- 18 ก.ค. 2561
เรื่องลี้ลับที่ถูกถ่ายทอด จากหนึ่งในทีมค้นหาสำรวจปล่องถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน เกี่ยวกับ เรื่องหลอน ประสบการณ์สุดขนหัวลุก
จากกรณีที่มีเด็กนักกีฬานักฟุตบอลและโค้ช รวม 13 ชีวิต ได้สูยหายเข้าไปในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 มิถุนายน 2561) และไม่กลับออกมาอีกเลย ในขณะนี้หน่วยซีลและเจ้าหน้าที่ ได้พบเด็กๆและโค้ชทั้ง 13 ชีวิต และทุกคนปลอดภัยดี โดยจุดที่พบอยู่ห่างจากพัทยาบีช 400 เมตร
ทั้งนี้ทาง เจ้าหน้าที่และหน่วยซีลได้ช่วยเหลือทีมหมูป่า ออกมาจากถ้ำได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด 13 คน นำส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ท่ามกลางการให้กำลังใจของคนไทยทั้งประเทศ ที่เฝ้าติดตามชมข่าวสาร
ล่าสุดผู้ใช้เฟสบุ๊ค Folk Kamponsak Sassadee ซึ่งเป็นเฟสบุ๊คส่วนตัวของหนึ่งในทีมค้นหาปล่องถ้ำ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ได้เจอเรื่องแปลกสุดลี้ลับและได้มีคนมาถามเขาว่า ตอนมุดเข้าสำรวจถ้ำและปล่องแคบๆที่เขาหลวงนางนอน นั้นไม่กลัวผีบ้างเหรอ พร้อมกับเล่าเรื่องขนหัวลุกที่ตัวเขาเองได้ประสบพบเจอมา โดดยระบุข้อความว่า
มีถามกันมาเยอะมาก ว่าตอนมุดเข้าสำรวจถ้ำและปล่องแคบๆที่เขาหลวงนางนอน นั้นไม่กลัวผีบ้างเหรอ ..... ถ้ากลัว คือกลัวสัตว์มีพิษ เพราะมันสามารถจู่โจมเราได้ทันที ส่วนสิ่งที่นอกเหนือจากนั้น มันยังไม่จู่โจมหรอก แต่จะดูท่าทีเราและติดตาม ทีนี้มาดูเรื่องที่เคยโดนหนักสุดเรื่องนึง เตือนว่าก่อนจะอ่านควรไปล้างหน้าแปรงฟันเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย
ในห้องร้างบนชั้น 2 ที่บ้านเช่า ...................... ตอนที่สมัยยังเรียนอยู่ ปวส.ปี 1 เพื่อนคนหนึ่งได้มาตามให้ไปช่วยเหลือบางอย่างที่บ้านเช่าของเขา ซึ่งลึกสุดไปยังท้ายซอยแห่งหนึ่งในเขต อ.เมือง จ. สงขลา เพราะเพื่อนคิดว่าเราอาจสามารถสื่อสารกับบางอย่างได้ เพราะว่าเราไม่กลัวผีหรือความมืด และเคยเล่าเรื่องลึกลับให้เขาฟังหลายหนก่อนหน้านี้ วันนั้นจึงไปดูให้ในตอน 4 ทุ่ม พบว่ามันเป็นตึกแถวเก่าๆ 2 ชั้น2 คูหา แต่อยู่อาศัยกันเพียงชั้นล่าง 5 คน ชั้นบนนั้นไม่มีใครกล้าขึ้นไปเยือนแม้แต่ในตอนกลางวัน
เรื่องมันมีอยู่ว่า ทุกคนในบ้านจะได้ยินเสียงคนเดินหรือวิ่งเล่นอยู่ชั้นบน บางครั้งเสียงเหมือนลากเตียง เสียงน้ำไหล หรือเสียงเหมือนลูกบอลกลิ้งลงมาตามบันไดหรือแตะไปมาในห้อง จะได้ยินกันเรื่อยๆ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน จนไม่เคยมีใครกล้าที่จะย่างกรายขึ้นไปบนบ้านชั้น 2 ยอมปูเสื่อนอนกันที่โถงชั้นล่าง เพื่อนอยากให้ขึ้นไปพิสูจน์ว่าชั้นบนมีอะไรบ้าง ก้าวย่างแรกที่เดินเข้าประตูบ้านก็ได้กลิ่นธูปหอมแรงโชยมาจากกลางบ้านชั้นล่างที่เพื่อนจุดไว้ และก็เดินตรงไปที่บันไดมีเพื่อนเดินตามหลังมาติดๆ คนที่เหลือรอลุ้นอยู่ที่โถง
ตอนก้าวขึ้นบันไดก็พยายามหาสวิทช์ไฟชานพักแต่เมื่อเปิดกลับไม่ติดสักดวง มีลมพัดสวนลงมาแรงวูบหนึ่ง ตอนนั้นเริ่มมีลุ้นว่ามีแน่นอน แต่ก็ใจยังสู้จึงเดินขึ้นไปเกือบๆจะถึงชั้น 2 ปรากฎว่า ขณะกำลังจะก้าวย่างสุดท้ายสู่ชั้นสอง ก็ได้มีแรงบางอย่างฟาดลงมาเต็มหน้า มันรู้สึกเหมือนถูกตบด้วยของชิ้นโตๆแน่นๆแข็งๆ คล้ายเหมือนไฟช๊อตหน้า จนตกใจวูบหงายหลังลงมา แต่โชคดีที่เพื่อนเดินตามติดๆดันหลังรับไว้ทัน แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก็บอกว่าไม่มีๆ
แล้วก็ตั้งตัวเริ่มใหม่ คิดในใจว่า เราเจอมาหลายครั้ง อาจแค่หนักกว่าครั้งก่อนๆ จึงให้เพื่อนรอที่ชานพัก รีบเดินขึ้นจนถึงหน้าห้องแรก ลองจับลูกบิดเบาๆ มันไม่ได้ล็อคจึงเปิดประตูเข้าไป อีกมือนึงก็คว้าหาสวิตช์แต่ไฟก็ไม่ติดอีก มีแสงจากเสาไฟฟ้าหน้าบ้านส่องลอดหน้าต่างเข้ามา ทำให้พอเริ่มมองเห็นอะไรลางๆได้บ้าง ในตอนนั้น เริ่มรู้สึกว่ารอบๆตัวเหมือนมีอะไรบางอย่างวิ่งวนไปทั่วทั้งที่ผิวพื้น และบนเพดานคล้ายลมพัดเอื่อยๆ อีกทีนึงก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างเย็นๆคล้ายมาลูบมาเลียขาเบาๆ พยายามก้มเพ่งมองแต่เห็นไม่ชัดนักว่ามันเป็นยังไง
เพื่อนที่รออยู่ที่ชานบันไดก็กระซิบยาวๆว่าเป็นไงบ้าง รีบลงกันเถอะ ...... และแล้ว เมื่อพยายามเพ่งดูก็เห็นมันเหมือนเป็นกลุ่มควันสีดำๆที่คละคลุ้งปนๆกับเงาครึ้มๆไม่มีรูปร่างที่ชัดเจน จางบ้างเข้มบ้าง จึงลองเรียกเล่นๆไปเบาๆว่า " ออกมาคุยกันหน่อย เพื่อนข้างล่างเขาเดือดร้อน "
สักพักก็มีกลิ่นหอม คล้ายๆแป้งน้ำแห้งๆแบบสมัยก่อนโชยมา หันไปดูที่มุมห้องทางขวาก็พบถาดใบหนึ่งที่บรรจุดอกไม้แห้งๆ แก้วน้ำ จานและถ้วย มีตู้เสื้อผ้าใบนึงที่มุมห้อง กับเตียงเก่าๆที่ฝุ่นกลบ และลูกฟุตบอลพลาสติกลูกหนึ่ง จึงเดินถอยหลังช้าๆออกมาจากห้องนั้น ส่วนอีกห้องนึงนั้นประตูล็อคจึงรีบลงมาชั้นล่างมีเพื่อนเดินถี่ๆนำหน้าลงไป ทุกคนที่โถงต่างรอฟังคำตอบอย่างใจจดจ่อ ว่าเจออะไรบ้าง จึงบอกว่า ไม่มีอะไร แต่
....... " หาบ้านเช่าใหม่กันเถอะ พรุ่งนี้เช้าจะช่วยหา " .........
หลายวันต่อมมา ก็ไปสอบถามจากชาวบ้านใกล้เคียง จึงทราบเรื่องว่า ที่ชั้น 2 ของบ้านหลังนั้น เคยมีนักศึกษาหญิงมาเช่า แล้วก็ฆ่าตัวตาย เมื่อกว่า 10 ปี ก่อนหน้านี้
ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟสบุ๊ค Folk Kamponsak Sassadee