อัจฉริยะ พูดชัดหลักฐานใหม่โยง"เเตงโม"ส่อโดนฆาตกรรมอำพราง จะไปให้ตร.ภาค1ก็ได้?? ลั่นดีเอสไอเกรงใจตำรวจ ลังเลรับเป็นคดีพิเศษ

  18พ.ค.65 อัพเดทความคืบหน้าสุดคดีเเตงโม คณะพนักงานสอบสวนเชิญ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์  มาให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีเเตงโม  พร้อมกันนี้ นายอัจฉริยะ ยังได้หอบหลักฐานเพิ่มเติมมาให้ดีเอสไอ เชื่อมโยงเเตงโมส่อโดนฆาตกรรมอำพราง ร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอรับคดีเเตงโมเป็นคดีพิเศษ

อัจฉริยะ ซัดตำรวจภาค1 หมดความเชื่อมั่นเเล้ว ดีเอสไอลังเล เพราะเกรงใจตำรวจ
    โดย นายอัจฉริยะ ได้นำวัตถุพยานพร้อมเอกสารทั้งหมด 20 ชุดที่เป็นนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะมีประเด็นที่พบว่ามีเรือ 2 ลำมาจอดที่ท่าทราย โดยพบเจอจากกล้องที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต  เชื่อว่า ศพเเตงโมน่าจะได้ลอยมาไม่ใช่ตรงที่พบศพ รวมถึงจุดตกเรือที่ตำรวจกล่าวอ้างก็พิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าไม่น่าจะใช่ตรงนั้น เนื่องจากบริเวณนั้นมีแต่ทราย ไม่ใช่โคลนอย่างที่พบในปอดและหลอดลมของแตงโม นิดา  

อัจฉริยะ ซัดตำรวจภาค1 หมดความเชื่อมั่นเเล้ว ดีเอสไอลังเล เพราะเกรงใจตำรวจ

   นายอัจฉริยะ เชื่อว่าแซน วิศาพัชให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน ล้าน % และมั่นใจว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรมอำพรางอย่างแน่นอน แต่โดยไม่ได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า 

อัจฉริยะ ซัดตำรวจภาค1 หมดความเชื่อมั่นเเล้ว ดีเอสไอลังเล เพราะเกรงใจตำรวจ


   นายอัจฉริยะ กล่าวว่า การทำในวันนี้ตนก็เทหมดหน้าตัก ถ้าดีเอสไอไม่รับเป็นคดีพิเศษตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ซึ่งตนก็คิดว่าดีเอสไอจะรับ เพียงแต่จะติดอยู่อย่างเดียวที่ดีเอสไอจะไม่รับคือเขาเกรงใจตำรวจ เพราะถ้าดีเอสไอตรงไปตรงมาตนก็คิดว่าเขารับแน่นอน เพราะหลักฐานมีความแน่นและมีความชัดเจน

อัจฉริยะ ซัดตำรวจภาค1 หมดความเชื่อมั่นเเล้ว ดีเอสไอลังเล เพราะเกรงใจตำรวจ

   สำหรับทางด้านอัยการตนก็คิดว่าคงยังไม่กล้าสั่งฟ้อง เนื่องจากยังเร็วเกินไป สำนวนมีตั้งหลายหน้า ตนก็เชื่อว่าอัยการก็คงใช้ความละเอียดรอบคอบในการสั่งคดี ทั้งนี้ อัจฉริยะ พูดชัดจะนำหลักฐานที่มีไปให้กับทางภาค 1 ก็ได้ แต่ในความรู้สึกของคนคือไม่เชื่อในการทำงานของเขาแล้ว จึงไม่อยากให้ไป