*โหมเหี้ยมผิดมนุษย์!!! พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นขังลูกป่วยทางจิตไว้ในบ้านนาน 15 ปี จนหนาวตายคาห้อง!!! (มีคลิป)

*โหมเหี้ยมผิดมนุษย์!!! พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นขังลูกป่วยทางจิตไว้ในบ้านนาน 15 ปี จนหนาวตายคาห้อง!!! (มีคลิป)

          ตำรวจญี่ปุ่นระบุในวันนี้ว่าพวกเขาได้จับกุมสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ลูกสาววัย 33 ปีของพวกเขาหนาวตายในห้องเล็กๆ ซึ่งทั้งคู่กักขังเธอมานานหลายปี เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าเธอมีอาการป่วยทางจิตบางประเภทที่ทำให้เธอเป็นอันตราย
            สำนักงานตำรวจจังหวัดโอซากาในภาคตะวันออกของญี่ปุ่นระบุว่า ร่างของ ไอริ คาคิโมโตะ ถูกพบในสภาวะอดอยากอย่างร้ายแรงหลังจากพ่อแม่ของเธอแจ้งการเสียชีวิตของเธอเมื่อวันเสาร์ (23) เธอมีส่วนสูง 145 เซนติเมตรและหนักเพียง 19 กิโลกรัมเท่านั้น ตำรวจกล่าวว่า "ยาสุทากะ คาคิโมโตะ" วัย 55 ปี และ "ยูคาริ คาคิโมโตะ" วัย 53 ปี สารภาพว่า พวกเขาให้อาหารลูกสาวเพียงหนึ่งมื้อต่อวันและกักเธอไว้ในห้องขนาด 3 ตารางกิโลเมตรมาประมาณ 13 ปี
          “ลูกสาวของเรามีอาการป่วยทางจิตตั้งแต่อายุ 16 หรือ 17 ปี เธอเริ่มก้าวร้าวรุนแรง ดังนั้นเราจึงกักเธอไว้ในห้อง” ตำรวจระบุโดยอ้างจากคำพูดของพ่อแม่ ในญี่ปุ่นบุคคลที่มีความผิดปกติทางจิตและทางร่างกายจะทำให้ครอบครัวของพวกเขารู้สึกเป็นทุกข์และอับอาย ถึงแม้ว่าทัศนคติของสังคมจะเริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วก็ตาม

*โหมเหี้ยมผิดมนุษย์!!! พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นขังลูกป่วยทางจิตไว้ในบ้านนาน 15 ปี จนหนาวตายคาห้อง!!! (มีคลิป)

           ตำรวจระบุว่า พ่อแม่คู่นี้สร้างห้องเล็กนี้เพิ่มโดยติดกล้องและประตูคู่ที่สามารถปลดล็อคได้จากด้านนอกเท่านั้นไว้ในบ้านของพวกเขาและทำห้องน้ำขึ้นเองโดยมีท่อต่อกับแทงค์น้ำด้านนอก  กล้องวงจรปิดราว 10 ตัวถูกติดตั้งไว้ภายนอกบ้านชั้นเดียวหลังนี้ที่มีรั้วสูง 2 เมตรรายล้อม ตำรวจ กล่าว
           พ่อแม่คู่นี้พบว่าลูกสาวของพวกเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมแต่กลับแจ้งการตายเมื่อวันเสาร์ 23 ธันวาคม 2560 “เราอยากอยู่กับลูกสาวของเราก่อน” ตำรวจกล่าว โดยอ้างจากคำพูดของพวกเขา  ตำรวจกล่าวว่า ทั้งคู่ถูกจับกุมฐานต้องสงสัยเคลื่อนย้ายศพอย่างผิดกฎหมาย ข้อสงสัยที่มักตามมาด้วยข้อกล่าวหาที่รุนแรงกว่า

*โหมเหี้ยมผิดมนุษย์!!! พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นขังลูกป่วยทางจิตไว้ในบ้านนาน 15 ปี จนหนาวตายคาห้อง!!! (มีคลิป)  

*โหมเหี้ยมผิดมนุษย์!!! พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นขังลูกป่วยทางจิตไว้ในบ้านนาน 15 ปี จนหนาวตายคาห้อง!!! (มีคลิป)

ที่มา: รอยเตอร์