อ่านแล้วต้องมีใครสะอึก!!! "พระพุทธะอิสระ" ส่งตรง "มหาเถร" จัดหนักจัดเต็ม...บวชกันมาคนละกี่พรรษาถึงแยกดีแยกชั่วไม่ออก ช่างน่าอาย (รายละเอียด)

ในเพจ หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ขนาดท่านนายกบวชเรียนมาไม่กี่วัน ยังรู้ดีรู้ชั่ว แล้วมหาเถรบวชกันมาคนละกี่พรรษาถึงแยกดีแยกชั่วไม่ออก ช่างน่าอายเสียจริง ๕ มกราคม ๒๕๖๐ ชัด

ในเพจ หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ขนาดท่านนายกบวชเรียนมาไม่กี่วัน ยังรู้ดีรู้ชั่ว แล้วมหาเถรบวชกันมาคนละกี่พรรษาถึงแยกดีแยกชั่วไม่ออก ช่างน่าอายเสียจริง

๕ มกราคม ๒๕๖๐

ชัดที่สุดแล้ว!!! "บิ๊กตู่"พูดถึง"พระธัมมชโย" โผล่ออกมาโดนจับแน่ แต่ถ้ายังอยู่ในวัดก็รอเวลาเหมาะสมไปจับ??

4 มกราคม 2560

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับพรพระเทพญาณมหามุนี (พระธัมมชโย) ว่า เราต้องดำเนินคดีต่อไปเพราะเป็นคดีไปแล้ว วันนี้เขาก็ออกมานอกวัดไม่ได้ ออกมาก็โดนจับ อยู่ในวัดเราก็หาเวลาที่เหมาะสมเข้าไปจับก็เท่านั้นจะไปยากอะไรตรงไหน ขอร้องบรรดาพุทธศาสนิกชนกรุณาดูด้วยว่าอะไรถูกอะไรผิด

“ตอนนี้ท่านก็ไม่มีความผิดอะไร แต่ในวันข้างหน้าถ้าไปเรื่อยๆ ก็ผิดกันทั้งหมดคนที่อยู่ข้างใน ผมถามว่าจะดำเนินพร้อมกันหมดได้หรือไม่ทั้ง 4,000 - 5,000 คน ขอให้เห็นใจรัฐบาลบ้าง สังคมต้องเข้าใจตรงนี้ เราไปให้ความสำคัญเองประเด็นสำคัญคือวันนี้ทุกอย่างเผยแพร่ไม่ได้ อย่าไปเผยให้เขา คำสอนที่ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้ามีตั้งหลายอย่าง ไม่เห็นประเทศไหนเขาทำแบบนี้ พุทธศาสนาของแต่ละประเทศมีที่ไหน ความเชื่อไปอยู่กับเศรษฐกิจ อยู่กับความร่ำรวยมีที่ไหน วัดไหนเขาสอนแบบนี้บ้าง ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

เรียบเรียง : นิตติยา สำนักข่าวทีนิวส์

-----------------------------------------------

“ประเด็นสำคัญคือวันนี้ทุกอย่างเผยแพร่ไม่ได้ อย่าไปเผยให้เขา คำสอนที่ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้ามีตั้งหลายอย่าง ไม่เห็นประเทศไหนเขาทำแบบนี้

พุทธศาสนาของแต่ละประเทศมีที่ไหน ที่ความเชื่อไปอยู่กับเศรษฐกิจ อยู่กับความร่ำรวยมีที่ไหน วัดไหนเขาสอนกันแบบนี้บ้าง

ถือว่าเป็นวลีทองแห่งปี ๖๐ ของท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.และนายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๙ ของไทย

ที่ท่านออกมาพูดด้วยหัวใจที่รู้ดีรู้ชั่ว

พูดด้วยหลักคิดที่เป็นสัมมาทิฐิ

พูดด้วยความสำนึกรู้จักรับผิดชอบต่อสังคม

พูดด้วยสำนึกของผู้นำประเทศที่เลือกจะอยู่กับความถูกต้อง

พูดด้วยความห่วงใยต่อพระธรรมวินัยและพระพุทธศาสนา

พูดด้วยความสำนึกในหน้าที่ที่รับผิดชอบต่อบ้านเมือง

พูดด้วยความรู้ดีคิดดี และเพียรพยายามรักษาความดีงามของพระธรรมวินัย

พูดด้วยความห่วงใยในความบริสุทธิ์บริบูรณ์และสถานภาพของพระพุทธศาสนา

แล้วคณะสงฆ์และ กรรมการมหาเถรสมาคม สำนักพุทธไทยล่ะ ท่านทั้งหลายยังมองไม่เห็น แยกไม่ออกกันอีกหรือว่า ไอ้ลัทธิทำจนตัวตายมันมีคำสอนที่เป็นพุทธหรือไม่

มันมีวัตรปฏิบัติที่เป็นพุทธตรงไหน

แล้วพวกท่านผู้มากใบปริญญา มีพัดเปรียญธรรมกันคนละหลายๆ ด้าม พวกท่านแยกแยะไม่ได้ มองไม่รู้เลยหรือไงที่ลัทธินี้มันแสดง มันบอก มันสอน มีอะไรบ้างที่ตรงกับคำว่า

วิราคะ คือ ความคลายกำหนัด มิใช่เพื่อความกำหนัดย้อมใจ อย่างที่ลัทธิชั่วนี้มันสอน

วิสังโยค คือ ความหมดเครื่องผูกรัด มิใช่เพื่อผูกรัด เหมือนดังที่เจ้าลัทธิอลัชชีมันบอก

อปจยะ คือ ความไม่พอกพูนกิเลส มิใช่เพื่อพอกพูนกิเลส ดังที่อลัชชีเจ้าลัทธิมันทำ

อัปปิจฉตา คือ ความอยากอันน้อย มิใช่เพื่อความมักมากอยากใหญ่ เช่นพวกสาวกลัทธินี้ทะยานอยาก ชิตังเมโป้งรวย

สันตุฏฐี คือ ความสันโดษ มิใช่เพื่อความไม่สันโดษ อย่างที่พวกสาวกลัทธินี้กำลังสุมหัวกันเพื่อป้องกันกองขี้ที่เน่าในอยู่ในสำนัก

ปวิเวก คือ เป็นไปเพื่อความสงัด มิใช่เพื่อความคลุกคลีอยู่ในหมู่คณะดังพวกหนอนขี้ที่มักมากอยากได้โลกธรรมทั้ง ๘

วิริยารัมภะ คือ การประกอบความเพียร มิใช่เพื่อความเกียจคร้าน เห็นแต่พวกลัทธิทำจนตัวตาย เพียรแต่จะหาเงินเพื่อมาปรนเปรอแก่เจ้าลัทธิผู้วิปริตของตน

สุภรตา คือ ความเลี้ยงง่าย มิใช่เพื่อความเลี้ยงยาก ก็มีแต่เจ้าลัทธิอลัชชีที่จ้างพนักงานสาวหนุ่มมานวดหน้าทาครีมเพื่อเสริมสวยซากเน่าของตน

จากลักษณะตัดสินพระธรรมวินัย ๘ ประการของพระพุทธเจ้านี้ จะเห็นว่าลัทธิอลัชชีทำจนตัวตายไม่มีอะไรที่เป็นธรรมเป็นวินัยเลย

แล้วทำไมมหาเถร สำนักพุทธ และคณะสงฆ์จึงมองไม่เห็นเภทภัยที่เกิดขึ้นต่อพระธรรมวินัย โดยการกระทำย่ำยีจากพวกอลัชชีชั่วในลัทธินี้ ทั้งที่มีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องปกป้องธำรงรักษาพระธรรมวินัยอันบริสุทธิ์บริบูรณ์ให้ดำรงคงอยู่ได้

จนต้องเดือนร้อนถึงฆราวาสอย่างท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกมาบอกว่า คำสอนที่ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้ามีอยู่ในลัทธินี้ตั้งหลายอย่าง แล้วมหาเถรจะว่าไงหากมหาเถรยังไม่ว่าอย่างไง เดี๋ยวพุทธะอิสระจะไปบอกมหาเถรเองว่าควรทำอย่างไร

ช่างน่าละอายนักที่ผู้บวชกันมาตั้งแต่เด็กจนแก่อย่างกรรมการมหาเถรยังแยกไม่ออกอีกว่าอะไรดีอะไรชั่ว

พุทธะอิสระ

อ่านแล้วต้องมีใครสะอึก!!! "พระพุทธะอิสระ" ส่งตรง "มหาเถร" จัดหนักจัดเต็ม...บวชกันมาคนละกี่พรรษาถึงแยกดีแยกชั่วไม่ออก ช่างน่าอาย (รายละเอียด)

 

อ่านแล้วต้องมีใครสะอึก!!! "พระพุทธะอิสระ" ส่งตรง "มหาเถร" จัดหนักจัดเต็ม...บวชกันมาคนละกี่พรรษาถึงแยกดีแยกชั่วไม่ออก ช่างน่าอาย (รายละเอียด)

 

อ่านแล้วต้องมีใครสะอึก!!! "พระพุทธะอิสระ" ส่งตรง "มหาเถร" จัดหนักจัดเต็ม...บวชกันมาคนละกี่พรรษาถึงแยกดีแยกชั่วไม่ออก ช่างน่าอาย (รายละเอียด)

 

อ่านแล้วต้องมีใครสะอึก!!! "พระพุทธะอิสระ" ส่งตรง "มหาเถร" จัดหนักจัดเต็ม...บวชกันมาคนละกี่พรรษาถึงแยกดีแยกชั่วไม่ออก ช่างน่าอาย (รายละเอียด)

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัมฐมนตรี ได้ออกมาห้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเรื่องราวดังกล่าว ระบุว่า ต้องดำเนินคดีต่อไปเพราะเป็นคดีแล้ว จนถึงขณะนี้ พระธัมมชโย ออกมานอกวัดไม่ได้ หากออกมาก็โดนจับ อยู่ในวัดเราก็หาเวลาที่เหมาะสมเข้าไปจับก็เท่านั้นจะไปยากตรงไหน ขอร้องบรรดาพุทธศาสนิกชนพิจารณาด้วยอะไรถูก อะไรผิด  ตอนนี้คนที่ชุมนุมอยู่ในวัดยังไม่มีความผิดอะไร แต่ในวันข้างหน้าอาจเข้าข่ายความผิดทั้งหมด ผมถามว่าจะดำเนินคดีพร้อมกันหมดได้หรือไม่ทั้ง 4-5,000 คน ขอให้เห็นใจรัฐบาลบ้าง ต้องเข้าใจตรงนี้ เราไปให้ความสำคัญเอง อย่าไปเผยแพร่คำสอนให้เขา คำสอนที่ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้ามีตั้งหลายอย่าง ไม่เห็นประเทศไหนเขาทำแบบนี้ ความเชื่อในรูปแบบธุรกิจ ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจ ความร่ำรวย วัดไหนเขาสอนแบบนี้บ้าง
อ่านแล้วต้องมีใครสะอึก!!! "พระพุทธะอิสระ" ส่งตรง "มหาเถร" จัดหนักจัดเต็ม...บวชกันมาคนละกี่พรรษาถึงแยกดีแยกชั่วไม่ออก ช่างน่าอาย (รายละเอียด)

 

อ่านแล้วต้องมีใครสะอึก!!! "พระพุทธะอิสระ" ส่งตรง "มหาเถร" จัดหนักจัดเต็ม...บวชกันมาคนละกี่พรรษาถึงแยกดีแยกชั่วไม่ออก ช่างน่าอาย (รายละเอียด)

          ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงแนวนโยบายการทำงานในปี 60 ว่า ตนจะยังทุ่มเทเหมือนเก่าและเสียสละเพื่อประเทศชาติประชาชนอย่างเต็มความสามารถต่อไป ส่วนคดีที่ยังค้างเก่าอย่างคดีวัดพระธรรมกาย ถ้ามีโอกาสก็จะเร่งดำเนินการเพราะกฎหมายต้องเป็นกฎหมาย

 

เรียบเรียงโดย ชนุตรา สำนักข่าวทีนิวส์