จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง ตอกกลับชาวเน็ต หลังบอกจ่าย 4 ล้าน จูน เพ็ญชุลี ภรรยา หนุ่ม กะลา

หลังจากที่เป็นประเด็นดังและถูกโซเชียลถล่มหนักมาก สำหรับ จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง CEO สาวคนดัง ที่มีประเด็นถูกมองว่าเป็นมือที่ 3 ของ หนุ่ม กะลา นักร้องชื่อดังจากนั้นทาง จ๊ะโอ๋ ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยการโพสต์ภาพคล้ายกำลังนั่งแถลงข่าว พร้อมแคปชั่นว่า ตอบทุกประเด็น เปิดใจที่นี่ที่แรก แต่ก็ยังไม่มีการแถลงข่าวตามที่ได้โพสต์ไปแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้ใน TikTok ของ จ๊ะโอ๋ ก็ได้มีคนเข้ามาคอมเมนต์กันจำนวนมาก อาทิ "ไปฟ้องเมียหลวงเค้ากลับ ข้อหาเบิกความเท็จ ขำหนัก" ด้าน จ๊ะโอ๋ ก็เข้ามาตอบกลับว่า "ขำด้วย 5555555", "อย่าลืมจ่ายน้าา" จ๊ะโอ๋ ก็ได้ตอบกลับว่า "คดียังไม่จบ จ่ายทำไมอะ"

"จ่ายคุณจูนก่อน" จ๊ะโอ๋ ตอบกลับว่า "รอคดีจบ", "จาก 4 ล้าน สู่ 10 ล้าน ว้าวซ่ามาก" จ๊ะโอ๋ก็ได้ตอบกลับว่า "5555555 คิดว่าศาลจะตัดกี่บาทดี 4 ล้านยังอุทธรณ์ไม่จบ จะได้ครบหรือเปล่ายังไม่รู้เลย คดีมันยังไม่จบค่ะ อีกยาวไกล" 

 

และล่าสุด จ๊ะโอ๋ ได้ออกมาไลฟ์ และเจ้าตัวก็ได้พูดถึงประเด็นนี้ โดยบอกว่า ยังไม่จ่าย เพราะคดีมันยังไม่จบ พอดีตนเองเป็นคนที่อยู่เหนือดราม่ามากๆ อยู่สูงขึ้นไป ที่มองลงมาแล้วขำ และยังทิ้งท้ายว่า "เบื่อพวกที่เอาตัวเองไปยุ่งกับข่าวจัง"

 

 

 

 

สำหรับคดีดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ทนายพัฒน์ ทนายความของ จูน เพ็ญชุลี ภรรยา หนุ่ม กะลา ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ระบุว่า คำพิพากษาวันนี้โดยให้เหตุผลสรุปรวมๆ ได้ว่าประเด็นว่า จำเลยกระทำผิดหรือไม่ เหตุผลคือ มีตัวโจทก์เบิกความพร้อมพยานเอกสารที่เป็นภาพถ่าย รวมถึงคลิปวิดีโอที่จำเลยกับสามีโจทก์แสดงออกต่อคนทั่วไป 

 

มีการไปเที่ยวด้วยกัน มีการไปเลือกซื้อสินค้า รวมถึงจำเลยเคยพูดกับพี่สาวของจำเลยรับว่าคบหากับสามีโจทก์มาแล้ว 2 ปี จึงรับฟังได้ว่า จำเลยแสดงตนโดยเปิดเผยกับสามีโจทก์ อันทำให้โจทก์มีสิทธิ์เรียกค่าทดแทนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 วรรคสอง

ประเด็นเรื่องค่าเสียหาย เหตุผลคือ โจทก์สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นปริญญาตรีและประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัท โจทก์กับสามีโจทก์มีการแต่งงานตามประเพณีมีสินสอด 1 ล้านบาท ในการแต่งงานมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ทั้งก่อนเกิดเหตุครอบครัวของโจทก์มีความสุขดี แต่ต่อมาทำให้ครอบครัวแตกแยก ขาดความรักความอบอุ่น ถึงขั้นต้องรักษาพยาบาล 

 

เมื่อพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์แล้ว จึงกำหนดค่าทดแทนให้จำเลยชำระแก่โจทก์เป็นเงินจำนวน 4,000,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยตามกฏหมาย (ผมสรุปได้เท่านี้ เพราะต้องคัดคำพิพากษาฉบับเต็มอีกครั้งครับ)

 

เรื่องนี้เป็นวิทยาทานให้แก่สังคมโดยรวมครับ ต่อไปก็รอดูว่าจำเลยจะอุทธรณ์ตามสิทธิ์ของจำเลยหรือไม่นะครับ ถ้าถึงที่สุดเมื่อไหร่ก็บังคับคดีตามกฎหมายต่อไป"