บุรินทร์ คุกแล้ว!!! คดี112...รอได้เลยอาฟเตอร์ช็อก ถึง"แม่จ่านิว" จ้าไม่จ้า เดี๋ยวรู้กัน!!!(รายละเอียด)

บุรินทร์ คุกแล้ว!!! คดี112...รอได้เลยอาฟเตอร์ช็อก ถึง"แม่จ่านิว" จ้าไม่จ้า เดี๋ยวรู้กัน!!!(รายละเอียด)

จากกรณีนายบุรินทร์ อินติน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกจับใน กิจกรรม "ยืนเฉยๆ" ครั้งที่ 3 เมื่อ 27 เม.ย.2559 ที่ผ่านมา ณ อนุสาวรีย์ชัยฯกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับ  และจำเลยในคดีที่ถูกฟ้องว่าได้ไปแสดงความคิดเห็นใต้คลิปวิดีโอและได้แชทกับ พัชนรี หรือหนึ่งนุช ชาญกิจ ซึ่งเป็นแม่ของสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ในเฟซบุ๊กรวมทั้งหมด 2 กรรม ในฐานความผิดหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และนำเข้าข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ.2550 นั้น

บุรินทร์ คุกแล้ว!!! คดี112...รอได้เลยอาฟเตอร์ช็อก ถึง"แม่จ่านิว" จ้าไม่จ้า เดี๋ยวรู้กัน!!!(รายละเอียด)

 

เมื่อวันที่24 ม.ค.60 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลทหารมีนัดสอบคำให้การ บุรินทร์  โดย บุรินทร์ได้รับสารภาพทุกข้อหา ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาในวันศุกร์ที่ 27 ม.ค.2560

ทั้งนี้หลังจากที่ นายบุรินทร์ อินติน เมื่อถูกจับกุมตั้งแต่ 27 เม.ย. 59 จากการเข้าร่วมกิจกรรม “ยืนเฉยๆ” กับกลุ่มพลเมืองโต้กลับ  กระทั่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไทต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่ทหารใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 3/2558 ควบคุมตัวออกไปจากห้องสอบสวน และต่อมาเมื่อวันที่ 29 เม.ย.59 พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายเสนาธิการผู้บังคับบัญชา คณะทำงานพิเศษฝ่ายกฎหมาย คสช. นำตัว บุรินทร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ มาตรา 14 (3) นำส่งให้พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง รอง ผกก. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. ดำเนินคดี และถูกนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 30เม.ย.2559

เมื่อวันที่24 ม.ค.60 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลทหารมีนัดสอบคำให้การ บุรินทร์  โดย บุรินทร์ได้รับสารภาพทุกข้อหา ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาในวันศุกร์ที่ 27 ม.ค.2560

บุรินทร์ คุกแล้ว!!! คดี112...รอได้เลยอาฟเตอร์ช็อก ถึง"แม่จ่านิว" จ้าไม่จ้า เดี๋ยวรู้กัน!!!(รายละเอียด)

ทั้งนี้หลังจากที่ นายบุรินทร์ อินติน เมื่อถูกจับกุมตั้งแต่ 27 เม.ย. 59 จากการเข้าร่วมกิจกรรม “ยืนเฉยๆ” กับกลุ่มพลเมืองโต้กลับ  กระทั่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไทต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่ทหารใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 3/2558 ควบคุมตัวออกไปจากห้องสอบสวน และต่อมาเมื่อวันที่ 29 เม.ย.59 พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายเสนาธิการผู้บังคับบัญชา คณะทำงานพิเศษฝ่ายกฎหมาย คสช. นำตัว บุรินทร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ มาตรา 14 (3) นำส่งให้พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง รอง ผกก. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. ดำเนินคดี และถูกนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 30เม.ย.2559

และล่าสุดวันนี้ (27 ม.ค.) ศาลทหารตัดสินจำคุกบุรินทร์ อินติน 10 ปี 16 เดือน จากคดีที่ถูกฟ้องว่าได้ไปแสดงความคิดเห็นใต้คลิปวิดีโอและได้แชทกับ พัชนรี หรือหนึ่งนุช ชาญกิจ ซึ่งเป็นแม่ของสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ในเฟซบุ๊กรวมทั้งหมด 2 กรรมในฐานความผิดหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และนำเข้าข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ.2550

แต่เนื่องจากนายบุรินทร์ อินติน ถูกตัดสินลงโทษ 10 ปี 16 เดือนดังกล่าวมาจากการที่นายบุรินทร์ได้ให้การสารภาพโทษจึงได้ลดกึ่งหนึ่ง แต่ประกอบกับเพิ่มโทษ 1 ใน 3 เนื่องจากเคยต้องโทษอื่นมาก่อนและยังไม่พ้นเวลา 5 ปี

บุรินทร์ คุกแล้ว!!! คดี112...รอได้เลยอาฟเตอร์ช็อก ถึง"แม่จ่านิว" จ้าไม่จ้า เดี๋ยวรู้กัน!!!(รายละเอียด)

นอกจากคดีของนายบุรินทร์ อินติน ยังมีคดีของน.ส.พัฒน์นรี หรือ หนึ่งนุช ชาญกิจ มารดาของนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ "จ่านิว" ที่เราต้องมาดูกันว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปย้อนไปเมื่อวันที่ศาลทหารกรุงเทพ อนุมัติหมายจับ เลขที่ 36/2559 กับ น.ส.พัฒน์นรี หรือ หนึ่งนุช ชาญกิจ มารดาของนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ "จ่านิว" ในข้อหา ข้อหาร่วมกันกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

บุรินทร์ คุกแล้ว!!! คดี112...รอได้เลยอาฟเตอร์ช็อก ถึง"แม่จ่านิว" จ้าไม่จ้า เดี๋ยวรู้กัน!!!(รายละเอียด)

ขณะที่ในวันที่ ( 6 พ.ค. 59 )  15.40 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)นางพัฒน์นรี อายุ 40 ปี พร้อมนายธีรพันธ์ พันธ์คีรี ทนายความส่วนตัว และนายอานนท์ นำภา เข้าพบ พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง รองผกก.(สอบสวน) กก.3บก.ปอท. เพื่อมอบตัวหลังจากนางพัฒน์นรี ถูกศาลทหารกรุงเทพออกหมายจับคดี ม.112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ซึ่งนางพัฒน์นรี กล่าวสั้นๆว่าตนไม่พร้อมพูดคุยอะไร และตอนนี้สภาพจิตใจแย่มาก

ด้านนายธีรพันธ์ กล่าวว่า หลังทราบจากข่าวว่าเมื่อเวลา 9.00น.ที่ผ่านมา นางพัฒน์นรีถูกศาลออกหมายจับ จึงแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการเข้ามอบตัว ทั้งนี้ไม่ได้มีหมายเรียกมาก่อน

ขณะที่นายอานนท์  นำภา กล่าวว่า จากการสอบถามนางพัฒน์นรีเบื้องต้นยืนยันว่ารู้จักกับนายบุรินทร์ อินติน ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้เพียงผิวเผิน เนื่องจากอาจจะเจอกันในการชุมนุมเท่านั้น แต่ยืนยันว่าไม่เคยมีเบอร์โทรศัพท์ ไลน์ หรือแชทผ่านเฟซบุ๊ก และไม่เคยพูดคุยหรือติดต่อกันโดยส่วนตัวแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินที่ระดมจากกลุ่มประชาชนที่สนับสนุน เป็นเงิน 500,000 บาท เพื่อนำมายื่นขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน แต่หากไม่ให้ประกันตัวก็จะนำไปยื่นในชั้นศาลทหารวันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม

ทั้งนี้ก่อนหน้าที่ พัฒน์นรี ชาญกิจ จะเข้ามอบตัวได้กล่าวกับผู้สื่อข่าว BBC THAI ไว้ว่า  “ตกใจมาก รับไม่ได้เลย ตอนนี้ยังทำงานอยู่และรอทนาย แล้วจะไปมอบตัว”

แต่ถ้าหากย้อนกลับไป  29 เมษายน นายบุรินทร์ อินติน  ติดต่อพูดคุยกันผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อ “Nuengnuch chankij” ในทำนองว่าร้ายสถาบันจริง

วันนี้นางพัฒน์นรี ชาญกิจ ได้ออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมกับพูดออกมาว่ารู้สึกตกใจที่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่สิ่งที่สังคมต้องการความชัดเจนนั่นคือ นางพัฒน์นรี ชาญกิจ ต้องระบุออกมาให้ชัดว่า ได้พูดคุยอะไรผ่าน โปรแกรมแชท ซึ่งนายบุรินทร์เอง รับสารภาพว่าเป็นข้อความที่หมิ่นสถานบันจริง

หากย้อนกลับไปที่29 เมษายน พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายเสนาธิการผู้บังคับบัญชา คณะทำงานพิเศษฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) นำตัว นายบุรินทร์ อินติน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร ข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(3) นำส่งพ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง รองผู้กำกับการสอบสวน กองกำกับการ3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีดำเนินคดี

พ.อ.บุรินทร์ เปิดเผยว่า ทหารเฝ้าติดตามพฤติกรรมนายบุรินทร์ หลังจากสายข่าวพบการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวชื่อ “Burin Intin”ในลักษณะต่อต้านการบริหารงานของรัฐบาลและคสช.รวมทั้งมีการแชตพูดคุยกับบุคคลอื่นโดยมีข้อความลักษณะหมิ่นเบื้องสูง เข้าข่ายผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112

บุรินทร์ คุกแล้ว!!! คดี112...รอได้เลยอาฟเตอร์ช็อก ถึง"แม่จ่านิว" จ้าไม่จ้า เดี๋ยวรู้กัน!!!(รายละเอียด)

กระทั่งวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา เวลา 12.13 น.นายบุรินทร์โพสต์คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 40 นาที พร้อมข้อความ “หนูอยากโดนอุ้ม#ปล่อยเพื่อนเราที่โดนอุ้ม” ก่อนจะมีบุคคลเข้ามาแสดงความคิดเห็นในคลิปดังกล่าว และนายบุรินทร์ตอบความคิดเห็นในลักษณะหมิ่้นเบื้องสูง หลังจากนั้นในวันเดียวกัน ช่วงเวลา18.00น.นายบุรินทร์ เดินทางมาร่วมกิจกรรม”ยืนเฉยๆ”ร่วมกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ก่อนจะเป็น1ใน16รายที่ถูกตำรวจสน.พญาไทควบคุมตัว

พ.อ.บุรินทร์ กล่าวว่า จากนั้นทหารจึงเดินทางไปยังสน.พญาไท เพื่อเชิญตัวนายบุรินทร์มาควบคุมตามคำสั่งคสช.ที่ 3/2558 และเมื่อวันที่ิ28เมษายน ทหารมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับนายบุรินทร์ และวันนี้ศาลทหารจะออกหมายจับ เมื่อตรวจค้นตัวกลับไม่พบโทรศัพท์ของนายบุรินทร์ จึงสอบถามนายบุรินทร์ได้ความว่าฝากโทรศัพท์ให้กับเพื่อนชื่อว่านซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นเพื่อนนายสิรวิชญ์ เสรีวัฒน์ หรือ จ่านิว อยู่ระหว่างติดตามตัวนายว่าน จากนั้นจึงขยายผลตรวจค้นที่ร้านอัดรูปสปอร์ตดิจิตอลโฟโต้ ปากซอยปลูกจิตร 1 ถนนพระราม4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร ที่นายบุรินทร์อาศัยอยู่ พบซีพียูคอมพิวเตอร์ จำนวน 3เครื่อง ที่ใช้ในการเล่นเฟซบุ๊ก

ด้านนายบุรินทร์ รับว่า ตนเข้าร่วมกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับตั้งแต่19กันยายน 2558 จากนั้นจึงมีโอกาสรู้จักกับนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว และติดต่อพูดคุยกันมาตลอด จนรู้จักกับแม่จ่านิว และแชตพูดคุยกันผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อ “Nuengnuch chankij” ในทำนองว่าร้ายสถาบันจริงเนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตนโพสต์ข้อความต่างๆผ่านโทรศัพท์และโพสต์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 27 เมษายนก่อนถูกจับกุม

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเปิดบทสนทนา แม่จ่านิว คุยอะไรกันถึงผิด ม.112 - ระวัง(บาง)สื่อบิดเบือนให้เข้าใจผิด

ไม่คิดว่าจะถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นสถาบันและสาเหตุที่นำโทรศัพท์ให้เพื่อนชื่อว่านนั้น เพราะแบตโทรศัพท์จะหมด จึงให้ไปเพื่อชาร์จแบตเท่านั้น ไม่มีเจตนาจะทำลายหลักฐาน จึงอยากฝากผ่านสื่อไปถึงว่านและจ่านิวว่า ให้นำโทรศัพท์กลับมาคืนด้วย

ที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือว่านายบุรินทร์ ได้บอกว่าเพิ่งเข้ามาเคลื่อนไหวทางการเมืองเมื่อปี2558 นั่นหมายความว่าเขาได้หลายเป็นเหยื่อและหลงผิดไปสู่การให้ร้ายสถาบัน

คำถามที่น่าสนใจก็คือว่าในกระบวนการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงได้มีขบวนการทำลายสถาบันซ้อนตัวอยู่เป็นจำนวนมากและใครก็ตามที่หลงผิดเข้าไปร่วมเคลื่อนไหวด้วยก็อาจจะพลั้งพลาดเข้าไปหมิ่นสถาบัน จนทำให้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ซึ่งกรณีของนายบุรินทร์ไม่ใช่คนแรกเพราะที่ผ่านมาก็มีกลุ่มนักศึกษาที่โดนข้อหา มาตรา112 เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์มาแล้วนับไม่ถ้วน

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมจิตใจสกปรก!!! "ปวิน สายแดง"เหยียดหยาม"น้ำตาล" - อคติสถาบัน!!??(รายละเอียด)

Jirasak Tnews