เรือประมง ขนผู้อพยพ อับปางนอกชายฝั่ง ยอดดับพุ่ง

โศกนาฏกรรมสลด เรือประมง บรรทุกผู้อพยพจำนวนมาก อับปางนอกชายฝั่ง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 79 ราย อีกหลายร้อยคนสูญหาย

นับเป็นโศกนาฏกรรมสุดสลดอีกครั้ง เมื่อสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 14 มิถุนายน เกิดเหตุเรือประมงที่บรรทุกผู้อพยพจำนวนมากล่มที่นอกชายฝั่งทางใต้ของกรีซ จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 79 ราย และอีกหลายร้อยคนสูญหาย ขณะที่ผู้คนอีกกว่า 100 คนได้รับการช่วยเหลือแล้ว แต่ผู้รอดชีวิตและเจ้าหน้าที่กรีซกล่าวว่า ยังมีผู้อพยพอีกหลายร้อนคนบนเรือลำดังกล่าว

 

 

 

 

ตามรายงานจาก รัฐบาลกรีซ ระบุว่า เรือล่มครั้งนี้เป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมทางน้ำครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศที่คร่าชีวิตผู้อพยพจำนวนมาก และได้ประกาศจัดพิธีไว้ทุกข์ระดับชาติเป็นเวลา 3 วัน โดยเรือลำนี้อับปางห่างจากทางทิศตะวันเฉียงใต้ของเมืองไพลอส (Pylos) ประมาณ 80 กิโลเมตร หลังจากหน่วยยามชายฝั่งกรีซแจ้งว่ายานพาหนะลำดังกล่าวปฏิเสธความช่วยเหลือ


หน่วยยามชายฝั่งกรีซกล่าวด้วยว่า เครื่องบินของฟรอนเท็กซ์ (Frontex) หน่วยงานกำกับดูแลชายแดนของสหภาพยุโรป (อียู) ตรวจพบเรือประมงนี้ในน่านน้ำสากลเมื่อวันอังคาร (14 มิ.ย.) ที่ผ่านมา และว่า ไม่มีใครบนเรือใส่เสื้อชูชีพ


สถานีโทรทัศน์ ERT ของกรีซ รายงานโดยอ้างอิงไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ดังกล่าวของทางการ และว่า เจ้าหน้าที่พยายามติดต่อกับเรือลำนี้ผ่านโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมหลายครั้งและได้เสนอความช่วยเหลือ แต่กลับได้รับคำตอบเพียงว่า "เราไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการไปอิตาลี"

 

 

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ประมาณ 01.40 น. ของวันพุธ (14 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น มีคนบนเรือกล่าวว่าได้แจ้งหน่วยยามชายฝั่งกรีซว่าเครื่องยนต์ของเรือมีความผิดปกติ และหลังจากนั้นไม่นาน เรือก็ล่ม โดยใช้เวลาเพียง 10-15 นาทีในการจมลงสู่ท้องทะเล กรีซเริ่มต้นปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยแต่ประสบกับความลำบากเนื่องจากลมกระโชกแรง


ด้าน Alarm Phone สายด่วนสำหรับผู้อพยพที่มีปัญหากลางทะเล กล่าวว่า หน่วยยามฝั่ง ทราบเรือกำลังมีปัญหามาหลายชั่วโมงแล้ว ก่อนที่จะส่งความช่วยเหลือใดๆ ไปยังเรือดังกล่าว พร้อมเสริมว่าเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากหลายแหล่งข่าวว่าเรือกำลังประสบปัญหา


ด้าน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เรือผู้อพยพออกล่องเรือเป็นเวลาหลายวัน และได้รับการสนับสนุนด้านอาหารและน้ำจากเรือบรรทุกสินค้าลำหนึ่งของประเทศมอลตาเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 13 มิถุนายน


นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเรือผู้อพยพเดินทางมาจากลิเบียมุ่งหน้าไปยังอิตาลี โดยผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นเพศชายช่วงวัย 20 ปี แต่ยังไม่มีการเปิดเผยสัญชาติของผู้ประสบเหตุครั้งนี้


ส่วนผู้รอดชีวิตถูกนำตัวไปยังเมืองกาลามาตา ซึ่งหลายคนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากภาวะอุณหภูมิต่ำกว่าปกติหรือได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยมีผู้รอดชีวิตกล่าวว่า มีคนบนเรือมากถึง 500 -700 คน สอดคล้องกับที่ เยียนนิส คาร์วีลิส (Yiannis Karvelis) ผู้อำนวยการสาธารณสุขประจำภูมิภาค กล่าวว่า "จำนวนคนบนเรือนั้นสูงกว่าความจุที่เรือลำนี้จะรับได้"


สถานีโทรทัศน์ ERT ของกรีซ รายงานว่า ผู้ต้องสงสัย 3 คนที่คาดว่าเป็นผู้ค้ามนุษย์ ได้ถูกนำตัวไปยังท่าเรือส่วนกลางในเมืองกาลามาตาและกำลังถูกสอบสวน


ขณะเดียวกัน กาเตรีนา ซาเกลาโรปูลู (Katerina Sakellaropoulou) ประธานาธิบดีกรีซ เดินทางเยือนผู้อพยพที่ได้รับการช่วยเหลือแล้วและได้แสดงความเสียใจต่อเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือล่มนี้


ทั้งนี้ อียอร์กอส ไมเคิลลิดิส รัฐมนตรีด้านการอพยพของกรีซ กล่าวว่า กรีซได้เรียกร้องกับทางอียูหลายต่อหลายครั้งว่าจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการย้ายถิ่นฐานที่หนักแน่น เพื่อที่จะรับแต่ผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ ไม่ใช่คนที่มีกำลังจ่ายให้กับกลุ่มลักลอบเข้าเมือง


อย่างไรก็ตาม กรีซเป็นหนึ่งในเส้นทางหลักสำหรับผู้ลี้ภัยและผู้อพยพจากตะวันออกกลาง เอเชีย และแอฟริกาในการเข้าสู่อียู

Katerina Sakellaropoulou
ภาพจาก Katerina Sakellaropoulou

ข้อมูลจาก บีบีซี