“หยาดทิพย์” พูดหมดเปลือก เฉลยความสัมพันธ์ “อภิรักษ์” ผู้บริหาร Forex-3d

เรียกได้ว่าทำเอาร้อนระอุโซเชียล เมื่อ “หยาดทิพย์ ราชปาล” เพื่อนสนิทของ “พิ้งกี้ สาวิกา” เจอดราม่าหลังไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวใดๆ หลังเพื่อนสนิท ถูกคุมขังใน คดีแชร์ Forex-3D  จนชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเมนต์ว่า “ขอพูดที่ไม่เกี่ยวกับความผิดนะ คือเพื่อนดาราไปไหนหมดไม่มีเลยซักคนหยาดทิพย์นี่คือเงียบไปเลยไม่พูดอะไรสักคำกับเพื่อนรักคุณเลยหรอ,ไม่มีใครมาให้กำลังใจเลยเนาะวงการดารา,ดาราหายหัวหมดค่ะ เพื่อนๆดาราหายหัวไปไหนหมดคะ,ขนาดหยาดทิพย์คู่ซี๊ยังไม่มา ฯลฯ” 

เเละในเวลาต่อมา “หยาดทิพย์” นั้นก็เคลื่อนไหวเเล้วครั้งแรก หลัง “พิ้งกี้ สาวิกา” ถูกคุมขัง แต่กลับโดนทัวร์ลง ไม่ไยดีเพื่อนสนิท โดยงานนี้เธอนั้นก็ได้โพสต์ระบุข้อความผ่านสื่อโซเชียลว่า 

“จากกระแสข่าวต่างๆ ตอนนี้หยาดรู้เรื่องนี้จากข่าวพร้อมกับทุกๆคน หยาดยังไม่รู้ว่าคดีจะเป็นยังไง ก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้เสียหายหรือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทุกคนนะคะ ในฐานะเพื่อนหยาดทุกข์ใจมากนะ และพยายามติดต่อเพื่อนตลอดที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรก แต่ก็ยังติดต่อไม่ได้จนถึงวันนี้ ไม่มีอะไรที่รู้ได้เลยได้แต่ส่งข้อความเพื่อให้เขาเข้มแข็งในวันที่อ่อนแอที่สุด แต่ไม่จำเป็นต้องมาออกสื่อโซเชียลใดๆเพราะไม่อยากให้ข่าวมันไปไกลมากกว่าเดิมเพราะฉะนั้นคนที่ไม่ลงโซเชียลไม่ได้แปลว่าเขาไม่มีความรู้สึกใดๆนะคะ” 

ต้องบอกว่าล่าสุด “หยาดทิพย์ ราชปาล” เพื่อนสนิท “พิ้งกี้ สาวิกา” นั้นก็ได้ออกมาพูดหมดเปลือก เฉลยความสัมพันธ์แท้จริง “อภิรักษ์” ผู้บริหารสูงสุด Forex-3d ยืนยันว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

โดย “หยาดทิพย์” ระบุข้อความว่า “จากข่าวต่างๆที่ออกมา หยาดขอความกรุณาอย่านำรูปลูกหรือเขียนถึงลูกของเรา ลงในข่าวต่างๆที่เชื่อมโยงคดี forex3d และเขียนชี้นำเหมือนเรามีส่วนร่วม เพราะผลนั้นกระทบโดยตรงต่อครอบครัว

-คอนโดนี้ซื้อมาอย่างถูกต้องมีหลักฐานครบถ้วนค่ะ
-หยาดกับคุณเมฆไม่เคยรู้จักอภิรักษ์มาก่อนที่จะซื้อคอนโด จนวันที่เค้าถูกดำเนินคดีและเป็นข่าวออกมา
-คอนโดนี้คุณเมฆซื้อแบบขายฝากผ่านนายหน้า “มาก่อนที่อภิรักษ์จะถูกดำเนินคดีและเป็นข่าว”
ซึ่งตอนที่ทำสัญญาขายฝากสามีหยาดไม่รู้ว่าคอนโดที่ซื้อจะมีปัญหา พอเวลาผ่านไปก็เห็นจากข่าวว่า เจ้าของเก่าจะถูกดำเนินคดีและเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง และขอยืนยันว่าคุณเมฆไม่ได้เป็นนอมินีใดๆ เลยขอมาชี้แจงตรงพื้นที่นี้นะคะ

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline