รวบ 3 รายแก๊งหลอกเด็กม.3 ลงทุนสินค้าออนไลน์จนหมดตัวผูกคอดับใต้ต้นไม้

ตำรวจรวบ 3 รายแก๊งหลอกเด็กม.3 ดูโฆษณาก่อนชวนลงทุนสินค้าออนไลน์จนหมดตัวผูกคอดับใต้ต้นไม้ เขียนจนหมายลาขอโทษพ่อแม่

จากกรณีเด็กนักเรียนม.3 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด ที่ก่อเหตุสลดผูกคอใต้ต้นไม้ดับ พร้อมเขียนจดหมายลาตายขอโทษพ่อแม่ หลังถูกคนร้ายชักชวนให้ดู โฆษณาผ่าน YouTube เพื่อหารายได้พิเศษ  ก่อนที่จะออกอุบายหลอกให้ลงทุนซื้อสินค้า 10 ชิ้น วางขายออนไลน์เก็งกำไร โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าจน เหยื่อหลงเชื่อฉกเงินแม่โอนไปให้ต่อเนื่องรวม 14,000 บาทภายหลังเด็กคนดังกล่าวรู้ตัวว่าจะถูกหลอกจึงของทวงเงินคืนแต่คนร้ายก็ไม่ยอมโอนเงินให้จึงก่อเหตุสลดขึ้น 

ภายหลังผู้ปกครองของนักเรียนผู้เสียชีวิตรายดังกล่าว ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และชุดทำงานเพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้เร่งรัดคดี ก่อนที่ในวันนี้ทางบช.สอท. ได้เปิดปฎิบัติการดีเดย์ตัดบัญชีม้า จับกุมน.ส.นภาพร หอมจันทร์ อายุ 33 ปี หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ได้ที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

 

รวบ 3 รายแก๊งหลอกเด็กม.3 ลงทุนสินค้าออนไลน์จนหมดตัวผูกคอดับใต้ต้นไม้

 

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 ม.ค. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.ตอท. และชุดคลี่คลายคดีสอบปากคำ น.ส. นภาพร หอมจันทร์ อายุ 33 ปี โดยใช้เวลาการสอบปากคำนานกว่า 2 ชม. ก่อนที่ทางพล.ต.ต.วิวัฒน์ เปิดเผยว่า ภายหลังวานนี้ทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ได้ประชุมเร่งรัดคดีให้ทางบช.สอท. ดำเนินการสืบสวนจับกุม โดยทางบช.สอท. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรีออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นบัญชีม้าจำนวน8 ราย ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและได้ปฎิบัติการจับกุมตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาโดยจับกุมได้ 3 ราย ประกอบไปด้วย 

น.ส.นภาพร หอมจันทร์ อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 12/2566 ลง 10 ม.ค. โดยจับได้ที่จ.พระนครศรีอยุธยา 
นายสมบูรณ์ พงษ์เทเวช 55 ปี ตามหมายจับศาลจังหวันนทบุรีที่ 17 /2566 ลง 10 ม.ค. จับได้ที่จ.นครสวรรค์ 
และน.ส.พบพร วงศ์แข อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 14/2566 ลง 10 ม.ค.  โดยจับกุมได้ที่จ.ปราจีนบุรี 

รองผบช.สอท. กล่าวว่า จากการสอบปากคำในรายของ น.ส.นภาพร หอมจันทร์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้เปิดบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ โดยได้รับการชักชวนว่าจ้างเปิดบัญชีในราคา 100 บาท อีกทั้งตรวจสอบประวัติยังพบว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนเมื่อปี 2559 คดีความผิดพรบ.การพนันปี 2561-2563 อีกทั้งเมื่อตรวจสอบในบัญชีที่ตำรวจตรวจยึดได้พบว่ามีการโอนเข้าออกไปยังเว็บไซต์พนันออนไลน์ ซึ่งผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมเล่นพนันออนไลน์ทุกวัน นอกจากนี้คนร้ายได้มีการออกอุบายหลอกล่อจะให้ส่วนแบ่งกับทางให้บัญชีม้าด้วย แต่เนื่องจากบัญชีเพิ่งมีการเปิดไม่ถึงเดือน ส่วนจะได้จริงหรือไม่จริงอันนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

 

รวบ 3 รายแก๊งหลอกเด็กม.3 ลงทุนสินค้าออนไลน์จนหมดตัวผูกคอดับใต้ต้นไม้

 

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า จากแผนประทุษกรรมของคนร้ายเจ้าหน้าที่สามารถแยกระดับของบัญชีม้าออกเป็น8ระดับในจำนวนนี้พบว่ามีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีร่วมเปิดบัญชีม้าด้วย ซึ่งทางบช.สอท. ได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงิน ในการร่วมตรวจสอบถึงแม้ว่าคนร้ายสั่งใช้วิธีการยักย้ายถ่ายเทภายในระยะเวลารวดเร็วจากบัญชีที่หนึ่งไปยังบัญชีที่ห้าไม่ถึง 39 วินาทีก่อนที่จะโอนไปยังบัญชีของพ่อค้าเงินสกุลดิจิตอล ทำให้ตอนนี้ทราบโครงข่ายของขบวนการดังกล่าวแล้ว จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามแม้ไอพีแอดเดรสของคนร้ายการตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แต่เรา ได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการทาง Instagram Facebook แล้วก็ LINE ในการดำเนินการตรวจสอบ ถึงแม้ว่าคนร้ายอาจจะอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านทางเราก็จะดำเนินการออกหมายแดงเพื่อทำการติดตามจับกุม อย่างไรก็ตามคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินได้ทันท่วงที ซึ่งสามารถอายัดเงินได้ 5 หมื่นบาท 

 

รวบ 3 รายแก๊งหลอกเด็กม.3 ลงทุนสินค้าออนไลน์จนหมดตัวผูกคอดับใต้ต้นไม้

 

กรณีดังกล่าวทางรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับกับชุดทำงานไปทำงานอย่างเต็มที่ให้ทำตามคำมั่นของนักเรียนชั้นม.3 ได้สั่งเสียไว้ ว่าตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างเต็มความสามารถกวาดล้างทั้งขบวนการ  นอกจากนี้ทางนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ให้ความสนใจกำชับให้ชุดทำงานจับกุมเป็นกรณีตัวอย่าง ให้จับกุมถึงตัวการใหญ่ไม่ใช่จับแค่บัญชีม้า อย่างไรก็ตามในส่วนของตัวการใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชี Instagram ต้องยอมรับว่า คนร้ายมีความเชี่ยวชาญทางด้านคอมพิวเตอร์มีการปกปิดตัวตนโปรไฟล์เป็นอย่างดีแต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วคาดว่าไม่เกินสองวัน จะสามารถดำเนินการออกหมายจับและจับกุมตัวได้ภายในสัปดาห์นี้

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline