- 23 ก.พ. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี(พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) และอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ Paisal Puechmongkol กรณีเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจค้นบริเวณหลังวัดพระธรรมกาย ริมถนนคลองแอล ต่อมาพบว่ามีตู้คอนเทรนเนอร์เป็นจำนวนมากวางอยู่ ประมาณนับร้อยตู้ แต่ยังไม่มีการเปิดออกมาให้สื่อมวลชนดูแต่อย่างใด โดยเนื้อหาที่กก.ผู้ช่วยรองนายกฯโพสต์นั้นมีทั้งหมดว่า
“ อยากรู้ไหมในตู้คอนเทนเนอร์มีอะไร
ตู้คอนเทนเนอร์หลังวัดกว่าร้อยตู้ แต่ละตู้ราคาเป็นแสน รวมเป็นเงินกว่าสิบล้านบาท เอามากองเป็นขยะแค่นั้นรึ ไม่ใช่มั๊ง
มิหนำซ้ำทำไมหวงกันจังไม่ยอมให้เปิดค้น
อยากรู้จังว่าในตู้คอนเทนเนอร์มีอะไร
ใครอยากรู้บ้าง
เสบียง
ของเตรียมขนไปต่างประเทศ
ปืนที่ปล้นจากสี่แยกคอกวัว
อาวุธ
ยุทโธปกรณ์
ไม้พยุง
พระพุทธรูปเก่า
วัตถุโบราณจากวัดต่างๆ
ของถูกภาษี
รถหรู
ฯลฯ
ตอนนี้ก็เริ่มออกอาการแล้วว่าไม่รู้ว่าเป็นของใคร? ”
ขณะที่ความเคลื่อนไหวที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ภาค 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวพระภิกษุจำนวน 6 รูป และบุคคลต้องสงสัยอีก 20 คน จากบริเวณใกล้กับอาคารบุญรักษา ประตู 4 มาสอบปากคำ เนื่องจากพฤติการณ์ต้องสงสัยและขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และจากการที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวพระจำนวน 6 รูป พร้อมบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก 20 คนมาสอบนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบสิ่งผิดกฎหมายในตัวพระสงฆ์ และบุคคลที่เกี่ยวดังกล่าวด้วยซึ่งยังไม่ได้รับการเปิดเผยว่ามีอะไรบ้าง
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีที่มีการตรวจค้นวัดพระธรรมกายครบ 7 วัน ว่า หากทำไม่ได้ก็ต้องเดินหน้าไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงและบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนที่มีการยั่วยุจากศิษย์ยานุศิษย์นั้น ได้ขอให้สื่อทำความเข้าใจ ว่าเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนจะมีการยกเลิกม.44 หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เหตุการณ์ยังไม่จบและไม่พบตัวพระธัมมชโย นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวย้ำอีกว่า ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยแผนปฏิบัติการกับสื่อมวลชน ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ส่วนที่มีการจับกุมผู้ขัดขวางทั้ง 20 นั้น ก็เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายอีกทั้งยังไม่เรียกหมายจับพระ 14 รูปที่ได้มีการออกหมายเรียกให้มารายงานตัวก่อนหน้านี้
เรียบเรียงโดย : ศิริพงศ์ สำนักข่าวทีนิวส์
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Paisal Puechmongkol