ปฏิบัติการล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน ค้น 3จุดเครือข่ายแก๊งนายทุนจีน เจอของกลางเป็นเงินสดกว่า 42 ล้าน รถยนต์หรู โฉนดที่ดินฯลฯ ยึดทรัพย์มูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท

   3พ.ย.65 ปฏิบัติการล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน ตรวจค้น 3 จุด เครือข่ายนายทุนจีนสีเทา ปิดล้อมตรวจค้นเครือข่าย CALL CENTER และฟอกเงิน ยึดรถหรู เงินสด ทรัพย์สินต่างๆมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท โดยทาง  พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. แถลงผลการปฏิบัติของตำรวจไซเบอร์ ขยายผลคดีผับ "จินหลิง" ยานนาวา บุกค้นแหล่งทุนจีน พร้อมยึดทรัพย์สินหลายร้อยล้านบาท 

   ตามปฏิบัติการ ล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน  โดยปิดล้อมตรวจค้น 3 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จับกุมผู้ต้องหากว่า 15ราย ในจำนวนนี้เป็นคนจีน 11 ราย คนไทย 4 ราย พร้อมของกลางเป็นเงินสดกว่า 42 ล้านบาท รถยนต์หรูกว่า10คัน โฉนดที่ดินหลายรายการ สุราต่างประเทศ สำรับไพ่ กระเป๋าแบรนด์เนม มูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท

  เปิดปฏิบัติการบุกค้นเครือข่ายนายทุนจีน ยึดทรัพย์กว่า300ล้าน รถหรูเพียบ

  โดยการตรวจค้นจุดแรก  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นของศาลอาญาที่ 1062/2565 ลง 2 พ.ย.2565 เข้าตรวจค้นบ้านพักในซอยกาญจนาภิเษก 50 แขวงดอกไม้ แขวงประเวศ กรุงเทพฯ  พบชายชาวจีน 3 คน หญิงชาวจีน 2 คน และคนไทย 3 คน

เปิดปฏิบัติการบุกค้นเครือข่ายนายทุนจีน ยึดทรัพย์กว่า300ล้าน รถหรูเพียบ

1. นายพรชัย (เป็นคนขับรถของ MR.LIN YIAN)

2. น.ส.เสี่ยวจือ (แม่บ้าน)

3. นางรุ่งนภา (แม่บ้าน)

4. MR.XIAO JIANWEN (คนดูแลบ้าน)

เปิดปฏิบัติการบุกค้นเครือข่ายนายทุนจีน ยึดทรัพย์กว่า300ล้าน รถหรูเพียบ

5. MRS. XUE WANG (เพื่อนของ MR.LIN YIAN)

6. MR.FEIXIONG CHEN (เพื่อนของ MR.LIN YIAN)

7. MRS.YULIAN LI (เพื่อนของ MR.LIN YIAN)

8. MR.LIN YIAN อายุประมาณ 25 ปี ถือหนังสือเดินทางประเทศกัมพูชา

เปิดปฏิบัติการบุกค้นเครือข่ายนายทุนจีน ยึดทรัพย์กว่า300ล้าน รถหรูเพียบ

เปิดปฏิบัติการบุกค้นเครือข่ายนายทุนจีน ยึดทรัพย์กว่า300ล้าน รถหรูเพียบ
พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินหลายรายการ อาทิ

1. รถยนต์ยี่ห้อ CHEVROLET CORVETTE (ป้ายแดง)

2. รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า อัลพาร์ท สีดำ

3. รถยนต์เบนซ์ GLS 350D สีเทา (ป้ายแดง)

เปิดปฏิบัติการบุกค้นเครือข่ายนายทุนจีน ยึดทรัพย์กว่า300ล้าน รถหรูเพียบ

4. รถจักรยานยนต์ ducati รุ่น 1299 panigale สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

5. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ monkey สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

6. สุราจีน Moutai จำนวน 50 ขวด

7. สุราต่างประเทศ XO จำนวน 8 ขวด

8. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 13 เครื่อง

9. คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 3 เครื่อง

10. เงินสด จำนวน 7 ล้านบาท

เปิดปฏิบัติการบุกค้นเครือข่ายนายทุนจีน ยึดทรัพย์กว่า300ล้าน รถหรูเพียบ

จุดที่ 2 ได้นำหมายค้นของศาลอาญาที่ 1090/2565 ลง 1 พ.ย.2565 เข้าตรวจค้นบ้านพัก ย่านบางนา-อ่อนนุช แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านของนาย LIN YIAN พบชายชาวจีน จำนวน 1 คน และคนไทย 2 คน

1. Mr.Li QINGAN (หลี ชิงอาน) ซึ่งเป็นบิดาของนาย LIN YIAN

2. นายอดิศร     

3. น.ส.ธนสุธางศ์ 

พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินอีกหลายรายการ อาทิ     

1. รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า อัลพาร์ท สีดำ (ป้ายแดง) จำนวน 3 คัน

2. นาฬิกาหรูยี่ห้อ Patek Philippe จำนวน 1 เรือน

3. เงินสด จำนวน 7.5 ล้านบาท

4. สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำนวน 1 เล่ม

5. บัตรประจำตัวประชาชน ชื่อนายยะปะสอ สวรรยาคีรี เลขประจำตัวที่ 850098402386

6. หนังสือเดินประเทศไทย ชื่อนายยะปะสอ

เปิดปฏิบัติการบุกค้นเครือข่ายนายทุนจีน ยึดทรัพย์กว่า300ล้าน รถหรูเพียบ

จุดที่ 3 ได้นำหมายค้นของศาลอาญาที่ 1089/2565 ลง 1 พ.ย.2565 เข้าตรวจค้นห้องพักภายในคอนโด ถนนสุขุมวิท39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านของนาย LIN YIAN พบมีชายชาวจีน 2 คน หญิงชาวจีน 2 คน ดังนี้

1. Mr. LI XIAOQIANG     

2. Mr.LIN  PEIJIE            

3. Mrs.ZHANG RUIPING

4. Mrs. ZHANG RUIJUAN

พร้อมกับตรวจยึดทรัพย์สินภายในห้องพักดังกล่าว อีกหลายรายการ 

1. เงินสดจำนวน 28 ล้านบาท

2. กระเป๋าแบรนเนมหรู 8 ใบ

3. บุหรี่ซิการ์ ต่างประเทศ

4. ไพ่   522 สำรับ

เปิดปฏิบัติการบุกค้นเครือข่ายนายทุนจีน ยึดทรัพย์กว่า300ล้าน รถหรูเพียบ

บัตรประจำตัวประชาชนที่ตรวจยึดได้นำมา เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า MR.LIN YIAN ปลอมบัตรประจำตัวประชาชน โดยนายทะเบียนออกให้กับบุคคลอื่น(ใบหน้าไม่ตรงกัน) นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง  ส่งพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุขเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย  นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบ  Mr.LI XIAOQIANG ปรากฎว่าอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดเวลาที่ได้รับอนุญาต จึงแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด  และพบว่า Mr.LIN PEIJIE ครอบครองสุราต่างประเทศหลายยี่ห้อเกิดกว่าที่กฎหมายกำหนดให้ครอบครอง จึงแจ้งข้อกล่าวหา มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน

เปิดปฏิบัติการบุกค้นเครือข่ายนายทุนจีน ยึดทรัพย์กว่า300ล้าน รถหรูเพียบ


ส่วนข้อมูลที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ให้กับตำรวจเกี่ยวกับ 5 กลุ่มทุนเครือข่ายชาวจีน ขณะนี้ตำรวจ อยู่ระหว่างขยายผล เช่นเดียวกับประเด็นที่มีการพาดพิงว่า ผู้ต้องหาชาวจีนบางคน มีความสนิทกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่

เปิดปฏิบัติการบุกค้นเครือข่ายนายทุนจีน ยึดทรัพย์กว่า300ล้าน รถหรูเพียบ

รวมทั้งสนิทสนมกับอดีตรัฐมนตรีคนหนึ่ง ตำรวจเข้าตรวจสอบ และตรวจค้นที่พักของอดีตรัฐมนตรี ไปแล้วแต่ยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย หรือมีหลักฐานเชื่อมโยง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายชาวจีน  นอกจากนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ยังเปิดเผยถึงประเด็นอดีตรัฐมนตรีฯ ที่มีรายชื่ออยู่เบื้องหลังบอลและทุนจีนว่า เรื่องนี้ขอให้ทางตำรวจสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน ก่อนที่จะมาตอบหรือยืนยันได้ว่าใช่ หรือไม่ใช่ และเป็นบุคคลตามที่สังคมคิดกันหรือไม่

เปิดปฏิบัติการบุกค้นเครือข่ายนายทุนจีน ยึดทรัพย์กว่า300ล้าน รถหรูเพียบ

พร้อมทั้งขอรวบรวมพยานหลักฐาน เส้นทาง และของกลางที่ยึดมา เพราะเชื่อว่าการก่ออาชญากรรมต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้ ซึ่งหากว่าร่องรอยถึงใคร ก็ต้องรับสภาพ โดยตอนนี้ทางตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนสอบสวน ยืนยันไม่มีใครสามารถเข้ามาควบคุมการทำงานของตำรวจได้ อย่างไรก็ตามขณะตรวจสอบที่หมู่บ้านหรูทั้งสองจุดพบข้อมูลว่าในเฟสใหม่ที่กำลังก่อสร้าง และที่ก่อสร้างเสร็จแล้วมีการถือครองทรัพย์สินของกลุ่มคนจีนทั้งหมด โดยประเด็นนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสน.อุดมสุขทำการตรวจสอบ ว่ามีการถือครองอย่างถูกต้องหรือไม่เนื่องจากมูลค่าของบ้านแต่ละหลังนั้นสูงถึง 40- 50 ล้านบาท 

 

เปิดปฏิบัติการบุกค้นเครือข่ายนายทุนจีน ยึดทรัพย์กว่า300ล้าน รถหรูเพียบ
   ส่วนประเด็นที่มีทุนอินเดียก็เข้ามาลงทุนในธุรกิจสีเทาในประเทศนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เปิดเผยถึงว่า เรื่องนี้ทางตำรวจมีการตรวจสอบดูทั้งหมดและเชื่อว่ามีหลายแก๊งค์มากที่อยู่ในประเทศไทย แต่ขอยังไม่ระบุถึงชื่อประเทศ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง และมีหลายชาติที่เข้ามา

 

   ซึ่งปัญหานี้เกิดตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิดที่ชาวต่างชาติไม่สามารถกลับประเทศได้ และมีการอยู่ในประเทศแบบ over stay โดยเรื่องนี้ได้ส่งเรื่องให้กับพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล แล้ว และอยู่ระหว่างตรวจสอบไปด้วยกัน เพราะเราเองก็ไม่อยากให้ประเทศไทยเราเป็นฐานก่ออาชญากรรม

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่  thainews