- 18 ก.ค. 2560
รู้จริง...รู้แจ้ง...ทุกเรื่องราวแห่งปาฏิหาริย์ www.tnews.co.th
"หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" คือพระวิปัสสนาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรูปหนึ่งของเมืองไทยในปัจจุบัน ท่านเป็นคนยุคต้นรัชกาลที่ ๕ (เกิด พ.ศ. ๒๔๑๓) แต่กิตติศัพท์และแบบอย่างชีวิตของท่านยังคงมีอิทธิพลอย่างยิ่งจวบจนทุกวันนี้
ชีวิตของหลวงปู่มั่นนับแต่เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เป็นชีวิตที่แนบเนื่องอยู่กับการหลีกเร้นบำเพ็ญธรรมในป่าเขาสมัยที่ยังเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์นานาชนิด ท่านเป็นแบบอย่างของผู้สูงส่งด้วยภูมิปัญญา มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่เบียดเบียน เต็มเปี่ยมด้วยเมตตาต่อสรรพชีวิต
แม้ในยามที่หลวงปู่มั่นใกล้จะมรณภาพ ท่านก็ยังคำนึงถึงสัตว์น้อยใหญ่ที่อาจเดือดร้อนเพราะการดับขันธ์ของท่าน ด้วยเหตุนี้ท่านจึงเร่งรัดให้ลูกศิษย์พาท่านออกจากหมู่บ้านหนองผือซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดสกลนคร โดยมีจุดมุ่งหมายปลายทางคือตัวเมืองสกลนครอันเป็นสถานที่ที่สามารถรองรับการหลั่งไหลของผู้คนที่จะมาเคารพศพท่านได้
[พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต]
ในการกล่าวเตือนลูกศิษย์ลูกหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลวงปู่มั่นได้พูดตอนหนึ่งว่า
"ผมน่ะต้องตายแน่นอนในคราวนี้ ดังที่เคยพูดไว้แล้วหลายครั้ง แต่การตายของผมเป็นเรื่องใหญ่ของสัตว์และประชาชนทั่ว ๆ ไปอยู่มาก ด้วยเหตุนี้ผมจึงบอกท่านทั้งหลายให้ทราบว่าผมไม่อยากตายอยู่ที่นี่ ถ้าตายที่นี่จะเป็นการกระเทือนและทำลายชีวิตสัตว์ไม่น้อยเลย สำหรับผมตายเพียงคนเดียว แต่สัตว์ที่พลอยตายเพราะผมเป็นเหตุนั้นมีจำนวนมากมาย เพราะคนจะมามาก ทั้งที่นี่ไม่มีตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน
นับแต่บวชมาไม่เคยคิดให้สัตว์ได้รับความลำบาก โดยไม่ต้องพูดถึงการฆ่าเขาเลย มีแต่ความสงสารเป็นพื้นฐานของใจตลอดมา ทุกเวลาได้แผ่เมตตาจิตอุทิศส่วนกุศลแก่สัตว์ไม่เลือกหน้าโดยไม่มีประมาณตลอดมา เวลาตายแล้วจะเป็นศัตรูคู่เวรแก่สัตว์ให้เขาล้มตายลงจากชีวิตที่แสนรักแสนหวงของแต่ละตัวเพราะผมเป็นเหตุเพียงคนเดียวนั้น ผมทำไม่ลง
อย่างไรเสีย...ขอให้นำผมออกไปตายที่สกลนคร เพราะที่นั้นเขามีตลาดอยู่แล้ว คงไม่กระเทือนชีวิตของสัตว์มากเหมือนที่นี่"!!
[ภาพการปรินิพพานของพระพุทธเจ้าที่มิได้เป็นเพียงการสูญเสียสำหรับมนุษย์เท่านั้น แต่เป็นการสูญเสียสำหรับสัตว์เดรัจฉานด้วย]
--------------------------------------------------
ที่มา : http://www.visalo.org/book/WordaPdf/lumtarn.pdf