นักข่าวพยากรณ์อากาศสู้ชีวิต รายงานสถานการณ์ พายุเฮอร์ริเคนเอียน

เปิดคลิปโซเชียลแชร์ภาพ ผู้สื่อข่าวช่องพยากรณ์อากาศ ที่ออกไปยืนฝ่าความรุนแรงระดับ 4 ของพายุเฮอร์ริเคนเอียน ในขณะพัดขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดา

นักข่าวพยากรณ์อากาศสู้ชีวิต รายงานสถานการณ์ พายุเฮอร์ริเคนเอียน จากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานจากศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติ ว่า พายุเอียน กลายเป็นเฮอร์ริเคนที่มีความรุนแรงระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับอันตรายที่สุดในเช้าวันที่ 28 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา และคาดว่า อาจทำให้เกิดสตอร์มเสิร์จ กระแสลมแรง และน้ำท่วมในบริเวณคาบสมุทรฟลอริดา ขณะนี้พายุมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงสุดที่ 220 กม./ชม.

 

โซเชียลยอมใจ นักข่าวพยากรณ์อากาศสู้ชีวิต รายงานสถานการณ์ เฮอร์ริเคนเอียน อย่างทุลักทุเล

โดย ตอนที่พายุเฮอร์ริเคนเอียน พัดเข้าสู่ชายฝั่งรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ด้วยความรุนแรงระดับ 4 ( 241 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) กลายเป็นพายุลูกใหญ่ที่สุดลูกที่ 5 ที่พัดกระหน่ำแผ่นดินสหรัฐฯ เท่าที่มีการบันทึกในประวัติศาสตร์ และผู้สื่อข่าวของช่องพยากรณ์อากาศ (Weather Channel) ก็ไปอยู่ที่นั่นด้วย


ด้าน จิม แคนทอร์ นักอุตุนิยมวิทยา ได้รับมอบหมายให้ไปทำข่าว "การมาถึง" ของเฮอร์ริเคนเอียน ที่พัดด้วยความเร็วลม 98 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลมกระโชกแรง 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจุดที่แคนทอร์ยืน เป็นถนนโล่ง ๆ แต่ก็ยากที่จะยืนอยู่และยังต้องระวังกิ่งไม้ที่หักและปลิวเข้ามาใส่และโดนขาของเขา ความแรงของลมทำให้เขาต้องพยายามเดินเข้าไปที่ป้ายบอกทาง เพื่อยึดเอาไว้ไม่ให้ตัวเองปลิวไปกับแรงลม

โซเชียลยอมใจ นักข่าวพยากรณ์อากาศสู้ชีวิต รายงานสถานการณ์ เฮอร์ริเคนเอียน อย่างทุลักทุเล
 

ในคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์และแชร์ในทวิตเตอร์ ได้แสดงให้เห็นความยากลำบากในการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวพยากรณ์อากาศ ยังมีอีกคลิปที่แสดงให้เห็นแคนทอร์เข้าไปรายงานอยู่ที่ระเบียงของอาคารหลังหนึ่ง แต่ลมก็ยังแรงและฝนกำลังตกหนัก 

 

ซึ่งเขาบอกว่า "เรามาอยู่ที่นี่เพื่อให้ปลอดภัยจากคลื่น และก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะมีคลื่นสูง 3-4 ฟุต ที่ซัดเข้ามาตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่" ... "นี่เป็นหนึ่งพายุเฮอร์ริเคนที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา มันอาจจะเลวร้ายที่สุดในแง่ของระยะเวลา 25 ปีขึ้นไป และในหมู่พายุ 90 ลูก"


ทั้งนี้ นอกจากแคนทอร์แล้วยังมีผู้สื่อข่าวพยากรณ์อากาศคนอื่นๆ ออกไปสู้ชีวิตท่ามกลางลมและฝนเช่นกัน คือ ชาร์ลส พีค ที่สวมหมวกอเมริกันฟุตบอลออกไปรายงานท่ามกลางลมและฝน กับผู้สื่อข่าวหญิงแกร่ง สเตฟานี อับรามส์ ที่สวมหมวกเบสบอล


ปิดท้ายด้วยภาพประทับใจ เมื่อช่างภาพชาวออสเตรเลียของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 "เกลน เอลลิส" ผละจากกล้องที่เขากำลังควบคุมการถ่ายทำ โดยเขาได้บอกให้ทิม เลสเตอร์ ผู้สื่อข่าวที่กำลังรายงานสดทำหน้าที่ต่อไป ส่วนตัวเขาได้วิ่งตัดหน้ากล้องไปช่วยผู้คนที่กำลังขนของหนีน้ำกันอย่างทุลักทุเล โดยในจำนวนนี้มีอยู่คนหนึ่งที่ต้องหิ้วของพร้อมกับจูงลูกที่ยังเล็กลุยน้ำไปด้วย


ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline