ICAN ขอสอน 9 ชาติ ยอมจ่าย เกือบ 3 ล้านล้าน เพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ในปี 64

เปิดรายชื่อ 9 ชาติ ยอมจ่ายเพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เกือบ 3 ล้านล้าน ในปี 64 ICAN ไม่เห็นด้วย บอกไม่เกิดประโยชน์เลยสักนิด

 ICAN ขอสอน 9 ชาติ ยอมจ่าย เกือบ 3 ล้านล้าน เพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ในปี 64 มีรายงานข้อมูลจากองค์กรรณรงค์ยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์ระบุว่า 9 ประเทศ ที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ใช้จ่ายเงินเพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์รวมกันเกือบ 3 ล้านล้านบาท ในปี 2564 เพิ่มขึ้น 8% จากเมื่อหนึ่งปีก่อน 

 

โดยมีข้อมูลรายละเอียดว่าการใช้จ่ายด้านอาวุธนิวเคลียร์ประจำปี ที่จัดทำโดยคณะกรรมการรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์ หรือ ICAN ระบุว่า สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีการใช้จ่ายด้านอาวุธนิวเคลียร์มากที่สุด 44,200 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว หรือเกินครึ่งหนึ่งจากยอดการใช้จ่ายของประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ทั้ง 9 ประเทศในโลก รวมกัน 82,400 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.89 ล้านล้านบาท

 

ส่วนจีนอยู่ในอันดับ 2 มียอดใช้จ่ายด้านอาวุธนิวเคลียร์ 11,700 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย รัสเซีย 8,600 ล้านดอลลาร์ จากนั้นก็เป็น อังกฤษ 6,800 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ ฝรั่งเศส 5,900 ล้านดอลลาร์ ต่อด้วย อินเดีย 2,300 ล้านดอลลาร์ ด้าน อิสราเอล 1,200 ล้านดอลลาร์ ยังมี ปากีสถาน 1,100 ล้านดอลลาร์ และเกาหลีเหนือ 642 ล้านดอลลาร์
 


อีกทั้ง ICAN ระบุด้วยว่าการใช้จ่ายด้านอาวุธนิวเคลียร์ไม่ได้ช่วยยับยั้งสงครามในยุโรป และยังสิ้นเปลืองทรัพยากรอันมีค่า ที่อาจนำไปใช้ในเรื่องความท้าทายด้านความมั่นคงอื่นๆ หรือใช้ต่อสู้กับโรคระบาดครั้งใหญ่ของโลก และวงจรการใช้จ่ายอย่างสิ้นเปลืองเช่นนี้ควรยุติได้แล้ว 


นอกจากนี้ ICAN เปิดเผยว่าผู้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ทุ่มเงินหลายล้านดอลลาร์ เพื่อล็อบบีให้ได้สัญญาจัดซื้ออาวุธ โดยทุก 1 ดอลลาร์ ที่ทุ่มไปกับการล็อบบี จะนำไปสู่ราคาเฉลี่ย 256 ดอลลาร์ ของสัญญาซื้อขายอาวุธนิวเคลียร์แต่ละฉบับ 

 

ทั้งนี้  สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม หรือ SIPRI เผยแพร่รายงานว่าจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับจากยุคสงครามเย็น โดยมีปัจจัยจากความขัดแย้งทั่วโลก และ 9 ประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ได้เพิ่มจำนวนหรืออัปเกรดหัวรบนิวเคลียร์มากขึ้น และความเสี่ยงที่อาวุธเหล่านี้จะถูกนำมาใช้จริง ก็เพิ่มขึ้นสูงสุดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนนับจากยุคสงครามเย็น


อย่างไรก็ตาม ในรายงานฉบับนี้ระบุว่ารัสเซียมีหัวรบนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก  5,977 ลูก จากจำนวนทั้งหมด 12,705 ลูกใน 9 ประเทศ ตามด้วยสหรัฐฯ ที่มี 5,428 ลูก โดยทั้งสองชาติมีหัวรบนิวเคลียร์รวมกันคิดเป็น 90% ของทั้งโลก