สภาพจิตใจ ดีเจแมน-ใบเตย หลัง DSI เตรียมออกหมายเรียกคดี Forex-3D

ทนายเจมส์ เผยสภาพจิตใจ "ดีเจแมน-ใบเตย สุธีวัน" หลัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI เตรียมออกหมายเรียกคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D

ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนจับตามองสำหรับคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ล่าสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ได้ออกมาอัปเดตความคืบหน้าของคดีฟอเร็กซ์ 3 ดี เตรียมเรียกผู้ต้องหา 16 ราย มารับทราบข้อกล่าวหา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการในสำนวนคดีกลุ่มผู้ต้องหา 16 คน กลุ่มร่วมลงทุน หนึ่งในนั้นมีชื่อของคนวงการบันเทิงอยู่ 2 คน ซึ่งคือ ใบเตย สุธีวัน และสามี ดีเจแมน พัฒนพล รวมอยู่ด้วย ซึ่งคาดว่าในช่วงเดือน ก.ย.นี้ อาจจะมีการออกหมายเรียกบุคคลเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา

 

สภาพจิตใจ ดีเจแมน-ใบเตย หลัง DSI เตรียมออกหมายเรียกคดี Forex-3D

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2565 ในรายการแฉ ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าว โดยทาง ทนายเจมส์ ได้บอกว่า "เบื้องต้นตอนนี้ ดีเจแมน และใบเตย ยังไม่ได้รับหมายเรียกอะไร มีข่าวว่าภายในสัปดาห์นี้คนอื่นๆ ในรายชื่อ 16 คน เริ่มทยอยออกมาได้รับหมายเรียกแล้ว แต่ว่าฝั่งของ ดีเจแมน ตอนนี้ยังไม่มี ความมั่นใจในเรื่องของคดีความนั้นเชื่อว่าจะสามารถอธิบายในชั้นศาลกับเจ้าหน้าที่พนักงานอัยการสอบสวนสงสัยได้ ทนายเจมส์คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของรูปถ่ายต่างๆ ภาพที่ทุกคนเห็นว่ามันมีที่ไปที่มาอย่างไร รวมถึงเงินบางยอดที่อาจจะยังไม่เคลียร์ อันนี้ในส่วนของดีเจแมน


ส่วนของ ใบเตย อาจจะต้องไปเคลียร์ในส่วนของรูปถ่ายที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน ในส่วนของข้อความชักชวนอันนี้ไม่มีแน่นอน ซึ่งส่วนตัวเข้าใจว่าผู้เสียหายก็มีสิทธิ์ที่จะสงสัยได้ เพราะว่าข่าวลือต่างๆนานา มันก็ออกมา รวมไปถึงการใช้ชีวิตของดีเจแมนและใบเตยอย่างที่เราเห็นกัน บางคนก็วิจารณ์กันไปว่าเค้าใช้ชีวิตหรูหรา แม้กระทั่งเรื่องของค่าสินสอดตอนแต่งงาน 45 ล้าน คนก็เลยสงสัยว่า 45 ล้านจะเป็นเงินที่อภิรักษ์ CEO มามอบให้ในงานแต่งหรือเปล่า เพราะมีสื่อมวลชนรวมถึงดาราที่มากมายมาร่วมงานในวันนั้น อยากจะถามว่ามีใครเคยเห็นจำนวนเงิน 45 ล้านบาทนี้จริงๆไหม อันนี้ก็ต้องมาถามกัน ทางทนายเค้าก็บอกแบบนี้

 

สภาพจิตใจ ดีเจแมน-ใบเตย หลัง DSI เตรียมออกหมายเรียกคดี Forex-3D

ทนายเจมส์ ก็ได้คุยกับ ดีเจแมนและใบเตย ทุกวันนี้ก็มีการอัปเดตความคืบหน้ากัน ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่ได้มีอาการเครียดหรือกังวลอะไร เพราะได้อธิบายไปหมดแล้ว สำหรับโซเชียลก็พยายามหาหลักฐานมาปะติดปะต่อกันเรื่องราว ก็เข้าใจว่าคนในโลกโซเชียลก็คิดกันไปแบบนั้นแบบนี้ เพราะว่ามันมีภาพเฟซบุ๊กของ CEO แล้วก็ลูกน้องคนที่รู้จักสนิทสนม ซึ่งการถ่ายรูปร่วมกันก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะรู้ทุกสิ่งทุกอย่างของคนคนนั้น สุดท้ายเดี๋ยวก็ต้องรออัปเดตกันอีกทีหนึ่งตกลงแล้วยังไง

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline