ให้ธรรมะยังประดับไว้ในโลกา! หลวงปู่จันทร์ศรีสอนธรรม ปฏิบัติตนอย่างไรจึงของถึง "เปลือก กระพี้ แก่น ของศีล"

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th

ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ "แก่นของศีล"

          การตกแต่งภายนอกนั้นมันก็เป็นภัย ดังที่เราก็รู้กัน ขโมยมันเห็นมันก็ฆ่าเอา เครื่องประดับภายนอกเป็นภัย ฉะนั้น พระพุทธเจ้าก็จึงให้เอา

“ธรรมเป็นเครื่องประดับ” “ ศีลเป็นเครื่องประดับ”

 

         วันนี้จะได้นำธรรมะในข้อต้น คือว่า ศีลนั้น ธรรมนั้น มันมีตั้งสามชั้น “เปลือกของศีลเปลือกของธรรม”

แล้วก็ “กระพี้ของศีลของธรรม” “แก่นของศีลของธรรม”

         บุคคลที่ยินดีในการบูชาดอกไม้ธูปเทียน บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ เป็นที่ระลึกเป็นที่พึ่ง ท่านก็เปรียบเหมือน ”เอาเปลือกไม้มาสร้างบ้าน” สร้างเรือนเป็นที่อยู่ ธรรมดาเปลือกไม้นั่นน่ะมันไม่ทนถาวร ปลวกก็กินมอดก็กินทั้งไม่มั่นคง ฉะนั้นผู้อยู่ติดอยู่แค่ อามิส” จึงช่วยศาสนา บำรุงศาสนาให้ดีให้สืบไปไม่ได้ เปรียบเหมือนเอาเปลือกไม้มาทำบ้าน สร้างบ้านอยู่นั่นน่ะ

 

         ทีนี้ บุคคลที่มารักษาศีล หรือว่าที่ท่านเปรียบเหมือน “เอากระพี้หรือว่ามอก*หรือกระพี้มาสร้างบ้าน” ไม้ที่ไม่มี เป็นกระพี้นั่นน่ะมาสร้างบ้านอยู่ มันก็ไม่ทน ปลวกก็กินได้ ตัวมอดตัวอะไรกินไม่พัง ไม่ทนลมมาก็หักง่ายหักเร็ว แต่ว่า โบราณว่า “เสาไม้มอก ตอกไม้รวก”

 

         อันนี้คนที่มารักษาศีลแล้วภาวนา ปฏิบัติบูชาจนจิตตั้งมั่น  แก่นสารมั่นคงก็เปรียบเหมือน "เอาแก่นไม้มาสร้างบ้าน" แก่นนั้นน่ะมันมั่นคงถาวร ปลวกก็ไม่กิน มั่นคง อันนี้ฉะนั้นจึงว่า บางคนสามจำพวกนี้จึงไปไม่เหมือนกัน ถือพุทธเหมือนกันแต่ไปไม่เหมือนกัน ดีไม่เหมือนกัน

         ฉะนั้นคติโบราณท่านจึงกล่าวว่า คนสามบ้านกินน้ำบ่อเดียว เพิ่นว่า “คนสามบ้านกินน้ำบ่อเดียวเทียวทางเดียวแต่ไม่เหยียบรอยกัน” คือบางคนก็ได้พุทธแต่เปลือกๆ บางคนก็ได้พุทธแค่กระพี้ บางคนก็ได้พุทธถึงแก่น คือ จิตเป็นสมาธิจนถึงวิมุตติธรรม คำว่า “วิมุตติธรรม” นั่นคือว่า จิตพ้น”

จิตพ้นจากความยึดความถือในรูปในนามนี้แหละ จิตหลุดพ้น

หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป

 

 

*มอก แปลว่า เปลือกนอก

 

...
จินต์จุฑา สำนักข่าวทีนิวส์ รายงาน

ที่มา : http://board.palungjit.org