- 06 ต.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด : http://www.tnews.co.th
หลังจากที่รถไฟฟ้าบีทีเอสได้มีการปรับอัตราค่าโดยสารจากสายสีลม-บางหว้า ไปสายสุขุมวิท เป็นราคา 59 บาท ทุกเส้นทางนั้น ทำให้ชาวโซเชียลและผู้ใช้บริการ ต่างพากันบ่นว่ามีราคาแพงเกินไป พร้อมทั้งบอกด้วยว่า มีแต่ขึ้นราคาแต่คุณภาพการใช้บริการกลับไม่พัฒนาเอาเสียเลย
ล่าสุดทางนายธนูชัย หุ่นนิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร ได้ออกมาชี้แจง เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า ตามที่มีการปรับราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสในส่วนของเส้นทางสัมปทานสายสุขุมวิท ตั้งแต่สถานีหมอชิตถึงสถานีอ่อนนุช และสายสีลมตั้งแต่สถานีสะพานตากสินถึงสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ระยะทางรวม 23.5 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 นั้น เป็นไปตามสัญญาสัมปทานระหว่างกรุงเทพมหานคร กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
โดยได้ติดป้ายแสดงราคาค่าโดยสารบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกสถานี พร้อมระบุอัตราค่าโดยสาร ในการเดินทางไปยังสถานีแต่ละแห่งอย่างชัดเจน เพื่อแจ้งให้ผู้โดยสารทราบและสามารถชำระค่าตั๋วโดยสารได้ถูกต้อง ซึ่งการคิดอัตราค่าโดยสารจะเริ่มต้นสถานีแรกที่ราคา 16 บาท และปรับเพิ่มตามระยะทางซึ่งจะไม่เกิน 44 บาท หากโดยสารตั้งแต่ 8 สถานีขึ้นไป จะคิดอัตราเท่าเดิมคือ 44 บาท
สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางต่อเนื่องในเส้นทางส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท จากสถานีอ่อนนุช-สถานีสำโรง และส่วนต่อขยายสายสีลม จากสถานีวงเวียนใหญ่-สถานีบางหว้า จะต้องชำระค่าโดยสารเพิ่ม ซึ่งในส่วนของส่วนต่อขยาย คิดในอัตราเดียวคือ 15 บาท เมื่อรวมกันจึงเป็นราคา 59 บาท ตามที่แสดงในตารางราคาบริเวณสถานีบีทีเอส
ขณะที่ในเว็บบอร์ด Pantip ก็ได้ตั้งกระทู้ถึงอัตราค่าโดยสารบีทีเอสใหม่ว่า แพงเกินจริงหรือไม่ โดยมีการเปรียบเทียบกับค่าครองชีพของคนไทย และมีการเปรียบเทียบกับราคาในต่างประเทศ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับการจัดการเดินรถในต่างประเทศจะเห็นว่าส่วนใหญ่มีการพัฒนาเส้นทางโดยรอบของสถานีในเชิงพาณิชย์ ซึ่งสามารถนำรายได้ดังกล่าวมาเป็นทุนในการบริหารและจัดการเดินรถได้ แต่ประเทศไทยยังไม่มีการพัฒนาพื้นที่เพื่อการพาณิชย์มากนัก จึงจำเป็นต้องนำรายได้จากการจัดเก็บค่าโดยสารมาเป็นต้นทุนในการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส
และหากย้อนไปดูสัญญาสัมปทานระหว่างกรุงเทพมหานคร กับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สัญญาระบุไว้ว่าบริษัทอาจปรับค่าโดยสารที่เรียกเก็บเป็นคราวๆ ไป และสามารถปรับค่าโดยสารได้ทุก 18 เดือน แต่ต้องไม่เกินเพดานอัตราค่าโดยสารขั้นสูงสุด ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 60.31 บาท โดยมีการปรับราคาค่าโดยสารครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2556 นับรวมเวลาก็กว่า 4 ปีแล้ว
ขอบคุณรายละเอียด : fm91bkk.com