รวบแก๊ง อ้างรับสิทธิประกันสังคม ลวงเหยื่อกดอัปเดต ดูดเงินเกลี้ยง

จับแก๊งอ้างอัปเดตข้อมูลประกันสังคม หลอกเหยื่อลงแอปดูดเงิน สูญเป็นแสน กลลวงดูดเงินจากบัญชีธนาคารและบัตรเครดิต


กรณีกลลวงมิจฉาชีพ ส่งข้อความ SMS เข้ามายังมือถือของผู้เสียหาย ว่าได้สิทธิประกันสังคม ให้ไปอัปเดตข้อมูล เพื่อได้รับสิทธิตกค้าง จึงกดอัปเดตข้อมูล ในระหว่างกดอัปเดตข้อมูล ไม่สามารถควบคุมมือถือได้ ต่อมาคนร้ายได้ดูดเงินจากบัญชีธนาคาร และบัตรเครดิต จำนวน 3 ใบ ทั้งหมด 159,574 บาท และระหว่างนั้นมีการแจ้งเตือนการโอนเงินอยู่ตลอดจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ดําเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ ได้สืบสวนทราบว่าเจ้าของบัญชีที่ผู้เสียหายได้โอนเงินไป คือ นางสาววิลาวรรณ อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดเลย มาพักอาศัยอยู่จังหวัดสมุทรปราการ จึงทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับจากศาล
รวบแก๊ง อ้างรับสิทธิประกันสังคม ลวงเหยื่อกดอัปเดต ดูดเงินเกลี้ยง
จนกระทั่งวันที่ 21 ก.พ.67 เวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ชนาธิป ญาณัปปสุต สว.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.5 ได้รับแจ้งว่า นางสาววิลาวรรณ บุคคลตามหมายจับ ได้มาพักอาศัยอยู่ ในซอยอรรถสิทธิ์ ถนนเทพารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ในความผิดฐาน “ร่วมกันในข้อหาลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน,ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและเป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกใด้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้าค่าบริการหรือหนี้อื่นใดแทนการชำระด้วยเงินสดหรือใช้เบิกถอนเงินสดและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

 โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้ไว้สำหรับตนและร่วมกันทำให้เสียหายทำลายแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น

รวบแก๊ง อ้างรับสิทธิประกันสังคม ลวงเหยื่อกดอัปเดต ดูดเงินเกลี้ยง

เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิส์ของตน โดยมิได้เจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.5 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป