ลุงเปี๊ยกหลุดคำพูดสำคัญคดีป้าบัวผัน หลังบิ๊กโจ๊กสอบด้วยตัวเอง

วันที่ 16 มกราคม 2567 ความคืบหน้ากรณีคดี 5 โจ๋ก่อเหตุสะเทือนใจ รุมทำร้าย "ป้าบัวผัน" หรือ "ป้ากบ" จนเสียชีวิต ทว่าลุงเปี๊ยก สามีป้าบัวผันกลับมามอบตัวกับตำรวจและสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุเอง กระทั่งมีภาพวงจรปิดออกมามัดตัว 5 เยาวชนดังกล่าวจนกลายเป็นคดีใหญ่ที่คนทั้งประเทศจับตามองอยู่ ณ ขณะนี้

 

โดยก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 10.30น.วันที่ 16 ม.ค. 2567 ที่สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พานางปาง มลใสกุล อายุ 55 ปี พี่สาวของนางบัวผัว เข้าพบพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ช่วยติดตามคนดีภายหลังเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมทางคดี เนื่องจากไม่สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลจาก สภ.อรัญประเทศ ได้

 

 

นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า พี่สาวนางบัวผัน มาร้องขอความช่วยเหลือจากตนเพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน โดยตนเชื่อมั่นว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะทำคดีได้ อีกทั้งคดีนี้อาจมีตำรวจบังคับให้ลุงเปี๊ยก ยอมรับผิดในคดีว่าตัวเองใช้เก้าอี้ฟาดภรรยาจนเสียชีวิต ทั้งที่ความจริงลุงไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เลย จะไปทราบพฤติการณ์การก่อเหตุของคนร้ายจริงๆ ได้อย่างไร จึงตั้งข้อสังเกตว่ามีใครสั่งให้พูดข้อมูลดังกล่าว และหลังจากได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำแล้ว เจ้าตัวก็หายไปเลย ญาติก็ติดตามหาตัวไม่ได้ หรือแม้แต่ทีมงานตนก็ไม่สามารถติดต่อกับผกก.สภ.อรัญประเทศ ได้เช่นกัน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้เกี่ยวกับเด็กและเยาวชนที่ตนกำกับดูแล ซึ่งญาติไม่มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยตนทราบว่าเด็กทั้ง 5 คนถูกจับกุมทั้งหมดแล้วซึ่งในจำนวนนั้นมีลูกของตำรวจด้วย แต่ประเด็นที่สังคมสงสัยคือเหตุใดลุงเปี๊ยกจึงยอมรับสารภาพในคดี ดังนั้นตนจะลงพื้นที่สั่งการพร้อมไปติดตามหาตัวลุงเปี๊ยกในช่วงบ่ายวันนี้ และหากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจริงก็ต้องดำเนินคดี ไม่ปกป้องคนที่ทำผิด ยอมรับว่าพฤติการณ์การก่อเหตุของเด็กกลุ่มนี้เลวร้ายมาก ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งการแก้ไขกฎหมายเพื่อลดอายุของเด็กให้รับโทษรุนแรงขึ้นนั้น เป็นเรื่องระยะยาวที่ยังคงหารือกันร่วมกับหลายหน่วยงาน

 

จากนั้นช่วงค่ำความคืบหน้าเพิ่มเติม พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ลงมาดูคดีนี้ด้วยตัวเอง และช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว 

บิ๊กโจ๊กเผยว่า จากการลงมาดูคดีเอง ข้อมูลที่ได้ ทันทีที่พบศพป้าบัวผัน ชุดสืบสวนได้ตัวลุง ลุงรับสารภาพ เมื่อผู้ต้องหารับสารภาพและมีร่องรอยเลือดตำรวจจึงต้องเชื่อไว้ก่อน และเพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปไหนจึงต้องขออำนาจศาลควบคุมตัวเอาไว้

 

 

ทันทีที่ได้ตัวลุงเปี๊ยก สามีป้าบัวผัน ตำรวจชุดสืบสวนของจังหวัดจึงมีการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาหลักฐานเพิ่ม จนพบว่ากลายเป็นเรื่องโอละพ่อ กลายเป็นฝีมือแก๊งโจ๋ 5 คน จึงต้องทำเรื่องปล่อยตัวลุงออกมาจากเรือนจำ

และจากไทม์ไลน์ลุงเปี๊ยกกับพ่อของเด็กที่ก่อเหตุไม่ได้เจอกัน เพราะลุงออกจากเรือนจำวัน จันทร์ และพ่อเด็กก็นำตัวเด็กมามอบตัววันอาทิตย์ ซึ่งไม่ได้เจอกันแน่นอนหลังจากตำรวจปล่อยตัวลุงแล้วได้มีการนำตัวมาสอบที่ สภ.อรัญประเทศ จากนั้นได้นำรถไปส่งที่บ้านพี่สะใภ้ ไม่ได้มีการคุมตัวไปที่เซฟเฮ้าส์อย่างที่เป็นข่าว ซึ่งป้าสะใภ้ยืนยันไม่มีตำรวจมาทำการซักซ้อมกับลุงเปี๊ยกแน่นอน

บิ๊กโจ๊กได้ถามกับลุงเปี๊ยก ว่าช่วงไปทำแผนทำไมถึงบอกว่าใช้เก้าอี้ฟาดป้าบัวผัน ลุงเปี๊ยกตอบว่า ก็ตำรวจยื่นเก้าอี้ให้

ก่อนที่ระหว่างแถลงมีตำรวจแทรกขึ้นมาแลปชี้แจงว่าบริเวณดังกล่าวมีเก้าอี้วางอยู่แล้วเพราะเป็นหอประชุม เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมวันเด็ก ก่อนที่ลุงเปี๊ยกจะตอบภายหลังว่า ที่พูดเรื่องเก้าอี้นั้นสมมติขึ้นมาเอง ยืนยันว่าที่รับสารภาพไม่มีใครบงการ หรือบังคับ แต่ทำไปเพราะเมาล้วนๆ 

ทั้งนี้หลังการแถลงล่าสุด นักข่าวพยายามสอบถามลุงเปี๊ยกอีกครั้งว่า มีใครบงการหรือไม่ ทำไมถึงไปรับสารภาพว่าก่อเหตุเอง แต่ลุงเปี๊ยกไม่ตอบคำถาม อ้างว่าเมา ปวดหัว ก่อนที่จะลุกแล้วรีบขึ้นรถไปกับญาติๆ

เมื่อถามว่าจะไปร่วมเคารพศพป้าบัวผันหรือไม่ ลุงเปี๊ยกบอกว่าไม่ไปเพราะจะไปบำบัดอาการติดสุรากับเจ้าหน้าที่ก่อน