ปล่อยเสือเข้าป่าหรือไม่???...คสช.ปล่อยนักการเมืองออกนอกประเทศ เป็นเหตุให้ "วัฒนา" ดอดคุย "ทักษิณ" ทันที

ปล่อยเสือเข้าป่าหรือไม่???...คสช.ปล่อยนักการเมืองออกนอกประเทศ เป็นเหตุให้ "วัฒนา" ดอดคุย "ทักษิณ" ทันที

เป็นอีกสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ภายหลังจากที่คสช.ได้ยกเลิกคำสั่งไม่ให้นักการเมืองจำนวนหนึ่งเดินทางออกนอกประเทศ

จนกระทั่งทำให้นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทยสามารถเดินทางไปที่ประเทศสิงคโปร์และถ่ายรูปคู่นายทักษิณ ชินวัตร

จนมีการตั้งข้อสังเกตุว่าอาจจะมีการเคลื่อนไหวลักษณะดังกล่าวเพื่อวางแผนอะไรในต่างประเทศและโจมตีรัฐบาลคสช.หรือไม่

24 มิถุนายน นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และแกนนำพรรคเพื่อไทยโพสต์ภาพข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ระบุถึงการได้เดินทางไปต่างประเทศ และยังได้พบปะพูดคุยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลังศาลอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศได้

ขณะที่ วันนี้ 30 มิถุนายน นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ"พูดแล้วจำด้วยนะครับ ท่านผู้นำ" ว่า" ผมเชื่อที่ท่านผู้นำประกาศในการเปิดงานวันสิ่งแวดล้อมโลกว่า ไม่มีใครมาสั่งให้ท่านยึดอำนาจ ท่านทำของท่านเอง เนื่องจากการยึดอำนาจคือการทำผิดกฎหมาย ทั้งยังเป็นเรื่องเลวร้ายที่ทั่วโลกประณาม การทำเรื่องที่ไม่ดีแบบนี้คงไม่มีใครไปสั่งหรือแนะนำให้ท่านทำ ท่านน่าจะคิดเองทำเองโดยไม่ต้องสงสัย แต่ที่ผมติดใจคือคำพูดของท่านที่ว่าประชาชนเท่านั้นที่สั่งให้ท่านปล่อยอำนาจได้ ถ้าประชาชนไม่อยากให้ทำท่านจะได้เลิกแล้วกลับไปอยู่ที่เดิม ผมจึงขอให้พี่น้องประชาชนร่วมเป็นพยานกับคำประกาศของท่านผู้นำที่ถือเป็นสัญญาประชาคม ผมเองก็จะคอยดูเช่นกันว่าในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ประชาชนจะออกมาบอกว่าอยากให้ท่านเลิกแล้วหรือไม่ เมื่อผลออกมาแล้วกรุณาทำตามที่พูดด้วย อย่าให้เสียศักดิ์ศรีชายชาติทหารเพราะมันน่าอายครับ"

ทั้งนี้วัฒนา เมืองสุข อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปราจีนบุรี

 

วัฒนามี ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116

ขณะที่ ล่าสุดกล่าวถึงกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางไปสิงค์โปร์ เพื่อพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวสังคมจะต้องช่วยกันพิจารณาความเหมาะสม เพราะ คสช.ได้อนุญาตให้นักการเมืองสามารถเดินทางไปต่างประเทศแล้ว ยกเว้นผู้ที่มีคดีความ ต้องไปขออนุญาตจากศาลอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งกรณีดังกล่าวทั้ง คสช. และฝ่ายกฎหมาย ก็ยังคงมีการติดตามอย่างใกล้ชิด

สำหรับประกาศ ของคสช.เกี่ยวกับคำสั่งห้ามให้นักการเมืองเดินทางออกนอกประเทศ ถือว่าเป็นคำสั่งฉบับที่ฉบับที่ ๒๑ / ๒๕๕๗ เรื่อง ห้ามบุคคลเดินทางออกนอกราชอาณาจักร

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๑ / ๒๕๕๗

เรื่อง ห้ามบุคคลเดินทางออกนอกราชอาณาจักร

 

ตามที่ได้มีคำสั่งให้บุคคลเข้ามารายงานตัว ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เวลา ๑๐๐๐ ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑/๒๕๕๗ ฉบับที่ ๒/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และ ฉบับที่ ๓/๒๕๕๗ ลง ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ รวมจำนวน ๑๕๕ ราย นั้น เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขสถานการณ์ปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงห้ามบุคคลตามคำสั่งดังกล่าว เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ สำหรับบุคคลใดที่ไม่เข้ารายงานตัวตามคำสั่งจะถูกติดตามจับกุมและดำเนินคดี

ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗

ซึ่งต่อมาก็ได้มี คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๕/๒๕๕๙

เรื่อง ยกเลิกการห้ามบุคคลเดินทางออกนอกราชอาณาจักร

 

ข้อ ๑ให้ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๑/๒๕๕๗ เรื่อง ห้ามบุคคลเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗

 

ข้อ ๒ การยกเลิกประกาศตามข้อ ๑ ไม่กระทบกระเทือนถึงการปฏิบัติตามคําสั่งศาลเกี่ยวกับการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร และคําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกี่ยวกับการให้บุคคลมารายงานตัว รวมทั้งการกําหนดวันเวลาและสถานที่รายงานตัว

 

ข้อ ๓ บุคคลใดที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศหรือคําสั่งดังต่อไปนี้ หากจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ต้องได้รับอนุมัติจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติก่อน

 

(๑) ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓๙/๒๕๕๗ เรื่อง การกําหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวของบุคคลที่มารายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคมพุทธศักราช ๒๕๕๗

(๒) ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๔๐/๒๕๕๗ เรื่อง การกําหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวของบุคคลที่ถูกกักตัวตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ มาตรา ๑๕ ทวิ ลงวันที่๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗

 

(๓) ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๔๑/๒๕๕๗ เรื่อง กําหนดให้การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งเรียกบุคคลให้มารายงานตัว เป็นความผิด ลงวันที่ ๒๖ พฤษภาคมพุทธศักราช ๒๕๕๗

 

(๔) คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓/๒๕๕๘ เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ ลงวันที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๘