จำนำข้าวดีจริงทำไมเพื่อไทยไม่ทำต่อ???ทักษิณไม่ใช่แค่คิด?!?รู้ก่อนแล้วว่าขาดทุน

โครงการรับจำนำข้าวดีจริงทำไมพรรคเพื่อไทยไม่ทำต่อ ทักษิณไม่ใช่แค่คิด รู้ก่อนแล้วว่าขาดทุน

จากคำพูดของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ที่กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียงตลาดผลไม้สะพานขาว ตลาดมหานาค กรณีถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล นโยบายจำนำข้าวจะไม่ทำต่อแล้วนั้น สะท้อนอะไรได้มากมายทีเดียว หนึ่งคือ หากเป็นเรื่องที่ดีจริงทำไมถึงไม่ทำต่อ??? ถ้าไม่มีเรื่องทุจริตจริงจะหยุดทำ-ทำไม?!? นี่เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เพราะที่ผ่านมาชัดเจนอยู่แล้ว นั่นเพราะโครงการดังกล่าวนี้เกิดการทุจริต สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติมหาศาลทั้งยังมีคำตัดสินของศาลออกมาแล้วทำให้มีคนติดคุกหัวโต นี่คือคำตอบที่พรรคเพื่อไทยไม่ทำต่อใช่หรือไม่???

 

ทั้งนี้นายชัชชาติ กล่าวว่า พรรคคงไม่ทำแล้วสำหรับนโยบายรับจำนำข้าว โดยทีมนโยบายด้านการเกษตรจะแถลงแนวทางว่าเป็นอย่างไร ไม่อยากให้คนเลือกเพราะให้เงินเยอะและราคาเท่าไรเพราะเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่อยากให้เลือกเพราะเป็นผู้บริหารแก้ปัญหาในอนาคตได้ และที่ไม่ทำโครงการดังกล่าวต่อเพราะมีจุดที่มีปัญหา คนรู้สึกกับคำๆ นี้ ต้องยอมรับความจริงเอามาเป็นบทเรียน เพราะไม่ปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้น

 

ชัดเจนไม่ต้องแปลความแคนดิเดตบัญชีนายกฯอย่างนายชัชชาติ ยอมรับว่าเพราะมีจุดที่มีปัญหา ต้องยอมรับความจริงและนำมาเป็นบทเรียน รวมทั้งไม่อาจปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นมาได้ เราลองมาย้อนความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ามีที่มาที่ไปกันอย่างไรอีกสักครั้ง โดยดร.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) และผู้ทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องข้าวหลายสิบปี และข้อมูลจากพจนานุกรมศัพท์เศรษฐศาสตร์ สรุปได้ว่า การรับจำนำข้าวหมายถึง รับจำนำในราคาต่ำกว่าตลาด คิดดอกเบี้ยต่ำ ให้ชาวนาชะลอการขายข้าวเปลือกในราคาต่ำตอนต้นฤดูเก็บเกี่ยวไปขายภายหลังเมื่อมีราคาข้าวสูงขึ้น

 

 

 

โครงการจำนำข้าว

 

ทั้งยังพบว่าการรับจำนำข้าว มาเปลี่ยนสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ที่เปลี่ยนแปลงมาตรการรับจำนำข้าวจากเดิม มาเป็นนโยบายประกันราคาข้าวในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด แต่รัฐบาลไม่เปลี่ยนชื่อ ยังใช้ชื่อจำนำข้าวเหมือนเดิม ซึ่งตามข้อมูลของทีดีอาร์ไอ และสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง สรุปได้ว่า นโยบายใหม่นี้มีผลกระทบมากมายต่อตลาดข้าวในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการทุจริตของผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ยังมีมาตรการช่วยเหลือชาวนาแบบอื่นที่จะไม่ก่อให้เกิดการทุจริตอย่างกว้างขวาง

 

 

โดยคำแถลงปิดคดีพนักงานอัยการ พบข้อมูลตอนหนึ่งที่อ้างถึงประเด็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กระทำความผิดตามคำฟ้องของพนักงานอัยการหรือไม่ และหลักการรับจำนำสินค้าเกษตร หรือจำนำข้าวที่ถูกต้องเหมาะสมควรเป็นอย่างไร ซึ่งอัยการชี้ให้เห็นว่า การดำเนินนโยบายจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่กำหนดราคารับจำนำสูงเกินกว่าตลาดประมาณ 50-60% ถือเป็นการกำหนดนโยบายที่ผิดพลาด แต่รูปการเสมือนหนึ่งเป็นการที่รัฐซื้อข้าวจากชาวนาโดยเป็นผู้ผูกขาดข้าวรายใหญ่เสียเอง โดยการเอาข้าวส่วนใหญ่ในตลาดทั้งหมดมาครอบครอง ดังจะเห็นได้จากผลวิจัยของ ม.หอการค้าไทย และหอการค้าไทย การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อสู้ว่านโยบายแบบนี้ได้ทำกันมา 30 กว่าปีแล้ว จึงเป็นการต่อสู้ที่ปราศจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ถ้วนถี่ เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่รัฐบาลจะรับจำนำไม่เกิน 60-70% ของราคาตลาด มีแต่ปี 2546 สมัยรัฐบาลนายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ยกราคารับจำนำเกินกว่าราคาตลาดมาก เพียงแต่ได้จำกัดวงเงินไว้เท่านั้น

 

“นโยบายเหล่านี้ทำให้จำเลยได้อำนาจรัฐมาโดยง่าย ใช้นโยบายประชานิยมที่ง่ายต่อการได้ประโยชน์ เป็นเพียงนโยบายที่มุ่งหมายจะเอาชนะเลือกตั้งเท่านั้น การใช้นโยบายรับจำนำข้าวเปลือกเกวียนละ 15,000-20,000 บาท คงไม่มีชาวนาคนใดไม่เห็นชอบที่จะสามารถขายข้าวได้ราคาสูงกว่าท้องตลาดถึง 50-60%”

 

ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ อ้างว่านโยบายดังกล่าวได้ผ่านการศึกษาวิจัยมาอย่างเป็นระบบก่อนนำมาใช้ประกาศนโยบายหาเสียง แต่ตามทางนำสืบไม่ปรากฏว่า จำเลยมีเอกสารหลักฐานที่ได้ผ่านการศึกษาวิจัยที่น่าเชื่อถืออย่างเป็นระบบ ประกอบกับเมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2555 นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฟอร์บ (Forbes) ทำนองว่า เป็นคนคิดนโยบายนี้ขึ้นเอง กรณีจึงฟังเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากต้องฟังว่า นายทักษิณเป็นคนคิดนโยบายนี้แต่เพียงผู้เดียว โดยปราศจาการศึกษาวิจัยที่น่าเชื่อถือมารองรับ และโดยเนื้อแท้เสมือนเป็นการคิดนโยบายหาเสียงเพื่อชนะเลือกตั้งเท่านั้น โดยหาเสียงกับชาวนาที่มีประมาณ 3.7-4 ล้านครัวเรือน รวมทั้งเมื่อนำสโลแกนหาเสียงของพรรคเพื่อไทยที่ว่า ‘ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ’ มาประกอบด้วยแล้ว ก็หมดความสงสัย เพราะชัดแจ้งอยู่ในตัวว่า นโยบายจำนำข้าวนี้ มาจากนายทักษิณ ที่ยังคงมีอิทธิพลครอบงำพรรคเพื่อไทย ตามที่พรรคฝ่ายค้าน เช่น พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอ้างในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในสภาผู้แทนราษฎรด้วย

 

ข้าว

 

อย่างไรก็ตาม จึงเห็นได้ว่าข้ออ้างของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ว่า นโยบายนี้ได้ผ่านการศึกษาวิจัยมาอย่างรอบด้านก่อนที่จะใช้หาเสียงเลือกตั้งนั้น จึงเป็นข้อกล่าวอ้างที่เลื่อนลอย ไม่มีเหตุผลและพยานหลักฐานสนับสนุนเพียงพอ ในข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทยได้กำหนดนโยบายนี้มาเพื่อหวังชนะเลือกตั้ง เพื่อได้เสียงจากชาวนาซึ่งมีประมาณ 3-4 ล้านครัวเรือน และเพื่อนำข้าวในตลาดทั้งหมดเข้ามาในความครอบครองของรัฐบาลเท่านั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ และรัฐบาล หาได้ใส่ใจต่อระบบการจำนำข้าวที่แท้จริง และการช่วยเหลือชาวนาอย่างยั่งยืน

 

ทั้งหมดนั้นคือคำแถลงปิดคดีของพนักงานอัยการต่อคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ที่มีการอธิบายอย่างละเอียดถึงความผิดของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ได้กล่าวอ้างเพื่อปฏิเสธความผิดและความล้มเหลวเชิงนโยบายที่พรรคใช้หาเสียง อันมาจากนายทักษิณ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้นำมาใช้หาเสียงเชื่อว่าไม่ใช่แค่โครงการรับจำนำข้าวแค่นั้น นอกจากยังพบถึงความเชื่อโยงระหว่างตัวนายทักษิณกับ กับนโยบายดังกล่าวเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2555  โดยเว็บไซต์ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงาน การให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ ว่า รัฐบาลไทยควรยืดเวลาโครงการรับจำนำข้าวต่อไปอีกหลายปี สวนกระแสนักวิจารณ์ที่โจมตีว่าเป็นนโยบายที่มีแต่เพิ่มภาระหนี้สินแก่รัฐบาลและบ่อเกิดทุจริต

 

“นโยบายนี้ รัฐบาลไทยรับซื้อข้าวจากชาวนาในราคาสูงกว่าอัตราในตลาด จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากกว่าต้นทุนของโครงการนี้ ราว 3 เท่า ถ้าเราจัดการกับกระบวนการนี้ใน 2-3 ปี ทุกอย่างก็จะเดินไปตามวิถีของมัน และราคาข้าวในในตลาดโลก กำลังสูงขึ้น เราไม่ได้โยนเงินทิ้งเปล่า ๆ โครงการดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายข้าวในสต๊อก อีกทั้งเพิ่มการบริโภคภายในประเทศ และช่วยประคับประคองประเทศไทย จากผลกระทบของวิกฤติหนี้ในยุโรป โดย รัฐบาลไทย มีข้าวเปลือกอยู่ในมือราว 17 ล้านตัน และมีข้าวสารในสต๊อกประมาณ 4 ล้านตัน การขายข้าวให้อินโดนีเซีย ไอวอรีโคสต์ หรือ แม้แต่ อิรัก และรวมทั้งประเทศอื่น ๆ ในตะวันออกกลางและแอฟริกา จะทำให้ข้าวที่เก็บไว้ในสต๊อกลดลง”  นายทักษิณ กล่าว

 

คดีจำนำข้าว

 

นอกจากนี้ยังพบอีกว่า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2555 นายทักษิณ ชินวัตร ยังให้สัมภาษณ์พิเศษกับวอยซ์ทีวีถึงโครงการรับจำนำข้าวว่า เป็นโครงการที่ดี ที่ช่วยระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ประชาชนไม่ทิ้งถิ่นฐานและหันกลับไปเป็นนายตัวเองด้วยการปลูกข้าวแทนที่จะมาเป็นลูกจ้างในเมืองมากขึ้นไทยในฐานะประเทศผู้ผลิตและส่งออกข้าวรายใหญ่ ควรสามารถกำหนดราคาขายข้าวได้ ซึ่งที่ผ่านมาไทยได้เริ่มทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้นแล้ว โดยย้ำว่าเงินที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าวแต่ละปีประมาณ 4 แสนล้านบาท อาจจะขาดทุนประมาณ 7 หมื่นล้านบาท แต่การที่เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น จะทำให้เกิดการใช้จ่าย ภาครัฐจึงเก็บภาษีได้มากกว่าตัวเลขที่ขาดทุน

 

“ทราบจากนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วยว่า จะนำระบบการออกใบประทวนด้วยคอมพิวเตอร์มาใช้ร่วมกับระบบจีพีเอส และภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อทราบถึงแหล่งผลิตข้าวอย่างชัดเจนของผู้ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดการทุจริตทางหนึ่ง มีความพยายามในการที่จะล้มการรับจำนำข้าวจากหลายส่วน รวมถึงการขอความร่วมมือไม่ให้ธนาคารพาณิชย์ไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพราะเกรงว่าจะมีเงินมารับจำนำข้าว” อดีตนายกฯ กล่าว

 

ดังนั้นเมื่อมีการตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวจีทูจีในล็อตที่2 จึงมีกระแสข่าวว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งได้เริ่มตรวจสอบมาระยะหนึ่งแล้วนั้นว่า ได้มีการตรวจสอบแบบลงลึกมากขึ้น ถึงขั้นที่มีการพยายามตรวจสอบว่า นายทักษิณ มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยทนายของน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้อ้างถึงบุคคลบางคนที่ถูกจับกุมอยู่ในเรือนจำขณะนี้ได้คลายข้อมูลออกมา ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่มีข้อเท็จจริงที่ยืนยันจากปปช.

 

กระนั้นก็ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า แม้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดในเรื่องคดีแต่ที่มาโครงการนั้นชัดเจนว่า ส่วนหนึ่งมาจากคนแดนไกลแน่ ซึ่งขณะคิดนโยบายนี้อาจคาดไม่ถึงในผลที่จะเกิดขึ้นว่าสะเทือนถึงขนาดทำให้น้องสาวต้องพลัดบ้านห่างเมืองเหมือนเช่นตนเอง และนี่จึงเป็นคำตอบจากที่นายชัชชาติพูดนั่นแหละว่า ทำไมเพื่อไทยจึงไม่ทำโครงการนี้ต่อ เพราะเห็นแล้วเต็มสองตาว่า มีคนติดคุกและมีการทุจริตกันมากมายขนาดไหน???

 

ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไร้ราคา!​ Good Monday ทักษิณโหนกระแสฝุ่นพิษ​ ไม่อยู่ในสายตาสื่อหลัก โบ้ย "สาเหตุเพราะรถ" ทวนความจำ "นโยบายรถคันแรก" เป็นของใคร

สุดยอดวิชาโกง!!! ครบ 9 ปีเต็มยึดทรัพย์ “ทักษิณ” จำไม่ลืมคำสาปแช่ง สุดท้ายดาบคืนสนอง...จบสิ้น(หวัง)กลับแผ่นดินไทย

ทักษิณขุดต้มยำกุ้ง พูดความจริงไม่แท้??? ยกคำสอน โลภทำให้พลาด ครอบครัวเดือดร้อน!?!

ยิ่งกว่าเชื้อโรค? ... อันตรายต่อประเทศ! "กำนันสุเทพ" ลั่น "รปช." ไม่ร่วมกับระบอบทักษิณ ย้ำ ไม่แทงกั๊กเหมือนบางพรรค!

กระชากความจริงเบื้องหลัง​ "พลังบริสุทธิ์" คนรุ่นใหม่​ของ​ธนาธร​ คือ​ เครือข่าย​ IO​ จัดตั้งของธนาธรและแนวร่วมทักษิณ

"ทักษิณ"เป็นปฏิปักษ์กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข??