รองผบช.น.สรุปหลักฐานแจ้งผบ.ตร. ปมปะทะเดือดม็อบ SCB ยันชัด 2 กลุ่มการ์ดอาชีวะ วิวาทซัดกันเอง

สืบเนื่องจากเหตุโกลาหลในม็อบกลุ่มผู้ชุมนุมเยาวชนปลดแอกที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งมีสถานการณ์ชุลมุนในช่วงหนึ่ง มีเกิดเหตุปาระเบิดปิงปองและใช้อาวุธปืนยิงในบริเวณชุมนุมม็อบราษฎร บริเวณหน้าลานอเวนิว ข้างห้างเมเจอร์รัชโยธิน ฝั่งตรงข้ามกับสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยมีเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้งและมีเสียงปืน 3-4 นัด ทำให้มีคนบาดเจ็บหลายราย

สืบเนื่องจากเหตุโกลาหลในม็อบกลุ่มผู้ชุมนุมเยาวชนปลดแอกที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งมีสถานการณ์ชุลมุนในช่วงหนึ่ง มีเกิดเหตุปาระเบิดปิงปองและใช้อาวุธปืนยิงในบริเวณชุมนุมม็อบราษฎร บริเวณหน้าลานอเวนิว ข้างห้างเมเจอร์รัชโยธิน ฝั่งตรงข้ามกับสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยมีเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้งและมีเสียงปืน 3-4 นัด ทำให้มีคนบาดเจ็บหลายราย

ต่อมา พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยถึงเหตุหลังการยุติการชุมนุมบริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ แยกรัชโยธิน แล้วมีเหตุวุ่นวายเกิดเสียงระเบิด และเสียงปืน เป็นให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บว่า จากที่ได้รับรายงานจากสน.พหลโยธิน เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 22.00 น. หลังจากที่ผู้ชุมนุมได้มีการเลิกชุมนุมแล้ว ได้มีการทะเลาะวิวาทได้มีการโยนประทัด หรือวัสดุอย่างหนึ่งอย่างใดใส่กัน จากนั้นกลุ่มผู้ที่ทะเลาะวิวาทกัน 2 กลุ่มได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้อยู่ที่ห้องไอซียูโรงพยาบาลพระราม 9 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปาก ทราบว่ามีการทะเลาะเบาะแว้งกันมาตั้งแต่ฝั่ง SCB หลังจากที่มีการเลิกชุมนุมได้มีการมาถกเถียงกันต่อแล้วมีการทะเลาะวิวาทกัน ในเบื้องต้นพบว่าเป็นกลุ่มการ์ดของคณะราษฎร ซึ่งเป็นกลุ่มการ์ดที่มาจากเทคนิคมีนบุรี หรืออาชีวะมีนบุรีโปลีเทคนิค และผู้บาดเจ็บมาจาอาชีวะปทุม ซึ่งเป็นกลุ่มการ์ดด้วยกันที่ทะเลาะกัน อย่างไรก็ตามมีภาพจากกล้องวงจรปิดและคลิปจากผู้สื่อข่าวและประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นบันทึกภาพไว้ ทั้งนี้ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 2 กลุ่ม เป็นกลุ่มการ์ดของคณะราษฎรแล้วทะเลาะกันด้วยเรื่องงานใน SCB ไม่ได้มีกลุ่มอื่นเข้ามาแฝงตัวแต่อย่างใด


ส่วนการพกปืนเข้าที่ชุมนุมจะส่งผลกับการดูแลความปลอดภัยในอนาคตหรือไม่ ทางพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ก็เป็นส่วนหนึ่ง ทั้งจากการชุมนุมที่แยกเกียกกายและการชุมนุมที่นี่ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ทั้งนี้การชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ การนำอาวุธเข้ามาจะทำให้การชุมนุมเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นที่ชัดเจนตั้งแต่ครั้งที่แล้วและครั้งที่ SCB ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีมาตรการต่างๆ ในการดูแลความเรียบร้อย รวมถึงการสืบสวนสอบสวนและจับกุมผู้กระทำผิด โดยหลังจากนี้อาจจำเป็นต้องมีมาตรการอื่นๆ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้จากการสืบสวนคืบหน้าไปมากแล้ว ได้ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐานบางอย่างที่อาจจะนำตัวถึงผู้กระทำผิด


ส่วนการนัดชุมนุมในครั้งต่อไป ทางพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ทราบว่าได้มีการนัดชุมนุมในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ย.63) เวลา 16.00 น. ส่วนที่แกนนำผู้ชุมนุมได้มีการประกาศว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมขึ้นอีกนั้นก็ต้องฝากเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมว่าการชุมนุมเป็นสิทธิตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ผู้จัดการชุมนุมต้องเข้มงวดกับการ์ดของตัวเอง จะต้องมีการตรวจอาวุธ อุปกรณ์ สิ่งของ ถ้ามากระทำผิดเช่นนี้ ตำรวจจะต้องมีมาตรการและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตามไม่กังวล เพราะประชาชนที่เข้ามาร่วมใช้สิทธิเรียกร้องในปัญหาบางอย่างไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือปัญหใหญ่ ถ้าเจอเหตุเช่นนี้หลายกลุ่มก็จะถอนตัวออกอย่างแน่นอน ถ้าการชุมนุมมาแล้วไม่มีความปลอดภัย เช่น มาแล้วมีการทะเลาะวิวาทกัน และใช้อาวุธ โดยเฉพาะการทะเลาะวิวาทกันในกลุ่มการ์ดด้วยกัน ผู้มาชุมนุมอาจจะโดนลูกหลง ครั้งนี้โชคดีคือมีการทะเลาะวิวาทหลังจากเลิกชุมนุมแล้ว หากมีการทะเลาะวิวาทกันระหว่างที่มีการชุมนุม ประชาชนที่มาชุมนุมโดยสุจริตใจอาจจะได้รับผลกระทบ 


ส่วนกรณีการวางตู้คอนเทนเนอร์ เป็นแนวกั้นโดยรอบพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ทางพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ในวันนี้ได้มีการเคลียร์ตู้คอนเทนเนอร์ออกจากพื้นที่ทุกจุดเรียบร้อยหมดแล้ว เรามีการวางเครื่องกีดขวาง และมีมาตรการตามความจำเป็นและความเหมาะสมของสถานการณ์ เมื่อหมดความจำเป็นแล้วก็รีบเคลียร์พื้นที่โดยเร็ว นำสิ่งของเหล่านั้นออกจากพื้นผิวการจราจรเรียบร้อย ส่วนการจราจรวันนี้คล่องตัวดี 


ส่วนกรณีของ ไผ่ ดาวดิน ที่มีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปแสดงตัวจับกุมก่อนมีกลุ่มการ์ดมากันออกจากพื้นที่นั้น ทางพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ในส่วนนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่อย่างใดก็ตามเมื่อมีการกระทำผิดจะต้องถูกออกหมายเรียก หรือหมายจับทุกรายทุกฝ่าย เมื่อมีหมายจับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการสืบสวนและจับกุม เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในทุกๆ เคส 


นอกจากนี้ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวยืนยันว่า จากการสืบสวนยืนยันแน่นอนว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่าย อยู่ในกลุ่มการ์ดที่มาทำหน้าที่ที่เดียวกัน ส่วนความคืบหน้าการติดตามคนร้าย เป็นชายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ธนาคาร ธกส. สาขาบางบอน ถนนเอกชัยซอย 86 แขวงคลองบางพราน เขตบางบอนกรุงเทพฯ ได้เงินสดไปรวม 5 แสนบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน ซึ่งตำรวจมีภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจน โดยคาดว่าจะใช้เวลาติดตามตัวมาดำเนินคดีไม่ยาก

 

รองผบช.น.สรุปหลักฐานแจ้งผบ.ตร. ปมปะทะเดือดม็อบ SCB ยันชัด 2 กลุ่มการ์ดอาชีวะ วิวาทซัดกันเอง

ล่าสุด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าได้รับรายงานกรณีเกิดเหตุยิงกันหลังกลุ่มคณะราษฎรประกาศยุติการชุมนุมบริเวณหน้าธนาคารไทยพานิชย์สำนักงานใหญ่ แยกรัชโยธิน แล้ว ซึ่งขณะนี้ได้ให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลรวบรวมสืบสวนหาพยานหลักฐานอยู่ ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นจะมีการสรุปแล้วรายงานมาให้ทราบอีกครั้งในช่วงบ่าย ซึ่งได้มอบหมายให้ทีมโฆษกของกองบังชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้แถลง เนื่องจากพื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของตำรวจนครบาล 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะทำให้สถานการณ์บานปลายขึ้น ผบ.ตร.ระบุเพียงว่า ขอให้ประชาชนรอฟังข้อเท็จจริงจากการแถลงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันลดความผิดพลาด


ทั้งนี้มีรายการผลการสอบสวนเหตุในพื้นที่สน.พหลโยธิน ระบุว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บได้แก่ นายประชากร ศักดิ์ศรีเท้า อายุ 20 ปี รูปร่างอ้วน ใส่เสื้อสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ นำส่ง รพ.พระรามเก้า อยู่ห้อง ICU ได้รับบาดเจ็บ ถูกยิงใส่ที่บริเวณเข็มขัด เป็นแผล กระแทก เบื้องต้นไม่มีเลือดไหล
และผู้ต้องสงสัยก่อเหตุคือ นายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี ใส่กางเกงขาสั้นสีครีม เสื้อสีเข้ม นำส่ง รพ.เซ็นหลุยส์  ตรวจยุดอาวุธปืน ลูกโม่ ขนาด .38  พร้อมกกระสุน ในลังเพลิง 5 นัด (ยิงแล้ว 4 ยังไม่ยิง 1) 

พยาน  
1. นายวันชัย อารีย์ 
2. นายมลชัย เอ็งรักษา 
3. น.ส.สุกัญญา  อยู่สมศรี 

พฤติการณ์ 
ตามวันเวลาเกิดเหตุ พบเห็น กลุ่มวัยรุ่น ลักษณะเป็นพรรคพวกกันประมาณ 3 คน(ใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน (เสื้อทีม))    โดยพบว่า ชายวัยรุ่น ใส่หมวกกันน๊อคสีขาวแบบเต็มใบเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีคลีม ปาวัตถุคล้ายระเบิดใส่ คู่กรณี  (ไม่ทราบว่าเป็นใคร) ต่อมาทราบจากพยานว่า มีการยิงปืน ติดกันประมาณ 4 นัด เจ้าหน้าที่เชื่อว่า นายภาสพงศ์  กุลอมรกานต์ ผู้ต้องหาเป็นผู้ยิง (ขณะปาระเบิดยืนอยู่ด้านหลังคนปา) โดยผู้ต้องหาอ้างว่าพรรคพวกถูกทำร้ายร่างกายก่อน ต่อมาพยานแจ้งว่าได้มีกลุ่มวัยรุ่น พรรคพวกของคนเจ็บ หลังจากคนเจ็บถูกยิง ได้เข้าควบคุมตัว  นายภาสพงศ์  กุลอมรกานต์ พร้อมอาวุธปืนที่อยู่ กับพื้น ทำให้ ได้รับบาดเจ็บ จึงได้นำตัวส่ง โรงพยาบาล ทั้ง 2 ราย พงส.ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมจนท.ตร.EOD

 

รองผบช.น.สรุปหลักฐานแจ้งผบ.ตร. ปมปะทะเดือดม็อบ SCB ยันชัด 2 กลุ่มการ์ดอาชีวะ วิวาทซัดกันเอง

 

 

รองผบช.น.สรุปหลักฐานแจ้งผบ.ตร. ปมปะทะเดือดม็อบ SCB ยันชัด 2 กลุ่มการ์ดอาชีวะ วิวาทซัดกันเอง

 

รองผบช.น.สรุปหลักฐานแจ้งผบ.ตร. ปมปะทะเดือดม็อบ SCB ยันชัด 2 กลุ่มการ์ดอาชีวะ วิวาทซัดกันเอง

 

รองผบช.น.สรุปหลักฐานแจ้งผบ.ตร. ปมปะทะเดือดม็อบ SCB ยันชัด 2 กลุ่มการ์ดอาชีวะ วิวาทซัดกันเอง

 

รองผบช.น.สรุปหลักฐานแจ้งผบ.ตร. ปมปะทะเดือดม็อบ SCB ยันชัด 2 กลุ่มการ์ดอาชีวะ วิวาทซัดกันเอง