- 31 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ต้องบอกเลยว่าไม่มีใครไม่รู้จัก “สันต์ ไชยมาตร” หรือที่รู้จัก “ยาว ลูกหยี” ตลกชื่อดัง หลังห่างหายจากวงการบันเทิงระยะใหญ่ ซึ่งก้าวเข้าสู่วงการตลก ด้วยการชักนำของ “หม่ำ จ๊กมก” ในฐานะคนบ้านเดียวกัน ตั้งแต่ปี 2540 และด้วยความสามารถเฉพาะตัว ซึ่งมี “เอกลักษณ์” ทำให้เขาโด่งดังขึ้นมาตามลำดับ
ล่าสุดยาว ลูกหยี ได้โพสต์ภาพกำลังทำนากับครอบครัว ณ บ้านเกิด อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร พร้อมข้อความระบุว่า "เก็บตกภาพ ดาวตลกไปทำนา ที่ยโสธรนะคร้าบบบ แห้งแล้งมานานทั้งปี พอพวกเราขึ่นมาทอดผ้าป่าเล็กๆ ฝนดีในทันใดนั้น...เลยอดเห็นพี่ๆน้องๆทำนาด้วยความลำบากไม่ได้ ผมเลยจัดเต็ม ได้ทั่งบุญ ทั้งทำนาด้วย กว่าจะได้มาเป็นข้าวที่รานำมาหุงต้มได้ บอกเลยว่าลำบากคร้าบบ..เพราะฉนั่นอย่าทิ้งขว้างกันเลยคร้าบบบ..ขอฝากใว้..เป็นข้อคิดฮะ"
**ความรู้สึกที่เคยสัมภาษณ์หลังหันหลังให้วงการบันเทิง**
“ผมประสบความสำเร็จในอาชีพเซลส์มาก เพราะสินค้าขายดี บางทีขายจนหมดโกดัง ทำอยู่หลายปีพอมีเงินเก็บ จึงรวบรวมเป็นสินสอด ไปสู่ขอ คุณพิชญา มาเป็นคู่ชีวิต อยู่กินกันมาจนถึงทุกวันนี้...” หลังจากลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวแล้ว เขายังทำอาชีพเซลส์ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าออกบู๊ธตามห้างอีกราว 2 ปี
กระทั่ง “หม่ำ จ๊กมก” ตลกรุ่นพี่ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นลูกน้องในคณะตลก “เทพ โพธิ์งาม” ไปพบปะเข้า จึงเอ่ยปากชักชวนให้เปลี่ยนอาชีพ “หน้าที่ในคณะตอนอยู่กับคุณหม่ำคือ ขนของ เก็บอุปกรณ์ฉิ่ง-ฉาบ วิกผม จนกระทั่งปี 39 ตัวเล่นขาด เลยได้ขึ้นไปบนเวที แต่ยังไม่ได้เล่นอะไรมาก เพราะเล่นไม่เป็น แต่พออยู่ไปสัก 3-4 ปี เริ่มซึมซับมุขต่างๆ จนเกิดความคิดอยากเป็นนักแสดงตลก ตอนเป็นเซลส์มีรายได้วันละ 250 บาท แต่นักแสดงตลกตอนนั้น รายได้อย่างต่ำๆ วันละ 4,000-5,000 บาท แล้วจะไปทำงานอะไรที่มีรายได้ดีเหมือนเล่นตลก ไม่มีแล้ว
เห็นตลกหลายคนมีบ้าน มีรถ ผมเลยตั้งใจสักวันหนึ่งต้องเป็นตลกให้ได้” ร่วมงานกับ “หม่ำ จ๊กมก” อยู่ได้ราว 3 ปีเศษ เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต เมื่อ “หยอง ลูกหยี” ดาวตลกรุ่นพี่ ลาออกจากคณะ “ศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม” และชักชวนให้คุณยาว มาร่วมตั้งคณะตลกด้วยกัน ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของฉายา “ยาว ลูกหยี” ที่ใช้หากินมาถึงปัจจุบัน “มาถึงวันนี้ ชั่วโมงบินการเป็นตลกของผม ก็พอทำมาหากินได้อยู่ แต่อาจไม่ยั่งยืนยาวนานนัก เลยอยากพลิกตัวเองมาทำธุรกิจดูบ้าง มันท้าทายดี ดีกว่าไม่มีเงิน แล้วไปหยิบยืมใคร หรือเป็นหนี้เป็นสินเขา ผมชอบยืนอยู่บนขาของตัวเอง…มากกว่า”
ที่มา : dongesan