"นายทหาร ผบ.มทบ. 12" แจ้งความ "พล.ต.อ. เสรีพิสุทธิ์" ข้อหาหมิ่นประมาทและ ไม่ให้เกียรติแก่เครื่องแบบของทหาร

วันที่ 6 มีนาคม 2562 พลตรี ชัยวัฒน์ บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 ปราจีนบุรี พร้อมด้วยนายทหารรัฐธรรมนูญเข้าแจ้งความกับพนักงานสวน  ร.ต.อ. ธัญญารัตน์ วรรพิรุณ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี จากกรณีที่ พล.ต.อ. เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่นำผู้สมัคร ส.ส.เขต1ปราจีนบุรีลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ในขณะเดินหาเสียง ได้มีนายทหารของ มทบ.12 ได้เดินตามเพื่อสังเกตการณ์ และอำนวยความสะดวก   โดยที่ผ่านมาได้มีหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ที่ลงมาหาเสียงในเขตพื้นที่ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ทหารก็ลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ในทุกครั้ง แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส" หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ไล่ทหารตะเพิด

 

 

 

แต่เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา  พล.ต.อ. เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้มีอาการแสดงกิริยาโดยใช้คำพูดต่อว่าเจ้าหน้าที่ทหาร ที่เดินตามขณะเดินหาเสียง โดยวันนี้ พ.ท.ปกิจ ผลฟัก ผบ.ร้อย.รส.กกล.รส.จ.ปราจีนบุรี อายุ 54 ปี  เป็นนายทหารสัญญาบัตรสังกัดหน่วยมณฑลทหารบกที่ 12 ที่อยู่ในเหตุการณ์และปรากฏอยู่ในคลิปดังกล่าว ได้เดินทางเข้าพบร้อยเวรเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.อ. เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า พล.ต.อ. เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส ในข้อหาหมิ่นประมาท และดูถูกไม่ให้เกียรติ ผู้ที่อยู่ในเครื่องแบบของทหาร

 

 

 

 

พ.ท.ปกิจ ผลฟัก  กล่าวว่าในวันนั้นตนได้รับมอบหมายคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้บังคับกองร้อยรักษาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในปราจีนบุรี( ผบ.ร้อย.รส.กกล.รส.จ.ปราจีนบุรี )    มีภารกิจหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในเขตอำเภอเมืองอำเภอบ้านสร้าง  ในช่วงนี้ไม่ว่าจะพรรคการเมืองไหนเข้ามาหาเสียง  ผมก็ต้องเข้ามาดูแล  เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์อะไรที่มันรุนแรงเกิดขึ้น โดยเฉพาะในครั้งนี้เป็นหน้าที่ของผมได้รับแต่งตั่งโดยตรง   เรื่องในวันนั้นท่าน พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ถามว่าผมมาทำอะไร ผมจึงได้ชี้แจงท่านว่าผมมาปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บังคับกองร้อย ไม่ได้ตอบโต้อะไร   ที่แจ้งว่าผมมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ถ้าหากว่าสิ่งที่ผมทำเป็นการรบกวนก็ผมขออภัยท่านด้วย

ทางด้านพลตรี ชัยวัฒน์ บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 ได้กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า การที่เดินทางเข้าแจ้งความในครั้งนี้ เพื่อเป็นการปกป้องเกียรติยศและศักดิ์ศรีของทหาร  สำหรับเรื่องคดีความคงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ทำหน้าที่ต่อไป 

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว ณัฐวัฒน์  กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าวทีนิวส์ จ.ปราจีนบุรี รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออกสวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี