ทนายเดชา ขำทิ้งท้าย โพสต์ถึงคนเปิดโปงคดีเเตงโม ระวังเดียวดายหน้าบัลลังก์

ทนายเดชา ขำทิ้งท้าย โพสต์ถึงคนเปิดโปงคดีเเตงโม ระวังเดียวดายหน้าบัลลังก์ ฮีโร่โลกออนไลน์ ตอนนี้ไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว

   อัพเดทความคืบหน้าคดีเเตงโม นิดา หลังจากเมื่อวันที่ 9 พ.ค.65 นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้เเถลงเปิดโปงขบวนการสร้างหลักฐานเท็จคดีเเตงโม พร้อมเปิดคลิปนิติเวชขโมยศพเเตงโม ก่อนจะมีข่าวล่าสุดว่า ได้ตรวจพบสารกลุ่มเบนโซไดอาซิปินส์ ชนิด Alprazolam หรือยาเสียสาว ในพยานบุคคลบนเรือ1ราย  ซึ่งทาง "ปอ ตนุภัทร" ก็ได้ออกมายอมรับว่าใช้ยาเสียสาว เพื่อเเก้เครียด  ล่าสุด ทนายเดชา ขำทิ้งท้าย โพสต์ถึงคนเปิดโปง ระวังเดียวดายหน้าบัลลังก์

ทนายเดชา ขำทิ้งท้าย โพสต์ถึงคนเปิดโปงคดีเเตงโม ระวังเดียวดายหน้าบัลลังก์
  โดย ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เคลื่อนไหวล่าสุด โพสต์ผ่านเพจของตนเอง ด้วยข้อความ 

ทนายเดชา ขำทิ้งท้าย โพสต์ถึงคนเปิดโปงคดีเเตงโม ระวังเดียวดายหน้าบัลลังก์
คนเปิดโปงคดีแตงโม เป็นคนไม่มีอาชีพ เมื่อก่อนได้รับเงินเดือนทุกเดือนไม่ต้องทำงาน ตอนนี้ ไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว  ใครเอ่ยคดีความก็ ตามมามากมายฮีโร่โลกออนไลน์ เดียวดายหน้าบัลลังก์555

ทนายเดชา ขำทิ้งท้าย โพสต์ถึงคนเปิดโปงคดีเเตงโม ระวังเดียวดายหน้าบัลลังก์

  ทนายเดชา ขำทิ้งท้าย โพสต์ถึงคนเปิดโปงคดีเเตงโม ระวังเดียวดายหน้าบัลลังก์

  ในส่วนความคืบหน้าของตำรวจ วันที่ 10 พ.ค.65 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ   พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( โฆษก ตร.)​ กล่าวถึงกรณีที่มีการตรวจพบสารกลุ่มเบนโซไดอาซิปินส์ ชนิด Alprazolam ซึ่งเป็นยากล่อมประสาทชนิดหนึ่ง ว่า ได้ตรวจสอบไปยังพล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 แจ้งว่า หนึ่งผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นผู้ชาย ตรวจพบยาในกลุ่ม Alprazolam เบื้องต้นจากการสอบถามการใช้ทางการแพทย์ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ เพราะเป็นยาที่ใช้คลายความกังวล ทำให้หลับ ซึ่งอยู่ในรายละเอียดของสำนวนการสืบสวนสอบสวนว่าใช้ยาตัวดังกล่าวเมื่อไหร่ และมีเหตุผลความจำเป็นในการใช้อย่างไร ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้

ทนายเดชา ขำทิ้งท้าย โพสต์ถึงคนเปิดโปงคดีเเตงโม ระวังเดียวดายหน้าบัลลังก์

 

   ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน มีการสอบปากคำและตรวจสอบพยานทั้งหมด พร้อมบันทึกรายละเอียดอยู่ในสำนวนคดีแล้ว จึงไม่มีการชี้แจงต่อสาธารณะ เพราะเกรงว่า จะมีผลต่อการต่อสู้คดีระหว่างคู่ความ แต่เมื่อมีผู้นำข้อมูลมาเผยแพร่ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงเท่าที่เปิดเผยได้ ส่วนบุคคลที่นำออกมาเผยแพร่ จะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ต้องดูเจตนาเป็นหลัก