ด่วนมาก!!! ศาลสั่งประหาร "อาเธอร์" หนุ่มสเปน ฆ่าหั่นศพเพื่อนทิ้งศพลอยเกลื่อนเจ้าพระยา จนชาวบ้านแตกตื่นทั้งบางช่วงเดือน ม.ค. 59

 

ด่วน!!! ศาลสั่งประหาร "อาเธอร์" หนุ่มสเปน ฆ่าหั่นศพเพื่อนทิ้งศพลอยเจ้าพระยา จนชาวบ้านแตกตื่นช่วงเดือน ม.ค. 59  โดยศาลระบุ ฆ่าเพื่อทรัพย์สินเงินฝากธนาคารของผู้เสียชีวิตหลายสิบล้านบาท

วันนี้ (21 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องพิจารณา 713 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านพิพากษาคดีฆ่าหั่นศพชาวสเปน ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอาเธอร์ เซการา พรินเซพ หรืออาร์ตู (Mr.Segarra Princep Artur ) อายุ 38 ปี สัญชาติสเปน เป็นจำเลย ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย, หน่วงเหนี่ยวกักขังฯ , ลักทรัพย์ และข้อหาอื่นๆ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) , 199 , 310 กรณีเมื่อวันที่ 30 มกราคม2559 พบชิ้นส่วนของนายเดวิด เบอเนต โมราด ชาวสเปน ลอยมาในแม่น้ำเจ้าพระยา ติดบริเวณอู่ต่อเรือเอกชนแห่งหนึ่งใกล้วัดคฤหบดี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด และอีกหลายชิ้นลอยมาในแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตรับผิดชอบ สภ.เมืองนนทบุรี , สภ.ปากเกร็ด และ สภ.เมืองจ.ปทุมธานี โดยการสืบสวนสอบสวน พบว่าจำเลยพาผู้เสียชีวิตเข้าไปในห้องพักพีจี คอนโดมิเนียม พระราม 9 อสมท. แขวงและเขตห้วยขวาง จากนั้นได้ฆ่าผู้เสียชีวิตก่อนหั่นศพ และนำชิ้นส่วนทิ้งลงในแม่น้ำเจ้าพระยาตามจุดต่างๆ ก่อนหลบหนีไปพร้อมเงินของผู้ตาย จำนวน 734,940 บาท ไปอยู่ที่ ตลาดการค้าชายแดนบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

โดยศาลเบิกตัว นายอาเธอร์ จำเลย มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อฟังคำพิพากษา นายอาเธอร์ ถูกคุมขังมานาน 1 ปี 2 เดือน นับตั้งแต่ถูกจับกุมและฝากขังเมื่อเดือนกุมภาพันธ์2559 ชั้นพิจารณา จำเลยแถลงให้การปฏิเสธทุกกล่าวข้อหาโดยระบุว่าได้อาศัยอยู่ในพีจี คอนโดมิเนียม แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต

 

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าแม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน แต่มีภาพจากกล้องวงจรปิด , แม่บ้าน , แฟนสาวของจำเลย และกลุ่มตำรวจตรวจสถานที่ ตรวจหลักฐาน และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจ ดีเอ็นเอคราบเลือด ลายนิ้วมือแฝงเครื่องเจียไฟฟ้า พบเป็นดีเอ็นเอจำเลยและตรงกับผู้เสียชีวิต โดยมูลเหตุจูงใจเชื่อว่า ฆ่าเพื่อทรัพย์สินเงินฝากธนาคารของผู้เสียชีวิตหลาย10ล้านบาท

จึงพิพากษาให้ประหารชีวิตสถานเดียว ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว่ก่อนเพื่อประโยชน์ทรัพย์สินผู้เสียชีวิต ซึ่งจำเลยได้ปลอมข้อมูลโอนเงินเข้าบัญชีตัวเองมาแล้วกว่า 730,000 บาท ศาลจึงให้จำเลย ต้องชดใช้คืนเงินนั้นให้ญาติผู้เสียชีวิตด้วย พร้อมริบอุปกรณ์เครื่องมือหั่นศพและตู้แช่แข็งด้วย

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวระบุด้วยว่า ศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษานานชั่วโมงเศษโดยมีล่ามแปลภาษาสเปนให้จำเลยเข้าใจผลคำพิพากษาโดยตลอด วันนี้มีสาวต่างชาติที่เป็นบุคคลรู้จักจำเลย 1 คนและบาทหลวงอีกคน มาฟังคำพิพากษาด้วย และยังมีสื่อมวลชนสเปนร่วมฟังคำตัดสินเช่นกัน ขณะที่มีผู้แทนกงสุลสเปนร่วมด้วย หลังฟังคำพิพากษาแล้ว จำเลยไม่มีสีหน้าตกใจ หรือเสียใจต่อผลดังกล่าวแต่อย่างใด

ขณะที่นายวรสิทธิ์ พิริยะพิบูรณ์ ทนายจำเลย กล่าวว่า หลังจากนี้จะยื่นอุทธรณ์คดี ภายใน 30 วัน โดยจะขอต่อสู้ในประเด็น เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะจำเลยยังยืนยัน ว่าไม่ได้ฆ่าผู้เสียชีวิตตามที่ถูกกล่าวหา

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews