ติดตามรายละเอียด : http://www.tnews.co.th

จากกรณีเจ้าหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอบุกจับ แก๊งลวงโลกอ้างเป็นรัชทายาทมอญ โดยมีนางสุภัตทา จันทรรังสี ประธานกรรมการบริษัทฮัจยี กรุ๊ป ตกเป็นผู้ต้องหา พรบ.คอมพิวเตอร์และความมั่นคงเนื่องจากพบว่าขบวนการของนางสุภัตทา มักแอบอ้างเป็นบุคคลระดับสูงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกองทัพจึงพ่วงข้อความความมั่นคงไปด้วยนอกจากการต้มตุ๋นเล่นแชร์สร้างเมืองใหม่มอญ และแชร์เหมืองทองมือละ 2 แสนบาทแล้วยังเปิดบริการซื้อ-ขายตำแหน่งนายพลตำรวจกำมะลอ โดยมีประชาชนหลงเชื่อแล้วกว่าหมื่นคน มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท อาทิ ระดับพลตำรวจตรี ต้องบริจาค 5 หมื่นบาท ส่วนพลตำรวจโท 8 หมื่นบาท และยังมีการเปิดเป็นสำนักงานหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเรือนนั้น

 

ล่าสุด พ.ต.ต.สุริยา สิหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลาง เข้าตรวจค้นอาคารเลขที่  65 หมู่ 4 ถนนสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทเอสวี ลิสซิ่ง จำกัด และบริษัทในเครือข่ายอีกหลายบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับแก๊งเจ้ารัฐมอญปลอม

ไปกันใหญ่เลวลวงโลก!! DSI ขยายผล 18 มงกุฎอ้างสนิทเจ้ารัฐมอญ บุกค้นบ้านดร. โยงแก๊งแต่งนายพลขายหากินเจอหลักฐานอื้อ!?!

 

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า จากพยานหลักฐานที่มีอยู่สามารถเชื่อมโยงได้ว่า บริษัทแห่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่อุปโลกตัวของเจ้าเทพโยธิน มหาทุน ขึ้นมา รวมถึงเป็นที่เก็บเอกสารเกี่ยวกับการลงทุนสัมปทานโครงการก่อสร้างของรัญมอญในประเทศเมียมา ซึ่งจากการตรวจค้นภายในบริษัทพบเอกสารที่อ้างว่าที่จะทำโครงการในรัฐมอญ และสอดคล้องกับเอกสารที่ได้จากบริษัท ฮัจยี กรุ๊ป ทั้งสิ้น 78 โครงการ โดยทางดีเอสไอจะนำเอกสารที่ได้ไปตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีความเชื่อมโยงจริงหรือไม่ รวมถึงจะสืบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดทุกคนในเครือข่ายนี้ด้วย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบสมุดที่จดบันทึกรายการจ่ายเงินในการเคลียร์คดีต่างๆที่บริษัทแห่งนี้ได้จ่ายให้กับหน่วยงานภาครัฐเป็นรายเดือน เพื่อยุติธรรมการดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบันอีกด้วย

ไปกันใหญ่เลวลวงโลก!! DSI ขยายผล 18 มงกุฎอ้างสนิทเจ้ารัฐมอญ บุกค้นบ้านดร. โยงแก๊งแต่งนายพลขายหากินเจอหลักฐานอื้อ!?!


ด้าน ดร.หงสราช รอดเรือง เจ้าของบริษัทเอสวี ลิสซิ่ง จำกัด และบริษัทในเครือ เปิดเผยว่า บริษัทของเราไม่ได้มีส่วนในการหลอกลวงให้เข้ามาร่วมลงทุนสัมปทานโครงการก่อสร้างฯ  แต่ตัวของเจ้าเทพโยธิน มหาทุน ได้เข้ามาติดต่อกับตนเองโดยตรง พร้อมบอกว่าสามารถต่อรองกับรัฐบาลเมียนมาในการก่อสร้างได้ ซึ่งเราก็ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลแล้วก็พบว่าเจ้าเทพโยธิน มหาทุน มาแอบอ้างจึงได้ทำการยกเลิกสัญญาไป พร้อมขอย้ำว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น