"นิกกี้ พิ้ม"เล่าเรื่องราว เคยว่ายน้ำข้ามเกาะ โดยมีผู้หญิงเกาะหลังด้วย 1 คน

จากกรณีดราม่าขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ #โตโน่ ที่มีคนออกมาวิจารณ์ "โตโน่" ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” มากมาย  กับการปฏิบัติภารกิจว่ายน้ำข้ามโขง ในวันที่ 22 ต.ค.65 จากไทยไปลาว จากลาวกลับมาไทย เพื่อหาเงินไปช่วย รพ.นครพนมของไทย และ รพ.แขวงคำม่วน สปป. ลาว 

ล่าสุด นิกกี้ พิ้ม นักร้องไอดอลยุค 90's ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า 

จะมีใครเชื่อไหมถ้าผมบอกว่าผมเคยว่ายน้ำข้ามเกาะตอนอายุ 24 ที่จังหวัดตราดมาแล้ว ?

ผมว่ายน้ำจากเกาะง่ามข้ามไปเกาะกูด ตอนช่วงเวลาประมาณ 11:00 น โดยมีผู้หญิง 1 คนเกาะที่หลังไปด้วย

สมัยที่ผมว่ายน้ำข้ามเกาะตอนนั้นเกาะง่ามยังเป็นของเอกชนอยู่ คืนก่อนที่ผมจะว่ายข้ามเกาะช่วงเช้าตอนกลางคืนผมนอนไม่ถึง 4 ชั่วโมงเนื่องจากปาร์ตี้ทั้งคืนด้วย

ช่วงเช้าระหว่างที่ผมเล่นน้ำอยู่ชายหาดของเกาะง่าม ผมก็ตัดสินใจว่ายไปเรื่อยๆโดยที่มีเพื่อนผมเป็นผู้หญิงคนนึงเกาะหลังผม นางว่ายน้ำไม่เป็นด้วยผมว่ายไปเรื่อยๆน่าจะเกินครึ่งชั่วโมงจนสุดท้ายข้ามไปอีกเกาะนึงแล้วมีชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ริมเกาะกำลังซักผ้าอยู่ ชาวบ้านตกใจว่าทำไมผมถึงมาได้เขาจำผมได้ สักพักนึงพอผมพักเหนื่อยเขาก็ได้ออกเรือกลับมาส่งผมและเพื่อนที่ฝั่งเกาะงามถือว่าเป็นตำนาน เพราะว่าทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทั้ง 2 ฝั่งและคนในจังหวัดตราดเคยได้ยินเรื่องนี้ดี

ผมเคยเอาไปพูดในรายการชิงร้อยชิงล้านสมัยก่อนเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว เรื่องนี้สามารถพิสูจน์ได้เนื่องจากว่าผมมีรูปถ่ายเก็บไว้อยู่และผู้หญิงที่เกาะหลังผมไปก็ยังมีชีวิตอยู่เป็นเพื่อนผมตอนนี้อยู่ที่อเมริกาเป็นคนไทย ส่วนเรื่องเล่านี้ดังกึกก้องไปในจังหวัดตราดและคนที่จันทบุรีก็รู้ด้วย เคยมีวันนึงผมอยู่ที่ห้องอัดอัดเพลงอยู่แล้วมีรุ่นพี่เป็นผู้ใหญ่ชื่อพี่โรจน์เดินเข้ามาบอกว่าไอ้นิคมึงไปว่ายน้ำข้ามเกาะมาใช่ไหมคนที่จังหวัดตราดเขาพูดกันทั้งจังหวัดว่ามึงน่าจะเป็นคนเดียวที่เคยทำได้เคยมีนักท่องเที่ยวหลายคนแล้วพยายามจะทำแล้วก็ไปไม่ถึงแต่ที่ฮาคือผมมีผู้หญิงเกาะหลังไปอีก 1 คน เรื่องจริงครับ

พอดีเห็นข่าวช่วงนี้ฮิตข่าวที่ดาราท่านหนึ่งกำลังจะว่ายน้ำ ข้ามแม่น้ำโขงผมเลยอยากนำเสนอว่าผมว่ายข้ามเกาะมาแล้วครับมีผู้หญิงเกาะหลังด้วยเรื่องจริง

ปล: ตอนที่ว่ายน้ำข้ามเกาะไปไม่มีคนติดตามด้วยมีแค่คนยืนลุ้น 1 ฝั่ง แถมมีผู้หญิงว่ายน้ำไม่เป็นเกาะไปอีก 1 คน พูดง่ายๆถ้าจบก็คือตายทั้งคู่เรื่องจริง

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainewsonline