"ธีระชัย" บอกเจ้าสัวถ้าอยากช่วยชาติให้ขึ้นเงินเดือนลูกจ้าง ดีกว่ายุรัฐบาลหยิบทุนสำรองมาใช้

ติดตามรายละเอียด FB : DEEPS NEWS

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัว “Thirachai Phuvanatnaranubala” กล่าวถึงกรณีที่ นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เสนอแนะให้รัฐบาลนำทุนสำรองระหว่างประเทศ มาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยระบุว่า ข้อเสนอของ ปธ.เครือสพัฒน์นั้นไม่ถูกต้องตามหลักการ

นายธีระชัย อธิบายว่า ขณะนี้ไทยมีทุนสำรองระหว่างประเทศสูงถึงเกือบ 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือร่วม 6.5 ล้านล้านบาท) ซึ่งสำหรับคนที่ไม่เข้าใจเรื่องการเงินการคลังจะเสนอว่าน่าจะไปใช้ลงทุนทำโครงการต่างๆ ทว่าจริงๆ แล้วเงินจำนวนนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องเก็บไว้เพื่อรองรับการแทรกแซงตลาดสากลเพื่อดูแลเงินบาท และตามหลักสากลที่ทั่วโลกพึงปฏิบัติ มักเก็บในรูปสกุลเงินหลัก 3 สกุล ได้แก่ดอลลาร์สหรัฐ ยูโร และเยน พร้อมกับเก็บไว้ในรูปของทองคำ

“ถ้าหากเอาเงินนี้มาลงทุนในประเทศ จะเป็นทรัพย์สินในสกุลเงินบาท นอกจากจะทำให้ไม่เป็นทุนสำรองที่จะสามารถใช้แทรกแซงซื้อขายสกุลต่างประเทศในตลาดสากลแล้ว ยังจะก่อปัญหาต่อนโยบายการเงินอีกด้วย เพราะแบงค์ชาติจะไม่สามารถควบคุมปริมาณเงินบาทในประเทศได้” อดีต รมว. คลัง กล่าว

นายธีระชัย ยังกล่าวอีกว่า หากบรรดาเจ้าสัวทั้งหลายอยากช่วยประเทศชาติจริงๆ ก็ควรเป็นฝ่ายนำหน้ารัฐเสียเอง ไม่ใช่ให้รัฐนำเงินของส่วนรวมมากระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่ง รมว. คลัง นั้นเคยใช้มาตรการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล เพื่อให้ธุรกิจเก็บกำไรสุทธิเป็นเม็ดเงินในมือได้มากขึ้น  โดยหวังว่านักธุรกิจจะช่วยกันนำกำไรจากการประหยัดภาษีดังกล่าว กลับมาลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่พบว่าการลงทุนกลับเกิดขึ้นน้อยมาก

“ถ้าไม่กล้าลงทุนกันจริงๆ ท่านก็ควรเอากำไรสะสมไปจ่ายโบนัส หรือขึ้นเงินเดือนให้พนักงานและลูกจ้าง หรือจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นแทน เพราะการกระจายเงินออกไปอยู่ในมือคนอื่นที่จะเอาไปใช้ประโยชน์ได้ ก็จะยังดีเสียกว่าเก็บไว้เป็นกำไรสะสมโดยไม่เอาไปลงทุนสร้างงาน” อดีต รมว. คลัง กล่าวย้ำ