ธาตุไฟแตกซ่าน! อ.อ้อย เจ้าสำนักเตโชฯ ประกาศฟ้อง "อดีตศิษย์" ลั่น พศ. ตรวจแล้ว ไม่พบข้อสงสัย ด้านชาวโซเชียลยังแฉไม่เลิก #ฆราวาสบรรลุธรรม

              จากกรณีของอาจารย์อ้อย อัจฉราวดี วงศ์สกล เจ้าสำนักเตโชวิปัสสนา กับประเด็นที่เธอออกมาบอกว่า ไม่ได้ออกบวชก็สามารถบรรลุธรรมได้ และได้อ้างตัวว่า เป็น "ฆราวาสบรรลุธรรม" ที่เป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ จากการเปิดประเด็นของเว็บไซต์ alittlebuddha ที่ออกมาเปิดประเด็นถึงเรื่องนี้เป็นรายแรก และมีนักวิชาการ นักเขียนหลายท่านที่ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว รวมไปถึงภาพที่ถูกแชร์ไปอย่างมากถึงความเหมาะสมของอาจารย์อ้อย อัจฉราวดี และทางอาจารย์ได้มีการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (27 มกราคม 2561)

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

: อริยะพันธุ์พิเศษ?! เว็บดังเปิดประเด็น อ.อ้อย เจ้าสำนัก "เตโชวิปัสสนา" อ้างเป็น "ฆราวาสบรรลุธรรม" โดยไม่ต้องบวช สื่อจิตกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้

:  ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ไม่ใช่ของจริง!! ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ.. "ประธานสงฆ์คนงาม เจ้าสำนักเตโชฯ" #ฆราวาสบรรลุธรรม !!

         ล่าสุดเมื่อวานนี้ (27 มกราคม 2561) ทางเพจ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ กับอ.อัจฉราวดี วงศ์สกล ได้เผยแพร่ข้อความชี้แจง แถลงข่าวของอาจารย์อ้อย อัจฉราวดี วงศ์สกล โดยระบุข้อความว่า

ความจริงที่ถูกเปิดออก -ภาพจากการแถลงข่าวเผยความจริงที่ถูกลวง

          ประเด็นสำคัญ อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ประกาศฟ้องศาลดำเนินคดีอดีตศิษย์ ที่มีความอาฆาตมาดร้าย และมุ่งทำลายสายธรรม ที่เข้าร่วมผสมโรงกับผู้เสียประโยชน์ และกลุ่มอดีตศิษย์ได้กล่าวเท็จให้ร้ายสายธรรมอย่างสิ้นความละอายที่สุด จนต้องประกาศพึ่งศาลยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์และความสง่างาม 
 

           อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล แถลงข่าวเผยขบวนการทำลายชื่อเสียง บิดเบือนความจริงเพื่อมุ่งทำลายชื่อเสียงเป็นเหตุมาจากกรณีการทำแคมเปญ “หยุดอลัชชี” และมีอดีตลูกศิษย์เข้ามาผสมโรง เอาภาพต่างๆ ในสายธรรม เจาะจงเลือกภาพนำไปใช้และเติมคำใส่คำเพื่อให้ดูว่าท่านพยายามทำตัวสูงส่ง อีกทั้งยังกล่าวเท็จอย่างไม่มีความละอายว่า ท่านเรียกเก็บเงินบริจาคเพื่อให้ผู้มาปฏิบัติเตโชวิปัสสนาว่า หากบริจาคเงินมากจะได้รับการประกาศสถานะอริยบุคคล ท่านอาจารย์กล่าวว่า

“เป็นการกล่าวเท็จที่เลวทรามที่สุด ที่ดูหมิ่นเหยียดหยามสายธรรเมเตโชวิปัสสนา ทำให้สายธรรมถูกดูแคลน ทำให้ผู้ปฏิบัติวิปัสสนาด้วยเพื่อการพ้นทุกข์ ถูกดูแคลน ” 
ท่านประกาศฟ้องศาลอาญา กลุ่มบุคคลผู้กล่าวคำเท็จด้วยความอามาดร้าย มีเจตนาทำให้ท่านและสายธรรมเสียหาย ท่านจึงต้องออกมาปกป้องสายธรรมและผู้ที่อุทิศปกป้องพระพุทธศาสนา โดยจะดำเนินการฟ้องร้องทันทีที่รวบรวมข้อมูลหลักฐานเสร็จส่วนกรณีให้ร้ายอื่นๆ ท่านอาจารย์ถือว่าเป็นวิถีของการสู้กับความมืดบอด จึงทำเพียงแถลงความจริงต่อสาธารณชน ตามที่สำนักพุทธแนะนำ หลังจากที่ได้มาตรวจสอบและไม่พบข้อสงสัยแต่อยางใด
 

           ท่านอาจารย์ได้กล่าวยกมือไหว้ขอขมาต่อพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในคำเขียนรณรงค์ "หยุดอลัชชี" ว่าอาจแรงไปโดยเฉพาะคำว่า "พระค่อนประเทศ" ทั้งนี้มีเจตนาบริสุทธิ์ที่ปลุกจิตให้ฝั่งสงฆ์และฆราวาสตื่นมาช่วยแก้ไขความเสื่อม และกล่าวว่า ขอให้อลัชชีทั้งหลาย สึกออกมาเป็นฆราวาส เพื่อหยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา และฆราวาสลุกมาเป็นพุทธบริษัทที่เข้มแข็ง ไม่เป็นพุทธเพียงแค่ในทะเบียนบ้าน เพื่อช่วยแก้ไขความเสื่อมในพระศาสนา

           การนี้ ท่านยังได้แสดงบัญชีที่มาการได้รับบริจาค การใช้จ่ายเงินของมูลนิธิโนอิ้ง บุดด้า อย่างโปร่งใสว่าไม่ใช่นำไปใช้ในเรื่องพาณิชย์ แต่นำไปเป็นค่าเช่าบิลบอร์ดรณรงค์ให้ชาวต่างชาติรู้หลักปฏิบัติต่อสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ไม่ลบหลู่และไม่นำสัญลักษณ์ไปใช้เป็นของตกแต่ง ซึ่งคำแถลงนี้เป็นที่พอใจแก่ผู้สื่อข่าวจนไม่มีการติดใจสงสัยใดๆ

นี่คือส่วนนึงของการแถลงจากท่านอาจารย์
 

           เมื่อเว็บไซต์ alittlebuddha. ซึ่งเป็นพระอยู่ ,สำนักข่าว Tnews และ ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ที่นำข้อมูลที่บิดเบือน ดัดแปลงข้อเขียน ทำให้สาธารณชนมีความสงสัยและเกิดความไม่พอใจ อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ประธานมูลนิธิโนอิ้ง บุดด้า และวิปัสสนาจารย์สายธรรมเตโชวิปัสสนา กล่าวว่า ข้อมูลต่างๆ ถูกบิดเบือนเพื่อมุ่งความเชื่อถือ มีการเปิดประเด็นทำลายทีละขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ท่าน ตกเป็นจำเลยของสังคม อาจารย์อัจฉราวดี เริ่มสอนธรรมให้แก่เยาวชน ในนามมูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต ตั้งแต่ปี 2549 เป็นเวลา 11 ปี และสอนวิปัสสนากรรมฐาน ในเทคนิควิธี เตโชวิปัสสนา ตั้งแต่ปี 2554 ต่อเมื่อเริ่มเกิดมาตั้งแต่ อาจารย์เปิดประเด็น "หยุดอลัชชี" เมื่อกลางเดือนมกราคม ปี 2018 ก่อให้เกิดแรงต้านและตามมาด้วยการพยายามทำลายด้วยการบิดเบือนข้อมูลที่เป็นเท็จ เพื่อให้เกิดความแตกแยกเกลียดชัง ประเด็นที่ถูกกล่าวหาและถูกเผยไปในสังคมวงกว้าง

อาจารย์อัจฉราวดี พร้อมแถลงข้อสงสัยทุกประเด็น โดยส่วนที่มีศัพท์ทางธรรม ขอชี้แจงไว้ 4 กรณี ในเอกสารนี้

1. ประเด็นบิดเบือนคำสอน ไม่มีชื่อคำว่า "เตโชวิปัสสนา" ไม่ใช่วิปัสสนาตามหลักคำสอน

ตอบ เตโชวิปัสสนา เป็นการปฏิบัติวิปัสสนาตามหลักสติปัฏฐานสี่ ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนทุกประการ 
เตโชวิปัสสนา คือชื่อเทคนิคการปฏิบัติ ที่ทำให้เข้าถึงสติปัฏฐานสี่ ที่ตั้งสติดูกาย เวทนา จิต ธรรม โดยมีสัมปชัญญะ คือการรู้ชัดกำกับ ซึ่งสมาธิไม่มีสัมปชัญญะ โดยตีตรงมาที่ อาตาปี สัมปชาโณ สติมา มีความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อน เราไม่ได้เพ่งดูภายนอก เพ่งดูกายด้วยขันติ วิริยะ ทำให้เกิดธาตุไฟจากในกายมาเผากิเลส เป็นหลักเทคนิควิธีที่ทรงอานุภาพมาก ภาวนาแล้วจิตจึงเปลี่ยนได้ใน 7 วัน จิตมีความบริสุทธิ์จากกิเลส เกิดปัญญาจักษุ เกิดสำนึกผิดชอบชั่วดี และมีความกตัญญูอย่างยิ่ง เพราะจิตที่หยาบกระด้างที่เป็นผลมาจากกิเลสถูกเผาตรงตัว จิตจึงเปลี่ยนและอยากทำแต่ความดีคำว่าเทคนิค ก็เหมือนคำว่า พุทโธ ยุบหนอพองหนอ คำเหล่านี้ไม่มีในพระไตรปิฎก แต่เป็นเทคนิควิธีให้เข้าถึงการปฏิบัติสมาธิ

2. กล่าวอวดว่า “ฆราวาสบรรลุธรรมได้”

ตามการบันทึกในพระไตรปิฎกในสมัยพุทธกาล มีอุบาสกอุบาสิกา บรรลุธรรมทุกลำดับขั้นมากมาย โดยนางวิสาขา บรรลุโสดาบันตั้งแต่ 7 ขวบท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี บรรลุขั้นโสดาบัน ท่านหมอชีวกโกมารพัจจ์ บรรลุขั้นสกิทาคามี พระเจ้าสุทโธทนะ พระบิดาของพระพุทธเจ้า บรรลุขั้นอรหันต์ ขณะที่กำลังเสด็จสวรรคต
สำหรับในยุคปัจจุบัน มีที่บรรลุขั้นสูงคือตามที่มีการกล่าวถึงคือ คุณแม่จันดี โลหิตดี น้องของหลวงตามหาบัว 
ท่านเล่าประสบการณ์ไว้ว่า (โดยย่อ).. “อวิชชาขาดกระเด็นออกจากจิต...-ขณะนั้นรู้ว่า อวิชชาเหนียวแน่นมาก พร้อมกับก้นกระแทกพื้นสูง 1 ศอก โลกธาตุหวั่นไหว แผ่นดินสะเทือน” เมื่อท่านเล่าให้หลวงตามหาบัวฟัง
หลวงตากล่าวว่า “อ้าย(พี่) หมดห่วงแล้ว”

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

: จิตที่ว่างเปล่าเป็นแบบนี้นี่เอง!! "คุณแม่จันดี โลหิตดี" น้องสาวหลวงตามหาบัว เล่าเรื่องอัศจรรย์ใน "คืนบรรลุธรรม" กราบสาธุ !!

: แตกต่างกันเหลือเกิน!! นักเขียนดังชี้จริยวัตรงดงามไม่ฉาบมายาของ "คุณแม่จันดี" เทียบ "อ.อ้อย อัจฉราวดี" รู้เลยใครกันแน่ ฆราวาสบรรลุธรรมตัวจริง

 

ข้อนี้เป็นการพิสูจน์ว่า ฆราวาสบรรลุธรรมได้ การที่อาจารย์ออกมาเขียนหนังสือบอกเล่าประสบการณ์ไม่ใช่การอวดอุตริ แต่เพื่อปลุกจิตสำนึกของฆราวาสให้รู้ว่า การถือศีล 5 ก็บรรลุธรรมได้ ดั่งที่หลวงปู่บุดดา ถาวโร ก็ยืนยันว่า ศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ก็บรรลุธรรมได้ทั้งนั้น ไม่ได้อยู่ที่ผม แต่ฆราวาสยุคนี้ถูกลวงว่าไม่ได้ เพราะไม่ได้เดินอยู่ในเส้นทางอริยมรรค ที่แม้แต่การรักษาศีล ฆราวาสก็ยังไม่รักษาอย่างจริงจัง จึงคิดว่า

บรรลุไม่ได้ แต่หากมีความปรารถนาการหลุดพ้นจริงๆ ปรับเปลี่ยนชีวิต โดยเริ่มจากการรักษาศีล ทำความดี และปฏิบัติวิปัสสนา โดยแบ่งหน้าที่ฆราวาสให้ออกมาเคี่ยวกรำจิตที่วัดหรือธรรมสถานปีละ 2 ครั้ง จากนั้นก็ปฏิบัติอย่างมีวินัยที่บ้าน ปรับองศาชีวิตให้อยู่
ในทางที่ไม่ทำให้จิตตกต่ำ ก็จะบรรลุธรรมได้เป็นลำดับขั้น

 

3. ข้อที่ว่า บอกว่าไม่ให้เชื่อพระไตรปิฎก 

ไม่เคยพูด มีแต่บอกว่า อย่าติดตำรา ตราบใดที่ยังไม่ลงมือปฏิบัติ
ตำราเป็นเพียงการชี้แนวทาง พระพุทธองค์ทรงรู้แจ้งเห็นจริงด้วยการปฏิบัติสติปัฏฐานสี่ เพ่งลงมาที่จิต ไม่ได้ทรงท่องตำราเอาเป็นเอาตาย พระไตรปิฎกเป็นเพียงแนวทาง เมื่อปฏิบัติลงมาที่จิตแล้วจะรู้แจ้ง และเมื่อเอาความรู้นั้นมาสอบทานกับพระไตรปิฎก จะเห็นว่าไม่ผิดกันเลยหากการบันทึกนั้นไม่บิดเบือน

 

4. กรณีการต้องการเป็นเจ้าลัทธิ ท่านปฏิเสธโดยกล่าวว่า คำว่า ลัทธิ คือการประกาศว่าเป็นการคิดคำสอนขึ้นมาเอง แต่ท่านสอนหลักธรรมตามที่พระพุทธองค์ทรงสอน และประกาศตนเป็นพุทธสาวก อีกทั้งเมื่อมีผู้ศรัทธาในสายธรรมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำถูกมองว่าจะสร้างลัทธิ ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่คลาสสิกเมื่อมีคนเห็นความเข้มแข็งของสายธรรม และมองว่าจะมีลักษณะเหมือนธรรมกาย ท่านกล่าวว่า ท่านไม่สนใจเรื่องการสร้างอำนาจ การรวมตัวกันของเหล่าศิษย์ เพื่อเป็นบ่อเกิดแห่งความดีงาม เป็นกำลังในการฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ช่วยหยุดยั้งการลบหลู่พระบรมศาสดา จึงทำให้เป็นเป้าถูกทำลายได้ง่าย

 

        นอกจากนี้เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2561 ทางสำนักพุทธก็ได้เข้าตรวจสอบมูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานของ อาจารย์อ้อย อัจฉราวดี วงศ์สกล ย่านสุขุมวิท หลังจากได้มีกระแสที่เกิดขึ้นในสังคมขณะนี้และประชาชนรวมไปถึงคณะสงฆ์ได้ร้องเรียนผ่านสำนักพุทธฯ และทางมหาเถรสมาคม ถึงกรณีความเหมาะสมของอาจารย์อ้อย ที่เป็นกระแสอยู่ในสังคม แต่ไม่พบสงสัยแต่อย่างใด และยืนยันว่า หากแนวทางปฏิบัติของทางสำนักเตโชวิปัสสนา บิดเบือนคำสอนตามหลักพระพุทธศาสนาจริง ก็จะตักเตือนให้แก้ไขโดยเร็ว

 

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

: เปิดใจให้อยู่เหนืออคติ!! "อ.อ้อย" เจ้าสำนักเตโชฯ ขอแจงบ้าง..ไม่อยากให้ติดกรรมปรามาสครูอาจารย์ หากยังจาบจ้วงต้องรับกรรมสาหัส #ฆราวาสบรรลุธรรม

:  บรรลุธรรมแต่ปรามาสคนอื่น!! ศิษย์เก่า แฉ..คอร์สเตโชฯ "อ.อ้อย" ศิษย์ต้องกตัญญูแบบไหนถึงจะพอใจอาจารย์ ดื้อตาใส..ไม่ต่างอะไรกับร่างทรง !!

: ไม่นิ่งนอนใจ!! สำนักพุทธฯ เข้าตรวจสอบความไม่เหมาะสม "สำนักเตโชฯ" ของ "อ.อ้อย อัจฉราวดี" เหตุอ้างตนว่าเป็น "ผู้บรรลุธรรม" !!

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ กับอ.อัจฉราวดี วงศ์สกล