ถึงเวลา...แค้นนี้ต้องชำระ! ลูกหนี้นับ100 แห่ตบเท้ายื่นค้านประกัน "เจ้สุ-เจ้าแม่เงินกู้โหดนครพนม" ระบุยอมไม่ได้-เพราะเอารัดเอาเปรียบสุดชีวิต?

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

แค้นนี้ต้องชำระ!!! ลูกหนี้นับ 100 แห่ตบเท้ายื่นหนังสือค้านประกัน "เจ้สุ-เงินกู้โหด" ระบุยอมไม่ได้-เพราะเอารัดเอาเปรียบมาก

 

วันนี้ (17 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีการเข้าจับกุม "นางสาวสุนภา" หรือ สุพิชญ์ฌา เรืองสุวรรณ หรือ อภิชัจฐ์โภคิน หรือ "เจ้สุ" อายุ 56 ปี นายทุนเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ในจังหวัดนครพนม โดยวันนี้ ที่ห้องประชุมอาคารแสงสิงแก้ว ชั้น 5 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นายสมชาย วิทย์ดำรงค์  ผวจ.นครพนม พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม เป็นประธานในการแถลงข่าวการจับกุมคดีดังกล่าว  โดยมีเหยื่อนายทุนเงินกู้ เกือบ 100 คน เดินทางมาร่วมรับฟังการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย

 

โดยนายสมชาย กล่าวถึงการไกล่เกลี่ยประนีประนอมหนี้กับนายทุนรายนี้ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กู้ยืมธรรมดา 2.เริ่มมีการฟ้องร้องดำเนินการ และ 3.ฟ้องร้องดำเนินคดีแล้ว ซึ่งทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม ได้รับข้อมูลการร้องเรียน เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2557 เรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบ และการเอารัดเอาเปรียบจากนายทุน จำนวน 134 ราย คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ ด้วยการนัดเจ้าหนี้และลูกหนี้ จำนวน 11 ราย มาเจรจาไกล่เกลี่ย ประนีประนอม เจรจายุติได้ 2 ราย ไม่สามารถตกลงกันได้ 2 ราย เจ้าหนี้ขอกลับไปตรวจสอบข้อมูลอีก 3 ราย และยังมีลูกหนี้ไม่ยอมมาเจรจาอีก 4 ราย

 

จากนั้นวันที่ 21 ม.ค.2558 ลูกหนี้ของนายทุนรายนี้ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักปลัดนายกรัฐมนตรี และวันที่ 3 มี.ค.2558 ทางศูนย์ดำรงธรรมฯ ได้นัดเจรจาไกล่เกลี่ย ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ จำนวน 7 ราย ซึ่งยังไม่ถูกฟ้องร้อง โดยเจ้าหนี้มอบหมายให้ทนายความมาเจรจาแทน ผลการเจรจาไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งคณะกรรมการ เห็นว่านายทุนรายนี้ไม่ให้ความร่วมมือกับทางราชการ มีพฤติการณ์เป็นเจ้าหนี้นอกระบบ ผู้มีอิทธิพลปล่อยเงินกู้ให้ชาวบ้านด้วยการนำโฉนดที่ดิน ไปจำนองเป็นหลักประกัน มีการเรียกดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่ากฎหมายกำหนด ระบุจำนวนเงินในสัญญาจำนองสูงกว่าที่ได้รับจริงและเอาเปรียบลูกหนี้ โดยจังหวัดพยายามนัดเจรจาไกล่เกลี่ย ประนีประนอม มากกว่า 3 ครั้ง จึงรู้ว่าพฤติกรรมของนายทุน มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีงามของประชาชน จึงได้ส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ  ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครพนม ผู้บังคับการปราบปราม  และสรรพากรพื้นที่นครพนม พิจารณาดำเนินการต่อไป จนนำมาสู่การจับกุม กล่าวคือ เมื่อวันที่ 1 พ.ค.60 กลุ่มผู้เสียหาย ประกอบด้วย นางสาริกา คนฉลาด พร้อมพวก รวม 17 คน เข้าแจ้งความและให้ข้อมูลยัง สภ.เมืองนครพนม รับเรื่องเป็นคดีอาญาที่ 420/2560 ลงวันที่ 1 พ.ค.60 เพื่อดำเนินคดีกับนางสาวสุนภา หรือ สุพิชญ์ฌา และนางสาวศศิณัฐญา อภิชัจฐ์โภคิน ซึ่งเป็นบุตรสาวของนางสาวสุนภา หรือ สุพิชญ์ฌา บจ.ภูวษา และบจ.อภิภาคิณณ์ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด และปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ ศาลจังหวัดนครพนม ออกหมายจับที่ จ 72/2560, จ.73/2560 และ จ. 74/2560 เข้าจับกุมผู้ต้องหาฐานะนิติบุคคล พร้อมตรวจค้นสำนักงานของ บจ.มิตรศิลป์มอเตอร์ไซด์ รวม 3 แห่ง ได้เอกสารเกี่ยวกับกู้ยืมจำนอง จำนวนมาก และทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชร มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวน เป็นเวลาร่วม 10 ชั่วโมง และไม่ให้ประกันตัว

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นายสมชาย และพล.ต.ต.สุวิชาญ ได้ชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ แล้วเปิดให้ผู้เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าว สอบถามทุกข้อสงสัย โดยนางสาริกา คนฉลาด อายุ 69 ปี ผู้สร้างวีรกรรมฟ้องกลับนางสาวสุนภา หรือ สุพิชญ์ฌา ในข้อหาเบิกความเท็จจนศาลชั้นต้นพิพากษาสั่งจำคุก โดยไม่รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี  แต่นางสาวสุนภา หรือสุพิชญ์ฌา ยื่นอุทธรณ์ ศาลจะอ่านคำพิพากษาในวันที่ 31 พ.ค.ที่จะถึงนี้ ได้กล่าวขอบคุณคณะทำงาน ที่เป็นผู้จุดแสงสว่างให้กับพวกลูกหนี้ ได้สามารถเข้าถึงหลักกฎหมายต่างๆ รวมทั้งชาวบ้านซึ่งเป็นลูกหนี้ของนายทุนรายนี้ ได้มอบช่อดอกไม้แก่ ชุดทำงาน ก่อนที่จะเดินทางไปที่ศาลจังหวัดนครพนม โดยจะแต่งตั้งนายสมหมาย วงมะแสน ทนายความ จะทำหนังสือยื่นคัดค้านการประกันตัว นางสาวสุนภา “เจ้สุ” ผู้ต้องหาเงินกู้นอกระบบรายนี้อย่างแน่นอน

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews