ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/

นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียแถลงถึงการระงับกำหนดการเดินทางเยือนกรุงปารีสในวันที่ 19 ต.ค.นี้ของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อร่วมพิธีเปิดโบสถ์ออร์โธด็อกซ์แห่งใหม่ใกล้กับหอไอเฟิล โดยผู้นำรัสเซียพร้อมเดินทางเยือนเมืองหลวงของฝรั่งเศสอีกครั้ง เมื่อประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ รู้สึกสะดวกใจ  อย่างไรก็ตาม กำหนดการเดินทางเยือนกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันนี ในวันที่ 19 ต.ค. ยังคงเดิม ซึ่งก่อนการแถลงครั้งนี้ ทางด้านผู้นำฝรั่งเศส นั้นได้ให้สัมภาษณ์ ว่ายังไม่แน่ใจว่าจะพบปะหารือกับทางด้าน ผู้นำรัสเซียหรือไม่ ซึ่งอาจจะทำให้เป็นเหตุผลที่ทางรัสเซียนั้น จึงยกเลิกกำหนดเดินทางดังกล่าว 
   

ขณะที่ทางฝั่งของรัฐบาลฝรั่งเศส ก็แจ้งกลับมาว่า ผู้นำฝรั่งเศสยินดีพบหารือกับปูติน "เพื่อสันติภาพในภายภาคหน้า" ทั้งนี้ รัสเซียกับฝรั่งเศสมีท่าทีเรื่องซีเรียที่แตกต่างกันมากขึ้นอย่างชัดเจนในระยะหลังโดยต่างฝ่ายซึ่งต่างเป็นหนึ่งในสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ใช้อำนาจวีโต้ยับยั้งร่างมติของอีกฝ่ายเกี่ยวกับการจัดการสถานการณ์ในซีเรีย เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 5 แล้วที่รัฐบาลรัสเซีย ใช้สิทธิ์วีโต้เรื่องซีเรีย นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองปะทุขึ้นเมื่อเดือนมี.ค. 2554
    

นอกจากนี้ กองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือกองทัพซีเรียในการโจมตีฝั่งตะวันออกของจังหวัดอเลปโปซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มกบฏ เรียกเสียงประณามอย่างหนักจากฝ่ายตะวันตกรวมถึงฝรั่งเศส ซึ่งกล่าวหารัสเซีย ก่อ "อาชญากรรมสงคราม" และเตรียมดำเนินการผ่านศาลอาญาระหว่างประเทศ ( ไอซีซี ) แต่รัสเซียและซีเรีย รวมถึงสหรัฐไม่ใช่รัฐภาคีของธรรมนูญกรุงโรมที่ก่อตั้งไอซีซี อนึ่งความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นสร้างความกังวลไม่น้อยให้แก่หลายฝ่าย ว่าอาจเป็นชนวนกระตุ้นให้ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับตะวันตกบานปลาย จนอาจกลายเป็น "สงครามเย็นครั้งใหม่"