ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

    จากกรณี  ตำรวจกองปราบ บุกค้นบ้านพักหรูย่านรามกำแหงเพื่อหาหลักฐานเอาผิด “พระชั้นผู้ใหญ่” เอี่ยวทุจริตคดีเงินทอนวัด หลังจากพบหลักฐานเด็ด เป็น แคชเชียร์เช็คเงินจำนวน 25 ล้านดังกล่าว ซึ่งในแคชเชียร์เช็คดังกล่าวมีการระบุชื่อพระชั้นผู้ใหญ่อย่างชัดเจน โอนเงินให้กับ น.ส.นุชรา สิทธินอก ซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ในฐานะ แม่บ้าน  โดยมี ร.ท.ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทยแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว  


   เมื่อพูดความสัมพัมธ์ของบ้าน ร.ต.ฐิติทัตน์ กับ พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ได้มีความเกี่ยวข้องกันนั้นมาจากการว่าจ้างผลิตสื่อประชาสัมพันธ์กับวัดสระเกศ ในชื่อรายการ วิถีไทยวิถีพุทธ และนำไปออกอากาศทางสื่อโทรทัศน์ชื่อดังช่องหนึ่ง ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ รวมจำนวน 130 ตอน มีการทำสัญญาจ่ายเงินส่งมอบงานจำนวน 5 งวด ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณเทปละแสนกว่าบาท แยกเป็นค่าผลิต ค่าเช่าออกอากาศ และการบันทึกลงแผ่นซีดีให้ทางวัดนำไปเผยแพร่ในที่ต่างๆ แต่ตอนนี้ไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานใดมาแสดงได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปหมดแล้ว รวมถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย แต่ในส่วนตัวอย่างรายการสื่อสามารถเข้าไปสืบค้นดูข้อมูลย้อนหลังในยูทูปได้ ซึ่งบางเทปรายการที่ออกออกอากาศไป มีเสียงของ น.ส.ฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา แม่ของ ร.ต.ฐิติทัศน์ อดีตเจ้าของ หจก. ดี ดี ทวีคูณ ทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายเนื้อหารายการเองด้วย โดยมีการยืนยันข้อเท็จจริงในการสืบค้นในยูทูปซึ่งพบว่า มี  "วิถีไทยวิถีพุทธ" อยู่จริง มีเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมะ ไว้จำนวนหลายสิบเทป

 

 

  ในขณะที่วิดีโองานชิ้นแรกที่ได้ออกอากาศ คือ  งานอุปสมบทหมวดตั๋ง หรือ ร.ต.ฐิติทัศน์ นิพนธ์พิทยา  บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ครบถ้วนตั้งแต่เริ่มต้นจัดงานที่บ้าน งานฉลอง  จนถึงพิธีบรรพชาอุปสมบท ที่วัดสระเกศ ความยาวกว่า 1 ชั่วโมงเศษ ซึ่งในเนื้อหาวิดีโอดังกล่าว ปรากฎภาพ  น.ส.นุชรา สิทธินอก ไปร่วมงานด้วย  แจ้งวันเผยแพร่ คือ 10 มิ.ย.2559 สอดคล้องกับข้อมูลที่ปรากฎก่อนหน้านี้ ว่า ร.ต.ฐิติทัศน์ บวชที่วัดสระเกศ ในช่วงเดือน มิ.ย.2559 มีพระพรหมสิทธิ เป็นพระอุปัชฌย์ 

   โดยคนใกล้ชิด ร.ท.ฐิติทัตน์ ได้ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราเกี่ยวกับข้อสงสัยว่า ทำไม ร.ท.ฐิติทัศน์ กับ น.ส.ฑัมพร นิพนธ์พิทยา แม่ของ ร.ท.ฐิติทัศน์ ต้องโอนหุ้น หจก. ดี ดี ทวีคูณ ให้บุคคลอื่นถือแทน เป็นเพราะ ร.ท.ฐิติทัศน์ เริ่มเข้ามารับราชการทหาร และมีความสนิทสนมกับผู้ใหญ่หลายคน กังวลว่า จะถูกจับมองตาในทางไม่ดี จึงให้คนใกล้ชิดสนิทสนมไว้ใจได้เข้ามาถือหุ้นทำธุรกิจแทน ส่วนการรับงานของ หจก. นั้น จะใช้ชื่อบุคคลธรรมดาเข้าไปรับงานแทนชื่อนิติบุคคล จากนั้นก็ค่อยนำมากระจายต่อในกลุ่มคนรู้จักช่วยกันทำงาน ซึ่งถือเป็นเทคนิคปกติ ในการทำธุรกิจของบริษัทเอกชนยุคปัจจุบันที่นิยมใช้กัน
     ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตคือถ้าเป็นการว่าจ้างงานจริงและเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำไม น.ส.ฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา (แม่) และ ร.ต.ฐิติทัตน์  ถึงต้องนำชื่อบุคคลอื่น มาถือครองหุ้นทำธุรกิจแทน และยังให้ช่วยเปิดบัญชีรับโอนเงินส่วนนี้ด้วย และที่สำคัญยังมีการแจ้งเปลี่ยนตัว ในช่วงเดือน ต.ค.2560 หลังจากที่การว่าจ้างงานของวัดสระเกศเกิดขึ้นเป็นทางการไปแล้ว 
 

 

 

ทั้งหมดนี้คือที่มาของการเชื่อมโยงปมเงินทอนวัด ซึ่งเป็นที่ของการออกหมายจับ ดังต่อไปนี้
รายชื่อพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ที่ถูกออกหมายจับ ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน จำนวน 4 รูปมี

1.พระพรหมสิทธิ "ธงชัย สุขโข" เจ้าอาวาสวัดสระเกศ และเจ้าคณะภาค10
2. พระศรีคุณาภร หรือพระมหาบุญทวี คำมา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ
3.พระครูสิริวิหาร การ สมจิตร จันทร์ศรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ 
4.พระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือ เจ้าคุณเทอด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ 

    ส่วนรายชื่อ ฆราวาส จำนวน 4 ราย ที่เกี่ยวข้องกับคดีเงินทอดวัด มีดังนี้

1.น.ส.นุชรา สิทธินอก แม่บ้านที่รับโอนเงินจากวัดสระเกศ 
2.น.ส.ฆิมคำพร นิพนธ์พิทยา มารดาของ ร.ท.ฐิติทัศน์ นิพนธ์พิทยา
3.นายธีระพงษ์ (ไม่ทราบนามสกุล) 
4.นายทวิช สังข์อยู่ 


ขอบคุณเนื้อหาบางส่วน สำนักข่าวอิศรา