เปิดใจ"อีฟ พุทธธิดา"ในวันที่คุณพ่อจากไป​ เชื่อพ่อหมดห่วงไม่เหนื่อย​ เเม้ตนเองไม่ได้อยู่ด้วย เผยข้อความที่พ่อสอนจำได้ขึ้นใจ พ่อได้บอกว่าเห็นแสงสีเขียว 

   บรรยากาศงานพระสวดอภิธรรม​​คืนแรก​ "ต้อย​'เศรษฐา ศิระฉายา ที่ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร​ ศาลา 1โดย "อาต้อย​'เศรษฐา ศิลปินแห่งชาติ  พ.ศ. 2554 ได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่20ก.พ.65 ที่ผ่านมา หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งปอดมานานกว่า 3 ปี  สิริรวมอายุ 77 ปี 
ทั้งครอบครัวเเละเพื่อนร่วมวงการ ​ร่วมอาลัยรักเเน่นขนัด  ทั้งนี้ได้มีการเปิดใจ "อีฟ พุทธธิดา"ในวันที่คุณพ่อจากไป​ คนดูเเลบอก พ่อเห็นเเสงสีเขียว นำพาเขาไปในที่ที่ดี

เปิดใจ อีฟ พุทธธิดา ในวันที่คุณพ่อจากไป​ พ่อเห็นเเสงสีเขียว นำพาไปที่ที่ดี

 ทั้งนี้ ก่อนเริ่มพิธีรดน้ำศพ​ 15.00​ น.​  อีฟ พุทธธิดา ลูกสาว​อาต้อย เปิดเผยถึงอาการของคุณพ่อ​ว่าก่อนหน้านี้​ ร่างกายทรุดๆทรงๆ​ ทานข้าวได้น้อยหรือไม่ได้เลยแต่คุณพ่อไม่อยากใส่สายยางทางจมูก​ จึงไม่อยากบังคับ​ ขออยากให้คุณพ่อมีความสุขและสบายใจที่สุด​ ถ้ายังน้อยในวันนี้ก็ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังเพราะครอบครัวทำดีที่สุดแล้ว ต้องยอมรับว่าตลอดที่คุณพ่อต่อสู้กับมะเร็งมากว่า 3 ปี​ เหนื่อยมากๆ​ และอาการทรงตัวมาโดยตลอดแต่มาในช่วงหลังที่ ต้องมีการรักษาอาการเพิ่มเติม

เปิดใจ อีฟ พุทธธิดา ในวันที่คุณพ่อจากไป​ พ่อเห็นเเสงสีเขียว นำพาไปที่ที่ดี

จึงทำให้มีผลข้างเคียง​ ซึ่งในวันที่คุณพ่อจากไป​ อีฟ พุทธธิดาไม่ได้อยู่ด้วย​เดินทางไปธุระ​ ซึ่งตรงกับวันที่คุณหมอนัดและทางครอบครัวตั้งใจจะให้นอนโรงพยาบาล 2-3 วันเพื่อให้แพทย์ได้ให้วิตามิน​/อาหารเสริม​ เพื่อให้คุณพ่อมีหลักการที่ดีขึ้น​  แต่คาดว่าคุณพ่อเหนื่อยมากและมีร่างกายที่บอบบาง​ ประจวบเหมาะกับมีเสมหะเหนียวข้นทำให้หายใจไม่ออกนอนราบไม่สบายตัวสุดท้ายแพทย์จึงตัดสินใจดูดเสมหะและ คาดว่าจะทำให้คุณพ่อเจ็บมากเหนื่อยจนความดันตก​ และไม่สามารถใช้ยากระตุ้นได้

เปิดใจ อีฟ พุทธธิดา ในวันที่คุณพ่อจากไป​ พ่อเห็นเเสงสีเขียว นำพาไปที่ที่ดี

   ตนเองจึงได้ตัดสินใจบอกคุณพ่อว่า​ "ถ้าพ่อเหนื่อยอยากให้พ่อพักเลย" แม่ก็บอกว่า​ "ไม่ต้องห่วงนะพวกเรารักพ่อมากที่สุด" ก่อนที่คุณพ่อจะค่อยๆหลับไ​ป​ อีฟ​ ยอมรับว่าเสียใจที่ไม่ได้อยู่ด้วย​ แต่เชื่อว่าพ่อจะเข้าใจในตอนแรกทุกคนรู้สึกหนักขึ้นแต่คุณแม่เป็นคนที่เข้าใจคุณพ่อมากที่สุดและได้บอกว่า​ "​ พ่อมีชีวิตที่ดีมากๆ​ สิ่งเดียวที่ทำให้คือให้เขาหมดความกังวลใจ​ หมดห่วง​ เขาควรจะรู้ว่าเราอยู่ได้​ เราจะไปต่อได้สานต่อชีวิตที่เขาให้ไว้ได้เป็นอย่างดี"และ​ตลอดชีวิตพ่อเป็นผู้ให้​ ในวันนี้จึงได้กลับคืน/ซึ่งเมื่อพูดถึงตอนนี้คุณอีฟได้สะอื้นออกมาและมีน้ำตาคลอเบ้า

เปิดใจ อีฟ พุทธธิดา ในวันที่คุณพ่อจากไป​ พ่อเห็นเเสงสีเขียว นำพาไปที่ที่ดี

  อีฟ พุทธธิดา เผยต่ออีกว่า ตนเองและครอบครัวรู้สึกว่าเขาดูผ่องใสและดูสงบ​ ทำให้รู้ว่าพ่อไปในที่ที่ดีมากๆเพราะที่ผ่านมาพ่อเหนื่อยมามากแล้วและ ผู้ช่วยหรือคนดูเเลได้บอกกับตนว่า​ ก่อนที่คุณพ่อจะเสีย พ่อได้บอกว่าเห็นแสงสีเขียว ก็เชื่อว่าจากนั้นจะนำพาพ่อไปสู่ที่ดี​ แต่ตนเองและครอบครัวชื่อว่าพ่อยังไม่ได้ไปไหนพ่อยังอยู่ที่บ้านอยู่รับแขกในงานอยู่ในที่ที่รู้ว่ามีคนรักตนเองที่ที่มีความสุข​ รับรู้ทุกความหวังดีความอาลัยและความรักที่ทุกคนมีให้​  

เปิดใจ อีฟ พุทธธิดา ในวันที่คุณพ่อจากไป​ พ่อเห็นเเสงสีเขียว นำพาไปที่ที่ดี

และยังบอกอีกว่า​ ตนเองแม้จะเป็นลูกคนเดียวแต่ไม่เคยอยู่คนเดียวก็ได้สร้างเอาไว้ให้ทุกอย่างและ​ พ่อสอนจนวันสุดท้าย​ โดยข้อความที่ตนจำได้ขึ้นใจคือ​ "คนแพ้ต้องไม่ท้อคนท้อต้องไม่ใช่คนแพ้" อีกครั้งก็ยังเป็นคนง่ายๆ​​ และทำตัวจึงทำให้ตนเป็นคนแบบนั้น​