รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th

๑๒๓ ปี จากนิมิตแห่งจิตอธิษฐานของ ครูบาศรีวิชัย จนสามารถสร้างศรัทธาในการสร้าง"วัดศรีดอนชัยทรายมูลบุญเรือน"

ครูบาศรีวิชัย "นักบุญแห่งล้านนา" พระภิกษุที่เป็นที่เคารพนับถือของคนไทยโดยเฉพาะคนภาคเหนือ ในฐานะ พระภิกษุธรรมดาที่ไม่มีสมณศักดิ์ หรือตำแหน่งใดๆทางคณะสงฆ์ ตลอดอายุที่บวชในพระศาสนา ๔๒ พรรษา ได้สร้าง คุณประโยชน์ทั้งทางโลก และทางพุทธศาสนา ทั้งการบูรณะวัดร้างต่างๆให้กลับมามีความเจริญจนถึงในปัจจุบัน ในช่วงหลังจากพระอาจารย์ “ครูบาขัติ” เจ้าอาวาสวัดบ้านปางที่ท่านบวช และจำพรรษาอยู่ มรภาพ และชาวบ้านนิมนต์ให้ท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านปาง ด้วยความที่มีคนศรัทธาในตัวพระศีวิชัยชอบมาทำบุญ ฟังเทศฟังธรรมเป็นจำนวนมาก จนทำให้วัดบ้านปางดูคับแคบไปเป็นอันมาก รวมทั้งพระ และสามเณรที่มาบวชก็มีจำนวนมากด้วย ประกอบกับสถานที่ตั้งของวัดบ้านปางนั้นอยู่บนที่ราบเชิงเขาใกล้ชิดติดกับบ้านปางจึงหาความสงบไม่ค่อยจะได้

ครูบาศรีวิชัยจึงคิดถึง สถานที่ที่เคยไปนั่งวิปัสสนาหาความสงบแห่งดวงจิตอยู่เสมอๆ ท่านจึงเกิดความคิดที่จะสร้างวัดบ้านปางขึ้นใหม่บนยอดเขาแห่งนั้น ตามประวัติแล้ว เมื่อท่านจะเริ่มทำสิ่งใด ท่านต้องขอเวลานั่งอธิษฐานเสียก่อน เมื่ออธิษฐานแล้วถ้ามีนิมิตชี้ให้เห็นว่าสิ่งนั้นจักต้องสำเร็จ จึงเริ่มลงมือ และบอกกล่าวแก่อุบาสกอุบาสิกา ตลอดจนสานุศิษย์ของท่าน ฉะนั้น เมื่อเกิดความคิดที่จะสร้างวัดบนยอดเขาแห่งนี้ ในคืนวันหนึ่ง ครูบาศรีวิชัยจึงชวนพระภิกษุร่วมวัดรูปหนึ่ง ออกจากวัดบ้านปาง ตรงไปยังยอดเขาแห่งนั้น นั่งวิปัสสนากรรมฐาน ตกดึกครูบาศรีวิชัยก็เกิดนิมิต เห็นดวงจันทร์ที่อยู่สูงสุดฟ้าค่อยๆ ลอยต่ำลงมา ใกล้เข้ามาจนแทบจะเอื้อมมือไปคว้าได้ถึง แต่มิได้หยุด คงเคลื่อนลอยต่ำลงมาแทบทับลงบนตัวท่านที่กำลังมองอยู่ จนแสงสว่างจ้าแสบตา ในวินาทีนั้นเอง ครูบาศรีวิชัยก็ตกใจตื่น ท่านทราบทันทีว่า นี่คือนิมิตอันดี จะสามารถสร้างวัดบนยอดเขาแห่งนี้ได้สำเร็จ รุ่งเช้า ครูบาศรีวิชัย และเพื่อนพระภิกษุลงจากยอดดอยแล้วกลับสู่วัดบ้านปาง ณ ที่นั้น มีสานุศิษย์มาร่วมชุมนุมกันอยู่หลายร้อยคน ครูบาศรีวิชัยจึงได้แจ้งแก่สานุศิษย์ว่า จะสร้างวัดบ้านปางใหม่บนยอดดอยแห่งนี้

เหมือนคำประกาศิตของผู้วิเศษดังนั้น สานุศิษย์ยินดีที่จะได้ร่วมสร้างวัดบ้านปางใหม่ขึ้น ต่อมาข่าวเรื่องครูบาศรีวิชัยจะสร้างวัด ก็แพร่หลายไปทั่ว ไม่ว่าชาวป่า ชาวเขา หรือคนเมืองชนบทเมื่อได้รับข่าวนี้ ต่างก็มุ่งหน้าเดินทางมาสู่บ้านปาง จำนวนร้อย จำนวนพันเพื่อช่วยครูบาศรีวิชัยสร้างวัด นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะความศรัทธาของผู้ที่นิยมนับถือในตัวท่าน ต่างคนต่างมากันเองโดยมิได้มีการเกณฑ์ หรือนัดหมายมาก่อน งานสร้างวัดบ้านปางบนยอดเขาสำเร็จลงอย่างรวดเร็ว พระอารามใหม่ของครูบาศรีวิชัย ก็สำเร็จในเวลาอันสั้น วันที่สร้างวัดเสร็จนั้นตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๓ จุลศักราช ๑๒๖๖ ฉลูศก ตรงกับปี พ.ศ. ๒๔๔๗ แล้วได้ตั้งชื่อให้วัดบ้านปางใหม่แห่งนี้ว่า “วัดศรีดอนไชยทรายมูลบุญเรือน” คือ เหมาะแก่ผู้ทรงศีล การสร้างวัดแห่งนี้ เปรียบเสมือนหนึ่งการพิสูจน์เกียรติคุณ หรือบารมีของครูบาศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง ๒๖ ปี มีพรรษาเพียง ๘ พรรษาเท่านั้น

ปัจจุบันวัดบ้านปางติดป้ายชื่อวัดว่า “วัดจ๋อมสหรีทรายมูลบุญเรือง” (เอกสารอื่นๆ มีทั้งเขียน สะหลี-สะหรี-สรี-ศรี) แต่ครั้นเมื่อเปิดไปอ่านเอกสารโบราณ กลับพบว่าเมื่อแรกสร้างวัดบ้านปาง ครูบาเจ้าศรีวิชัยเคยตั้งชื่อวัดว่า “วัดศรีดอนไชยทรายมูลบุญเรือง”