อ่ำ ร่ำไห้เปิดใจปมชีวิต จากประสบความสำเร็จสูงสุด ถึงวันที่ล้มไม่รู้ตัว

อดีตนักแสดงชื่อดัง "อ่ำ อัมรินทร์" ที่ล่าสุดเจ้าตัวออกมาร่ำไห้เปิดใจเล่าปมชีวิตในรายการดัง จากประสบความสำเร็จสูงสุด ถึงวันที่ล้มแบบไม่รู้ตัว

เรียกว่าเป็นโมเมนต์เรียกน้ำตาของ อ่ำ อัมรินทร์ ที่ล่าสุดได้ออกมาร่ำไห้เปิดใจเล่าปมชีวิตในรายการแฉ ย้อนวันที่โด่งดัง เป็นทั้งพระเอก นักร้อง ประสบความสำเร็จไปหมด ถึงวันที่ล้มก็มาแบบไม่รู้ตัว ร่างกายทรุดโทรม จนไม่เหลืออะไรเลย
"อ่ำ อัมรินทร์" ร่ำไห้เปิดใจเล่าปมชีวิต จากประสบความสำเร็จสูงสุด ถึงวันที่ล้มไม่รู้ตัว

ซึ่งเริ่มจาก ป่วยสะสมทั้งโรค เกาต์ รูมาตอยด์ จะใส่กางเกงยังไม่ได้ สุดท้ายไปบวชเพราะเก็บอะไรไว้ไม่ได้แล้ว ตอนไม่มีเงิน หลักสิบก็ไม่มี อ่ำ ยอมรับว่า หาไม่ได้เลย ไม่ได้ขี้เกียจ แต่ป่วยทรมาน ถึงขนาดตื่นมามือยังบวม 

"อ่ำ อัมรินทร์" ร่ำไห้เปิดใจเล่าปมชีวิต จากประสบความสำเร็จสูงสุด ถึงวันที่ล้มไม่รู้ตัว

อ่ำเล่าอีกว่า “เคยตื่นมาแล้วพนมมือ ไหว้บอกพอแล้วได้ไหม ปล่อยผมไปเถอะ เชื่อมีเจ้ากรรมนายเวรติดตาม ซึ่งเจ้ากรรมนายเวรที่สำคัญคือตัวเรา ที่ทำตัวเอง บ้าน-รถ ก็ไม่เหลือ จากคนไม่เข้าวัด สวดมนต์ยังไม่สวด ก็เริ่มเข้าวัด
"อ่ำ อัมรินทร์" ร่ำไห้เปิดใจเล่าปมชีวิต จากประสบความสำเร็จสูงสุด ถึงวันที่ล้มไม่รู้ตัว

อ่ำ เล่าอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่ป่วยอยู่ 2-3 ปี อั้มเป็นคนพาไปวัดบางเดื่อ ที่อยุธยา พาไปนั่งสมาธิ ครั้งหนึ่งได้ไปที่พลับพลาไหว้ขอพระเจ้าตาก เปรียบตัวเองเสมือนทหารที่เคยร่วมรบ ทหารที่รบต้องมีหัวใจที่เด็ดเดี่ยวมาก เราก็ต้องฝ่าฟันเรื่องนี้ไปให้ได้ ต่อมา ในปี 60 ก็ตัดสินใจบวช

"อ่ำ อัมรินทร์" ร่ำไห้เปิดใจเล่าปมชีวิต จากประสบความสำเร็จสูงสุด ถึงวันที่ล้มไม่รู้ตัว

อ่ำ ยังเผยเรื่องที่ตัวเองก็ไม่เชื่อ แม่ของตนเองบอกว่ามีผู้หญิงเข้าฝันให้ไปที่สุสานวีรชนคนกล้า เมืองกาญจน์ ก็ไม่เชื่อแต่อยากไปลอง ตอนแรกไปสุสานชาวยุโรปก็ไม่ใช่ คนขายพวงมาลัยบอกให้ไปอีกที่หนึ่ง เป็นอุทยานสงครามเก้าทัพ ไปถึงเวลาใกล้ค่ำ เป็นเนินขึ้นไป จนไปเห็นป้ายอุทยานเก้าทัพ ก็ร้องไห้แบบขาดสติ รู้ตัวแต่หยุดไม่ได้ 

"อ่ำ อัมรินทร์" ร่ำไห้เปิดใจเล่าปมชีวิต จากประสบความสำเร็จสูงสุด ถึงวันที่ล้มไม่รู้ตัว

ขับไปมืดๆ สักพักเหมือนมีอะไรมาช่วยให้เราพุ่งขึ้นเนินไปที่จอดรถ ซึ่งเป็นศาล ไฟหน้าส่องไป เป็นป้ายกรมพระราชวังบวรสุรสีหนาท (บุญมา) พระอนุชาในรัชกาลที่ 1 ที่เคยร่วมรบกับพระเจ้าตาก ตอนนั้นร้องไห้หนักมาก เปิดประตูลงไปนอนหมอบร้องไห้ ตอนนั้นไม่รู้ประวัติอะไรเลย ร้องไห้อยู่นานจนได้สติ เดินเข้าไปทำตามที่แม่บอก ขอขมาทุกดวงวิญญาณ ตอนนี้กลับมาได้แล้ว วางแผนถือศีล 5 และศีล 8 อย่างจริงจัง 

ที่มา รายการแฉ

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thainewsonline