรม และดีเอสไอ เป็นส่วนหนึ่งของความสำคัญ เราก็ต้องทำอย่างรอบคอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเรื่องนี้ต้องคิดถึงผลได้ผลเสียของบ้านเมือง ต้องคิดในทุกมุม อย่าคิดแต่ฝ่ายตัวเอง
         

ผู้สื่อข่าวถามว่า  การเข้าไปตรวจสอบในช่วงนี้ถือว่าเป็นการดิสเครดิสสมเด็จช่วงหรือไม่  พล.อ.ไพบูลย์ ว่า ถ้าจะคิดในมุมนั้นก็คิดได้ แต่ถ้ามองอย่างความเป็นธรรม เมื่อมีคนอื่นสงสัยแครงใจ ก็ควรให้มีการดำเนินการ  หากเรื่องถูกต้องเรื่องที่ไม่ผิดอะไรก็อย่ากลัว และการทำเรื่องนี้ให้กระจ่างในสังคมยังถือว่าเป็นเครื่องยืนยันตัวเอง  ถ้าหากไม่ดำเนินการต่อไปโดยไม่ทำให้เรื่องนี้กระจ่างแล้วก็จะมีการพูดกันต่อไปตลอดอยู่เรื่อยๆ แล้วมันสมควรหรือไม่ในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในเรื่องอย่างนี้  การทำเราทำให้มันเกิดความชัดเจนทำให้เกิดประโยชน์และมีความสง่าอีกด้วย อย่างไรก็ตาม DSI และกระทรวงยุติธรรม ได้ดำเนินการตามหน้าที่  เพราะเมื่อมีคนมาร้องเรียนก็ต้องดำเนินการ และคิดว่าดำเนินการช่วงนี้เหมาะสมแล้ว  เพราะเรื่องนี้เกิดมาตั้งแต่ปี 56  ซึ่งยาวนานมาพอสมควร  ยำว่าต้องคิดทุกมุมอย่าคิดเพียงแต่ฝ่ายตัวเอง