ไม่ตายคงไม่รู้!! เชิญวิญญาณ"จนท.สาวศธ."กลับบ้านเกิดบุรีรัมย์-รองปลัดฯรับมือยิงเป็นคนขับรถ-ใช้เอกสารปลอมเข้าทำงาน

 

วันนี้ ( 29 มี.ค.)  ที่ กระทรวงศึกษาธิการ  เมื่อเวลา 14.30 น. ดร.พิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) พร้อมด้วย นายสุพรม บุระคร อายุ 68 ปี บิดาของ น.ส.วาสนา บุระคร อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่สำนักงาน สกสค. ได้ร่วมกันทำพิธีเชิญวิญญาณ ของ น.ส.วาสนา โดยญาติได้จุดธูปบอกกล่าว พร้อมกับนำเครื่องเซ่นไหว้เป็นกระทงทำด้วยก้านกล้วย ภายในบรรจุผลไม้ชนิดต่างๆ อาหารคาวหวาน พวงมาลัย และปักธงล้อมกระทงไว้ 4 ด้าน นำมาวางตรงจุด ที่ น.ส.วาสนา เสียชีวิต โดยมีพระสงฆ์จำนวน 4 รูป จากวัดเบญจมบพิตร ทำการโยงสายสิญจน์ ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของ น.ส.วาสนา กลับบ้านเกิดที่ จ.บุรีรัมย์  ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลดของญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงาน 

 

 

 

ดร.พิษณุ  กล่าวว่า หลังจากที่เกิดเหตุ ทางฝ่ายบุคคลของ สกสค. ได้ทำการตรวจสอบว่านายจำลอง พุ่มมาลัย อายุ 49 ปี คนร้ายที่ยิง น.ส.วาสนา ทราบว่าเป็นพนักงานขับรถของกรมการค้า สกสค. ได้ย้ายมาช่วยงานสมัยที่ สกสค. มีรถบัส 2-3 คน  บังเอิญว่าผู้ก่อเหตุสามารถขับรถได้ เลยมาช่วยงาน กระทั่งปี 2557 ก็ได้โอนเป็นพนักงานของ สกสค. ซึ่งผู้ก่อเหตุมาสมัครเป็นพนักงานขับรถยนต์ตั้งแต่ปี 2537  และจากการตรวจสอบพบว่าตอนมาสมัครใช้เอกสารปลอม โดยเอาเอกสารของน้องชาย คือนายจรัญ คูนา อายุ 44 ปี มาสมัครงาน เพราะฉะนั้นชื่อที่ใช้เป็นพนักงานขับรถของกรมการค้า จนกระทั่งมาเป็นพนักงานขับรถของ สกสค. ก็คือชื่อของน้องชาย  ขณะนี้ทราบว่าน้องชายบวชเป็นพระอยู่ที่บ้าน  จ.สมุทรปราการ  โดยที่หน้าตาของผู้ก่อเหตุกับน้องชายคล้ายกันมาก ส่วนสูงก็พอๆ กัน  ซึ่งเราไม่สามารถไปรื้อฟื้นกระบวนการรับสมัครได้ เพราะผ่านมากว่า 20 ปีแล้ว เจ้าหน้าที่รับสมัครเกษียรไปหมดแล้ว  ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวานนี้ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เป็นความเห็นแก่ตัวของคนก่อเหตุ เพราะถ้ารักกันจริงๆ ต้องปรารถนาดีต่อกัน อยากเห็นคนที่ตนเองรักมีความสุข ไม่ใช่เรื่องของการยึดครอง เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ทำร้ายกัน

 

 

 

 

 

ดร.พิษณุ กล่าวต่อว่า  สำหรับนิสัยส่วนตัวของผู้ก่อเหตุ เท่าที่สอบถามจากหัวหน้าฝ่ายยานพาหนะ ไม่ได้เป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ชอบเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร อย่างไรก็ตามต้องขอแสดงความเสียใจกับคุณพ่อสุพรมที่เสียบุตรสาว ซึ่งเป็นกำลังหลักของครอบครัวไป  เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นไปแล้วทาง สกสค. มีสวัสดิการช่วยเหลืออยู่พอสมควร อาทิค่าทำศพ จำนวน 200,000 บาท และสวัสดิการอื่นๆ หลังหักหนี้สินแล้วน่าจะได้ประมาณ 1,000,000 บาท 

ด้านนายสุพรม กล่าวว่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาตนได้มาที่ทำงานของบุตรสาว และได้พบกับนายจำลอง จึงทราบว่าทั้งคู่มีปัญหาระหองระแหงกัน  บุตรสาวได้ขนเสื้อผ้าออกจากห้องที่เคยอาศัยอยู่กับจำลอง  ในวันนั้นตนได้พูดคุยกับนายจำลอง นานกว่า 2 ชั่วโมง  พร้อมทั้งขอร้องทั้งคู่ว่าหากไม่เข้าใจกันก็ขอให้ยอมถอยคนละก้าว  นอกจากนี้บุตรสาว ก็บอกว่านายจำลองนั้นมีภรรยาอยู่แล้ว อีกทั้งขอร้องนายจำลองว่าอย่าดื่มเหล้า ถ้าดื่มเหล้ามาจะคุยกันไม่รู้เรื่อง  ซึ่งนายจำลองก็รับปากว่าจะปรับปรุงตัว  ส่วนสาเหตุที่ทำให้นายจำลองลงมือฆ่าบุตรสาวนั้น  น่าจะมาจากเรื่องที่ขอร้องให้บุตรสาวกลับไปอยู่ที่หอพักเดิมด้วยกันเหมือนเดิม  

ทั้งนี้ ศพของ น.ส.วาสนา จะนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ วัดบ้านขามน้อย ต.บ้านขามน้อย อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ และจะตั้งสวดศพ 2 คืน ตั้งแต่วันที่ 30-31 มี.ค. และทำการประชุมเพลิงศพในวันที่ 1 เม.ย. 

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพื่อนร่วมงานของ น.ส.วาสนา ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายจำลองมีภรรยาหลายคน โดยล่าสุดไปติดพันกับหญิงสาวที่อยู่ต่างจังหวัด เมื่อ น.ส.วาสนา ทราบเรื่อง จึงขอตีตัวออกห่าง และนายจำลองพยายามมาขอคืนดี แต่ น.ส.วาสนา ไม่ยอมคืนดีด้วย สุกท้ายจึงลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น