- 12 ม.ค. 2561
เปิดรับศักรราช หุ้น RS ขึ้นแรงทำสถิติใหม่ อ่านรายละเอียดเพจRichman can do
จะเป็นปีทองของ ช่อง8 ได้หรือไม่ ..?
วงการต่างจับตามอง เกิดอะไรขึ้นกับ เวิร์คพอย์ท ของเสี่ยปัญญา นิรันดร์กุล ทั้งราคาหุ้นในกระดาน และ เรตติ้งช่องทีวี และเฝ้ารอดูลีลาและท่าที จากนี้ไปของ เวิร์คพอยท์
เพราะวานนี้ (12/1/61) หุ้นบมจ.อาร์เอส หรือ RS กลับมาซื้อขายร้อนแรง ดันราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดในช่วงเช้าที่ 27.75 บาท หลังจากที่ราคาหุ้นซึมลงในช่วง 6 วันที่ผ่านมา ก่อนปิดซื้อขายที่ 27 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 5.88%
ปัจจัยที่ทำให้หุ้น RS กลับมาพุ่งอีกครั้ง เนื่องจากการปรับผังรายการใหม่ในปีนี้ และตั้งเป้าเพิ่มยอดคนดูเป็น 7 แสนคน จาก 5 แสนคนต่อนาที ที่มีนัยสำคัญว่า จะทำให้เม็ดเงินโฆษณาเพิ่ม และมีรายได้เพิ่มจากช่องทีวีช่องธุรกิจความงามและสุขภาพ ที่ปีที่แล้วทำรายได้ดีให้กับอาร์เอส และนักวิเคราะห์คาดว่า งบไตรมาส 4 ปีที่แล้วจะออกมาดี
โดยรายได้งวด 9 เดือนปี 60 RS ทำกำไรอย่างโดดเด่นได้อีกครั้งที่ 222.85 ล้านบาท สวนทางกับธุรกิจสื่อที่ยังซบเซา อานิสงส์จากธุรกิจสุขภาพและความงาม ที่เริ่มทำตลาดมาตั้งแต่ปี 57 โดยล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 3/60 มีสัดส่วนรายได้ถึง 42.5%
นอกจากนั้นเมื่อปีที่แล้ว ราคาหุ้น RS ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น จากธุรกิจความงามโตอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ RS เป็นหุ้นที่ราคาปรับสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในปี 60 เกือบ 260% และเพิ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ All Time High ที่ 29 บาท เมื่อต้นเดือน ม.ค. 61 ก่อนที่จะอ่อนตัวลงจากแรงขายทำกำไร
ขณะที่หุ้นของเสี่ยปัญญา นิรันดร์กุล ราคาถดถอยลง จากที่เคยทำขึ้นไปได้ถึง 98 บาท เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่ขณะนี้ราคาลดลงมาอยู่ระดับ 78 บาท หลังจากที่เรตติ้งช่องและหลายรายการลดลง และคาดว่าต้นทุนดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นมากในปีนี้ สำหรับอันดับช่องจะหล่นจากที่ 3 ลงมาที่ 4 ในบางช่วงเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เกรงว่า ในปีนี้อาจมีช่องอื่น RS หรือ MONO ขึ้นเป็นอันดับ 3 แทน
ดังนั้นนักวิเคราะห์จากหลายสำนักจึงมีมุมมองบวกต่อหุ้น RS มาก เช่น อาจเป็นบริษัทสื่อรายเดียวที่ทำกำไรได้ในไตรมาส 4 ปี60 และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องในปีนี้จากการเติบโตของธุรกิจสุขภาพและความงามเป็นหลัก บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง ระบุว่า RS จะเป็นบริษัทเดียวในกลุ่มที่ผลประกอบการไตรมาส 4 ยังคงเป็นบวกได้ โดยประเมินกำไรเบื้องต้นที่ 30-40 ล้านบาท
เหตุที่ทำให้ RS รอดพ้นวิกฤติของธุรกิจสื่อมาได้ เพราะเบนเข็มสู่ธุรกิจความงามอย่างถูกที่ถูกเวลา ทำให้หุ้นกลับมาเป็นที่สนใจของตลาดอีกครั้ง สร้างรายได้เพิ่มให้บริษัท
สำหรับตัวเลขเม็ดเงินโฆษณาของปี 2560 ตามที่ บริษัท นีลเส็น ประเทศไทย จำกัด รายงานการใช้งบโฆษณาผ่านสื่อปี 2560 มีมูลค่า 1.01 แสนล้านบาท ลดลง 6% เปรียบเทียบปี 2559 โดยสื่อที่มีอัตรา“เติบโต” ในปี 60 ประกอบไปด้วย ทีวีดิจิทัล มูลค่า 21,907 ล้านบาท เติบโต 7.42% ,สื่อในโรงภาพยนตร์ 6,807 ล้านบาท เติบโต 25.01% ,ป้ายโฆษณา 6,361 ล้านบาท เติบโต 12.78% , สื่อเคลื่อนที่ 5,878 เติบโต 10.14% , อินสโตร์ หรือสื่อโฆษณาในร้านค้า 946 ล้านบาท เติบโต 34.57%
ขณะที่กลุ่มที่ติดลบได้แก่ ฟรีทีวีรายเดิม(ทีวีอนาล็อก) มูลค่า 40,966 ล้านบาท ลดลง 13.12% ,เคเบิลและทีวีดาวเทียม 2,913 ล้านบาท ลดลง 15.57% ,วิทยุ 4,476 ล้านบาท ลดลง 14.95% , หนังสือพิมพ์ 7,706 ล้านบาท ลดลง 21.82% ,นิตยสาร 1,943 ล้านบาท ลดลง 33.60% และสื่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งจัดเก็บจาก 50 เว็บไซต์ในกลุ่มไลฟ์สไตล์ มีมูลค่า 1,513 ล้านบาท ลดลง 12.59%
อย่างไรก็ตาม แม้ช่อง 8 ของเฮียฮ้อจะมีแสงออร่าเจิดจ้ากว่า ทีวีดิจิทัล ช่องอื่น แต่ถ้าเปรียบแล้ว ปีนี้ก็เหมือน เพิ่งเริ่มต้นรุ่งอรุณ และ ค่ำคืนนี้ยังยาวไกล ที่จะสรุปได้เลยว่า เฮียฮ้อ จะเผด็จศึกเสี่ยปัญญา หรือ ช่อง 8 จะชิงที่ 3 มาจากช่อง WORK ได้สำเร็จ หรือไม่ ทุกวันนี้หลายฝ่ายก็ต่างจับจ้องอยู่ เสี่ยปัญญา จะงัดกระบวนท่าใด ขึ้นมาสู้ ต้องรอดู...
ขอบคุณกราฟฟิกจากเพจ TV Digital watch