"ดุสิตโพล" เผยข้อดี-เสีย "250 ส.ว.สรรหา-บัตรลต.ใบเดียว-นายกฯคนนอก" คะแนนสูสีกัน !!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

"สวนดุสิตโพล" เผยข้อดี-ข้อเสียของประชาชนต่อข้อเสนอแม่น้ำ 4 สาย "250ส.ว.สรรหา-บัตรเลือกตั้งใบเดียว-ที่มานายกรัฐมนตรี" คะแนนค่อนข้างใกล้เคียงกัน - ชี้ปชช.ไม่มีส่วนร่วมเลือกส.ว. ไม่เปนปชต. หวั่นเลือกนายกฯคนนอกเกิดความขัดแย้ง ...

 

วันนี้ (27 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง ประชาชนคิดอย่างไรต่อร่างรัฐธรรมนูญ จากที่ประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้มีข้อสรุปเกี่ยวกับข้อเสนอปรับปรุงเนื้อหาในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญที่ คสช. เสนอมา 3 ข้อ โดยกรธ.รับข้อเสนอ คสช. 2 ข้อ คือ "เปิดทางส.ว.สรรหา-เลือกนายกฯนอกบัญชี" แต่ให้ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวตามที่กรธ.ได้กำหนดไว้ เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งจากผลสำรวจจำนวนทั้งสิ้น 1,326 คน สำรวจระหว่างวันที่ 22-26 มีนาคม 2559 สรุปผลได้ ดังนี้
         


เมื่อถามว่า จากที่ กรธ. ปรับปรุงเนื้อหาในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญที่ คสช.เสนอ ประชาชนคิดว่าการปรับปรุงเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญมี ผลดี-ผลเสีย อย่างไร ในการเห็นชอบให้มีวุฒิสภาจำนวน 250 คน โดยแบ่งเป็นส.ว.จำนวน 200 คน มาจากการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาจำนวน 8-10 คน ตามที่คสช.กำหนด ส่วนอีก 50 คนมาจากการเลือกกันเองของส่วนภูมิภาคตามสาขาวิชาชีพ 20 ด้าน จำนวน 231 คน ก่อนเลือกให้เหลือ 50 คน ตามหลักเกณฑ์ที่คสช.กำหนด ทั้งนี้ กำหนดให้บุคคลในคสช.และผู้ดำรงตำแหน่งข้าราชการประจำสามารถเป็น ส.ว.ได้ โดยส.ว. ไม่มีอำนาจ ในการเลือกนายกฯ และเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
         


ผลดี คือ
         


อันดับ 1 ได้คนที่มาจากหลากหลายสาขาอาชีพและตัวแทนที่มาจากส่วนภูมิภาค 74.91%
         


อันดับ 2 ได้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงาน มีความเห็นมุมมองที่หลากหลาย 72.77%
         


อันดับ 3 ทำงานคล่องตัว เป็นอิสระ ตรวจสอบการทำงานได้ง่าย 62.51%
         


อันดับ 4 สานต่องานหรือนโยบายต่างๆที่กำหนดไว้ สามารถจัดการเลือกตั้งได้ตามเวลา 54.81%
         


ผลเสีย คือ
         


อันดับ 1 ประชาชนไม่มีส่วนร่วมในการเลือก ส.ว. ไม่เป็นประชาธิปไตย 77.29%
         


อันดับ 2 มีการทุจริตคอรัปชั่น แบ่งพรรคแบ่งพวก เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง 74.06%
         


อันดับ 3 อาจเกิดความขัดแย้งหรือมีปัญหาในการทำงานภายหลัง 69.47%
         


อันดับ 4 สว. ไม่มีสิทธิอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่มีอำนาจในการตรวจสอบเท่าที่ควร 63.10%
         


เมื่อถามว่า ยืนยันให้ใช้ระบบการเลือกตั้ง ส.ส.แบบจัดสรรปันส่วนผสมด้วยการลงคะแนนในบัตรเลือกตั้ง เพียงหนึ่งใบตามที่กรธ.ได้กำหนดไว้
         


ผลดี คือ
         


อันดับ 1 ประหยัดงบประมาณ /กระดาษ /กำลังคนและเจ้าหน้าที่ 70.96%
         


อันดับ 2 การกาบัตรสะดวก เข้าใจง่าย กาเพียงใบเดียว 62.40%
         


อันดับ 3 เจ้าหน้าที่สามารถนับคะแนนได้เร็ว ตรวจสอบง่าย 59.22%
         


อันดับ 4 ประชาชนได้มีส่วนร่วม มีสิทธิมีเสียงในการตัดสินใจเลือก ส.ส.ที่ต้องการ 55.93%
         


ผลเสีย คือ
         


อันดับ 1 เป็นการจำกัดสิทธิประชาชน บังคับให้เลือกได้เพียงอย่างเดียว ความชื่นชอบพรรคกับตัวบุคคลอาจไม่เหมือนกัน 70.15%
         


อันดับ 2 เกิดการแข่งขันอย่างรุนแรงเพื่อแย่งชิงตำแหน่ง ส.ส. ทำให้เกิดการทุจริต ซื้อเสียง 68.90%
         


อันดับ 3 โอกาสของผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อที่จะได้รับเลือกเข้ามามีน้อยมาก 54.02%
         


อันดับ 4 อาจได้นักการเมืองหน้าเดิมๆเข้ามา ไม่เกิดการพัฒนาทางการเมืองอย่างแท้จริง 49.73%
         


เมื่อถามว่า การเลือกนายกรัฐมนตรี กรธ.ยังคงยืนยันในหลักการที่ให้พรรคการเมืองต้องเสนอชื่อว่าที่นายกฯ จำนวน 3 คน ตามเดิม แต่หากเกิดกรณีสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถเลือกนายกฯได้ จะต้องมีการเปิดประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อลงมติ 2 ใน 3 เพื่อของดเว้นการบังคับใช้รัฐธรรมนูญเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการเลือกนายกฯจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง จากนั้นสภาฯจะเป็นผู้พิจารณาต่อไปว่าจะให้บุคคลใดมาดำรงตำแหน่งนายกฯ โดยบุคคลนั้นจะเป็นหรือไม่เป็น ส.ส.ก็ได้
         


ผลดี คือ
         


อันดับ 1 ประชาชนได้รู้ล่วงหน้าว่าแต่ละพรรคส่งใครเป็นนายกรัฐมนตรีบ้าง 81.33%
         


อันดับ 2 เปิดโอกาสให้คนนอกหรือคนที่ไม่ได้เป็น ส.ส. ได้เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี 61.51%
         


อันดับ 3 เป็นการแก้ปัญหาทางการเมืองร่วมกัน อยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าพัฒนาต่อไปได้ 58.87%
         


อันดับ 4 การเมืองไม่อึมครึม ข้อเสนอต่างๆมีความชัดเจน จะได้รู้ทิศทางในการทำงาน 41.20%
         


ผลเสีย คือ
         


อันดับ 1 คนที่ไม่เห็นด้วยออกมาคัดค้าน เคลื่อนไหว สร้างความขัดแย้งวุ่นวายในสังคม 83.42%
         


อันดับ 2 คสช.ถูกมองว่าใช้อำนาจมากเกินไป เผด็จการ เป็นการสืบทอดอำนาจจาก คสช. 71.02%
         


อันดับ 3 หากเป็นนายกฯคนนอกเข้ามาโดยที่ประชาชนไม่ได้เลือก อาจเกิดความไม่พอใจ 65.28%
         


อันดับ 4 หากที่มาของนายกรัฐมนตรีไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม ต่างชาติอาจไม่ยอมรับก็เป็นได้60.74%