ฝันร้ายที่ไม่ต้องเกิดขึ้นอีก...."พล.อ.ประยุทธ์" ย้ำ ไม่มีใครแก้ปัญหาประเทศไทยได้ นอกจากคนไทยทุกคน

ติดตามข่าวสารที่ http://headshot.tnews.co.th/

เมื่อวันที่ 13 ส.ค. เวลา 15.00 น. ที่อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกล ด้วยพระบารมี โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยเริ่มมาจากสถาบันพระมหากษัตริย์มากว่า 800 ปี ไม่ได้เกิดมาเมื่อวาน และไม่ได้เพิ่งเกิดตอนรัฐบาลนี้ หรือรัฐบาลใด หากไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์นำพา เราก็อยู่ถึงวันนี้ไม่ได้ จึงขออย่าลืมประวัติศาสตร์และทำอนาคตให้เข้มแข็ง อีกทั้งเมื่อสักครู่ได้ดูการแสดงโขน ตอนพระรามรวมพล ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับสถานการณ์ แต่หนุมานที่แสดงตัวเล็กไป ตอนที่สองอาจตัวใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ต้องช่วยหนุมาน เพราะหนุมานกำลังปราบมาร แต่ทั้งหมดขอให้อยู่ในที่ตั้งก่อน

"เมื่อสักครู่หนุมารส่งสารมาว่าขอให้อยู่ในที่ตั้ง ไม่ได้รบราฆ่าฟันกับใคร แต่เราต้องทำให้บ้านเมืองสงบให้ได้ วันนี้อาจจะนอกเรื่องบ้างแต่อยากให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพราะทุกคนก็ว้าวุ่น ผมต้องใจเย็นที่สุด จะเห็นว่าผมก็ยิ้มแย้มแจ่มใสทุกวันในช่วงนี้ ไม่ใช่ทำอะไรก็ได้ ยิ่งต้องทำอะไรด้วยความระมัดระวัง ไม่มีอะไรที่ยั่งยืนมากกว่าความศรัทธา ความเชื่อมั่น ผมไม่ต้องการอำนาจอะไรทั้งสิ้น แต่ต้องการให้อำนาจของประชาชนในการนำพาประเทศชาติไปสู่ความปลอดภัย"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ทุกประเทศพร้อมให้การห่วงใยและสนับสนุน พร้อมเดินหน้าไปกับประเทศไทย เราจึงต้องรักษาเพื่อนให้มากที่สุด ถ้าไม่เข้าใจก็อธิบายให้เขาเข้าใจ และเราต้องไม่เพิ่มปัญหามากกว่าเดิม ไม่เช่นนั้นหนุมานก็แย่ หนุมานก็เรียกคนบ่อยเกินไป ดังนั้นทุกคนต้องเชื่อมั่นในศรัทธาของตัวเองที่มีต่อประเทศชาติบ้านเมือง วันนี้เราต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวให้ได้ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน และสิทธิมนุษยชน มาทำเพื่อประเทศไทยกันให้หมด อย่ามัวแต่ทำเพื่อคนอื่น ขอให้กลับมาดูประเทศไทยบ้าง ซึ่งย้ำว่าตนไม่เคยละเมิดพันธะสัญญาต่างๆ โอกาสนี้ขอขอบคุณทุกคน ซึ่งอย่างน้อยต้องฟังตนอีกปีกว่า เพราะทุกคนไว้ใจให้ตนทำงาน ตนก็ต้องทำต่อไป ดังนั้นขอให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 3 วันที่ผ่านมาเป็นฝันร้ายที่ต้องไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งไม่มีใครแก้ปัญหาประเทศไทยได้ นอกจากคนไทยทุกคน ที่เป็นคนไทยทั้งกายและใจ

 

ขอบคุณ เดลินิวส์