ฟังแล้วตกใจ "ฝน ธนสุนทร" เปิดใจเรื่องอดีตชาติ ที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน

เมื่อพูดถึงนักร้องลูกทุ่งสาวเสียงหวาน "ฝน ธนสุนทร" หลายคนคงนึกถึงน้ำเสียงอันไพเราะและเส้นทางในวงการเพลงที่ยาวนาน ล่าสุดเจ้าตัวเปิดบ้านให้สัมภาษณ์แบบหมดเปลือกในรายการ "แม๊...เม้าท์ ยังไงไหนเล่าซิ" EP.39 โดยมี แม่อ้วน และ ก๊อตจิ เป็นผู้ดำเนินรายการ ฝนเปิดเผยว่า ตลอดเส้นทางในวงการบันเทิง มีหลายครั้งที่มีคนติดต่อมาแสดงความสนใจอยากให้เธอเป็นภรรยา แต่เจ้าตัวขอเลือกโฟกัสที่งานและครอบครัวมากกว่าการมีชีวิตคู่

 

 

นอกจากเส้นทางการเป็นศิลปิน ฝนยังเล่าว่า หากถึงเวลาที่เหมาะสม ก็อยากใช้ชีวิตบั้นปลายในร่มกาสาวพัสตร์ หรือบวชเพื่อศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง เพราะเธอศรัทธาและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา หนึ่งในประเด็นที่ทำให้หลายคนสนใจคือ ความเชื่อส่วนตัวของฝนที่ว่า "ชาติที่แล้ว เธออาจเคยเกิดเป็นสุนัข" ที่พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเคยเลี้ยงดูไว้ ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่ามีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้เธอปักใจเชื่อในเรื่องนี้ สำหรับบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม สามารถติดตามได้ในรายการ "แม๊...เม้าท์ ยังไงไหนเล่าซิ" EP.39 ซึ่งแฟนๆ ต่างชื่นชมในความเปิดเผยและแนวคิดที่ลึกซึ้งของเธอ

 

รายการแม๊...เม้าท์ ยังไงไหนเล่าซิ EP.39  "แม่อ้วน" และ "ก๊อตจิ" ได้สัมภาษณ์ "ฝน ธนสุนทร" เจ้าหญิงแห่งวงการลูกทุ่งเจ้าตัวได้เปิดใจถึงเรื่องที่กล่าวไปข้างต้นว่า

สวยและดังขนาดนี้ มีพวกขาใหญ่ในวงการการเมืองอยากได้เป็นเมีย ?

เขาก็ไม่ได้พูดขนาดนั้นนะ เขาก็แบบอยากทานข้าวด้วย ก็ไม่รู้ว่าได้เบอร์เรามายังไงก็โทรหาเรา เราก็บอก "อ๋อเหรอคะ ขอบพระคุณนะคะที่เอ็นดู" นู้นนี่นั้น พอวางสายปุ๊บฝนก็เปลี่ยนเบอร์เลย เพราะเราก็กลัวค่ะ

คู่ชีวิตอย่าง "ป๋าเอ" ที่อยู่ร่วมกันมากว่า 22 ปี ช่วงแรกที่ไม่เปิดตัวเพราะอะไร ?

ตอนแรกก็ต้องหลบๆ ไม่เปิดเผย เราก็จะตอบคนอื่นว่า ไม่มีแฟน เพราะแฟนคลับก็ไม่อยากให้มีอยู่แล้ว แต่พอวันเวลามันผ่านไป เขาก็นั่งร้องไห้บอกว่าเขาเป็นอะไรในสายตาพี่ฝนเหรอ เหมือนว่าเขาไม่มีตัวตน เจ็บทุกครั้งที่ฝนบอกว่ายังไม่มีแฟน ฝนก็บอกว่าต้องเข้าใจเพราะคนยังยอมรับไม่ได้ แต่พอเวลาผ่านไปคนเริ่มยอมรับได้ส่วนหนึ่ง เราก็ไม่พูดหรือเปิดตัวสะทีเดียวก็อยู่เฉยๆ สบายๆ อยากรู้ก็รู้ไป คนที่รักเราจริงๆ ก็รับได้

 

 

ถามว่าตอนนั้นรู้สึกยังไง ก็รู้สึกว่าปากกับใจไม่ตรงกันก็รู้สึกผิด แต่มันพูดไม่ได้ไง มันยังไม่ถึงเวลาที่เราจะพูด ณ วันนี้ที่เราพูดได้แล้ว ก็ยังมีคนพูดว่า "เสียดายของว่ะ" เราก็ "อ่อ ไม่ต้องเสียดายค่ะเพราะของๆ นั้นเป็นของเรา ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วงแต่เราแฮปปี้ดี"

 

"ฝน ธนสุนทร"ยังเล่าต่อเรื่องชีวิตว่า ก่อนหน้านี้คิดจะจดทะเบียนสมรสค่ะ แต่ตอนนี้ไม่คิดจะจดแล้ว ไม่เป็นไรก็อยู่กันแบบนี้แหละ แล้วตอนนี้ก็ อยากบวช เขาก็นอยด์ๆ ว่าจะทิ้งเขาไปเหรอ เราก็อ่ะ จะอยู่กับทางโลกก่อนให้เต็มที่แล้วถึงเวลาที่เรามีบุญวาสนาคงได้ทำ เพราะคิดจะบวชไม่สึก

ถามว่าคนที่คิดจะบวชไม่สึกเพราะผิดหวังเรื่องคู่หรือเปล่า ไม่ได้ผิดหวังเรื่องคู่ เพราะเขาดูแลเทคแคร์เราดีมากตั้งแต่วันแรกจนวันนี้

"...แต่สิ่งที่เราเห็นจากโลกคือ คนๆ หนึ่งร้องไห้ เดี๋ยวกลับมามีความสุข เดี๋ยวกลับไปร้องไห้อีกแล้ว ยิ่งมาฟังเทศน์ฟังธรรม มันไม่เที่ยง แล้วกลับมาที่ตัวเรา พอมีงานเข้ามาเรามีความสุข พองานแคนเซิลเรามีความทุกข์อีกแล้ว พอมีออเดอร์เข้ามามีความสุขอีกแล้ว พอไม่มีออร์ไม่มีความสุขอีกแล้ว มันเลยรู้สึกว่า เราจะหมุนวนแบบนี้อีกนานแค่ไหน..."

 

"แล้วเราไปไหว้พระเมื่อก่อนจะบอกสาธุขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ บลาๆ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว เวลาไหว้พระขอพรคือ ขอให้ลูกมีสติ ขอให้มีดวงตาเห็นธรรม ขอให้ลูกได้ถึงพระนิพพาน ไม่อยากกลับมาเกิดอีกแล้ว"

 

ทำไมคิดว่าตัวเองเป็นหมาชาติที่แล้ว ?

จริงๆ ก็ไม่ได้คิดนะคะ แต่ผูกพันกับหมาตั้งแต่เด็ก เพราะโดนหมากัด กัดที่หน้าเลย (ชี้แผลเป็นที่หน้า) เป็นหมาวัด สมัยนั้นจะรู้ว่าเป็นหมาบ้าหรือไม่คือต้องฆ่ามันแล้วเอาไปให้หมอตรวจ แล้วพอหมอตรวจสรุปหมาไม่ได้บ้า จากนั้นก็เลยติดอยู่ในใจของเราค่ะ เราเลยเลี้ยงหมามาเรื่อยๆ

เชื่อว่าชาติที่แล้วเป็นหมาของหลวงพ่อกรวย ?

ไปวัดของหลวงพ่อกรวย ไปครั้งแรก ก้มลงกราบที่โลงแก้วของท่าน แล้วร้องไห้แบบดีใจมาก แบบบอกไม่ถูกแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ครั้งที่สองได้ขึ้นไปที่กุฏิเก่าของท่าน เห็นรูปที่ท่านถ่ายคู่กับหมาของท่าน พอมองปุ๊บข้างในจิตอ่ะค่ะ พูดว่า "ฉันคือหมาตัวนั้น" แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา แล้วภาพก็เหมือนวาร์ปไปครั้งแรกที่เรากราบ เราก็รู้สึก อ๋อ ดีใจเหมือนหางจะหลุดมันเป็นแบบนี้เอง เหมือนได้กลับมาเจอเจ้าของประมาณนี้ค่ะ"

 

เราก็ถามสืบเรื่องหมา จนรู้ว่าหมาตัวนี้เขามีอายุอยู่ที่ พ.ศ.อะไร แล้วตายไป หลวงพ่อท่านทำพิธีสวดให้เหมือนคน ให้ไปเกิดโน้นนี่นั้น แล้วเราเกิดพ.ศ.2517 แล้วหมาตัวนั้นน่าจะตายก่อนประมาณ พ.ศ.2515 ก่อนหน้านั้นเราก็รู้สึกว่า มันใช่เหรอ เราก็อธิษฐานจิตในใจว่า ถ้าหนูใช่จริงๆ แบบที่คิด ช่วยสงสัญญาณให้หนูรู้ได้ไหมคะ

 

มีวันหนึ่งได้ไปฟังเทศน์ของหลวงปู่มั่น แล้วท่านพูดประโยคหนึ่งว่า "เราอ่ะเกิดเป็นหมามาไม่รู้กี่ชาติแล้ว น่าสังเวชเหลือเกิน" คำนั้นมันมากระแทก มันลงล็อกอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งเราก็ดีใจนะถ้าชาติก่อนเราเป็นหมาแล้วชาตินี้ได้เกิดเป็นคนแสดงว่าเราก็มีบุญอยู่นะ

 

เมื่อก่อนถ้าขึ้นไปสวดมนต์เราจะไม่ให้น้องหมาตามขึ้นไปห้องพระ แต่ตอนนี้พี่ฝนจะเปิดห้องเลยถ้าน้องหมาตัวไหนอยากเข้าไปสวดมนต์กับพี่ฝนด้วย เขาก็จะเขาไปนั่งสมาธิข้างๆ พี่ฝน เราก็มองว่า หมาก็มีสิทธิ์ได้เกิดเป็นคนนะ ดังนั้นอย่าดูถูกหมานะ