“ เกิดเพราะพี่ชาย ตายเพราะพี่สาว”เปิดเส้นทางโลดโผนปนวิบากกรรมของยิ่งลักษณ์ 6 ปี จากนายกฯประวัติศาสตร์สู่นักโทษอาญาแผ่นดิน “หนีคดี ติดคุก

“ เกิดเพราะพี่ชาย ตายเพราะพี่สาว”เปิดเส้นทางโลดโผนปนวิบากกรรมของยิ่งลักษณ์ 6 ปี จากนายกฯประวัติศาสตร์สู่นักโทษอาญาแผ่นดิน “หนีคดี ติดคุก

เพจเฟซบุ้ค..... “อีกา” ได้เขียนไล่เรียงเส้นทางชีวิตโลดโผนปนวิบากกรรมของน.ส.ยิ่งลักษณ์ จากนายกฯประวัติศาสตร์สู่นักโทษอาญาแผ่นดิน งานนี้มีการไล่เรียง 6 ปีบนถนนสายการเมือง น่าสนใจและน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง เนื้อหาใจความว่า 

“ เกิดเพราะพี่ชาย ตายเพราะพี่สาว”.....เปิดเส้นทางโลดโผนปนวิบากกรรมของยิ่งลักษณ์  จากนายกฯประวัติศาสตร์สู่นักโทษอาญา  6  ปีบนถนนสายการเมือง  ก่อนถึงวัน “หนีคดี ติดคุก ไร้ที่ซุกหัวนอน ”  ลำบากวันนี้เพราะ.....“พี่ให้” 

 
 

ย้อนอดีตไปเมื่อ 5-6 ปีก่อนหน้านี้ คงไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งนายกฯหญิงประวัติศาสตร์คนแรกของประเทศไทยที่ชื่อ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาลต้องหนีคดีออกนอกประเทศ และสุดท้ายปลายทางต้องคำพิพากษาติดคุกนาน 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา นับเป็นเรื่องจริงสุดเหลือเชื่อของเธอ  เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่ปียิ่งลักษณ์เพิ่งเป็นผู้นำประเทศหญิงประวัติศาสตร์คนแรกของประเทศไทย แต่หลังจากนั้นไม่นานชะตากรรมก็เล่นตลกเปลี่ยนชีวิตเธอให้ผกผันถึงขีดสุดจากผู้นำประเทศสู่นักโทษหนีคดี     ลองไปไล่เรียงเส้นทางชีวิตที่โลดโผนปนวิบากกรรรมของเธอกันดู   

ยิ่งลักษณ์เกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2510  มีชื่อเล่นว่า “ปู”  เป็นบุตรของนายเลิศและนางยินดี ชินวัตร  โดยเธอเป็นน้องสาวคนสุดท้ายในจำนวนพี่น้องผู้หญิงทั้ง7 คน และเป็นน้องคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องชายหญิงทั้ง 10 คนของบ้าน  ในจำนวนนี้มีพี่ชายคนที่ 2 ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”  

เธอสำเร็จการศึกษาม.ต้นจากโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย ม.ปลายจากโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย  จบการศึกษาปริญญาตรี คณะรัฐศาสตรบัณฑิต ม.เชียงใหม่  เป็นสิงห์ขาวรุ่น 21  ปริญญาโท คณะรัฐประศาสนศาสตร ม.เคนตักกี้ สหรัฐอเมริกา แต่งงานกับอนุสรณ์ อมรฉัตรอดีตผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์  เมื่อปีพ.ศ. 2538

โดยมีทักษิณและ “เจ้าสัวซีพี” ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นประธานงานแต่ง แต่ไม่ปรากฎข้อมูลว่ามีการจดทะเบียนสมรสของทั้งคู่แต่อย่างใด   ก่อนมีบุตรด้วยกันหนึ่งคนคือ  ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือ “น้องไปค์” ปัจจุบันอายุ 15 ปี 

อดีตหลังเรียนจบเธอถูกพี่ชายดึงตัวเข้ามาช่วยงานในของอาณาจักรธุรกิจตระกูล “ชินวัตร”  โดยไต่เต้าการทำงานจนก้าวขึ้นเป็นประธานบ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)และ ประธานกรรมการบริหาร บ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)  แต่การเปิดตัวเธอที่ทำให้สื่อมวลชนและคนภายนอกเริ่มรู้จักและโฟกัสชื่อของยิ่งลักษณ์มากขึ้น  คือการเข้ามาช่วยงานพี่ชายในฐานะกรรมการและเลขานุการมูลนิธิไทยคม ดูแลเรื่องการสร้างโอกาสให้กับเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะการนำกีฬาฟุตบอลมาขายฝันสร้างอนาคตให้กับเด็กไทย

 

 

หลังจากทักษิณอดีตนายกฯคนที่ 23 ประสบอุบัติเหตุทางการเมือง   ถูก “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผบ.ทบ.ในฐานะประธานคปค.  “ลับ ลวง พราง”  ก่อรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน 2549  พรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรค กรรมการบริหารพรรค บ้านเลขที่ 111 ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี  ต่อมามีการตั้งพรรคพลังประชาชนขึ้นมาใหม่  

โดยมีการทาบทามสมัคร สุนทรเวช นักการเมืองฝีปากกล้ามาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อกอบกู้วิกฤติศรัทธาขึ้นมาใหม่  และสมัครก็ไม่ทำให้ผิดหวังหลังพาพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้งได้ขึ้นเป็นนายกฯคนที่ 25

แต่บุญมีเหมือนกรรมบัง  สมัครถูกตีตกจากมูลเหตุผัดกับข้าวยามเช้าเพราะดันไปรับเงินจากการเป็นพิธีกรทำรายการ “ ชิมไปบ่นไป” ผิดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ    ส้มหล่นเข่งใหญ่เลยตกใส่ขา สมชาย วงศ์สวัสดิ์  น้องเขยผู้เป็นสามีของน้องสาวเจ้าแม่วังบัวบานอย่าง เยาวภา วงสวัสดิ์  ที่อานิสงฆ์ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯคนที่ 26 ของประเทศไทยแทน แต่เพราะบุญน้อยสมชายจึงเป็นนายกฯแค่เพียง 75 วัน แถมไม่ได้เข้าทำเนียบเลยแม้แต่นาทีเดียว

เพราะโดนพล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับ สนธิ ลิ้มทองกุล นำม็อบพันธมิตรมาปักหลักชุมนุมไล่ ก่อนพ้นจากตำแหน่งและถูกตัดสิทธิ 5 ปี  เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีการซื้อเสียงของยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ จ.เชียงราย
 

 

 

ต่อเมื่อมีการประกาศเลือกตั้งทั่วไปในปี 2544  หลังอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯคนที่ 27 ประกาศยุบสภา สืบเนื่องมาจากเกิดเหตุวุ่นวายทางการเมืองจากการชุมนุมของคนเสื้อแดง  ราวเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2544  ก่อนหน้าการเลือกตั้งไม่กี่เดือน จึงปรากฎชื่อของยิ่งลักษณ์น้องสาวคนที่ 10 ของทักษิณในสนามข่าว  ท่ามกลางกระแสถูกวางตัวเป็น “นอมินี” ของพี่ชายคนแดนไกลที่หวังชูน้องสาวมาต่อยอดทางการเมืองเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกฯคนต่อไป

 แม้จะให้สัมภาษณ์ว่าไม่ประสาการเมืองเลยและไม่ถนัด   แต่ด้วยความที่มีแบ็กดี ฐานเสียงแน่น ทุนเยอะ คนเบื่ออภิสิทธิ์ และกระแสต้านทหารฆ่าเสื้อแดงมาแรง   ใช้เวลาในการเปิดตัวหาเสียงเพียงเดือนเศษ    ยิ่งลักษณ์ก็สานฝันของพี่ชายได้สำเร็จหลังก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของประเทศไทยด้วยวัยเพียงแค่  44 ปี  และเป็นนายกฯหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย  เป็นนายกฯคนที่ 3 ของเครือข่ายชินวัตร

หลังทักษิณและสมชาย เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 โดยได้ส.ส.ทั้งหมด  265 คนจากคะแนน 15.7 ล้านเสียงทั่วประเทศ  ทิ้งห่างพรรคประชาธิปัตย์ที่ขายของเก่าชู อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯอีกสมัย  ที่ได้ส.ส.ไปแค่157 คนจากคะแนน 11.4 ล้านเสียงทั่วประเทศชนิดไม่เห็นฝุ่น  จากนั้นในวันที่  5 สิงหาคม พ.ศ. 2554  สภาผู้แทนราษฎรก็เปิดลงมติโหวตเลือกนายกฯ   ยิ่งลักษณ์เข้าป้ายแบบนอนมาอย่างไม่ยาก หลังได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯคนใหม่ ตั้งแต่ในมุ้ง  ทั้งๆที่เธอไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคด้วยซ้ำ  

เพราะทักษิณต้องการสับขาหลอกเลี่ยงข้อกฎหมายเพื่อไม่ให้น้องสาวถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเหมือนบทเรียนในอดีตอีก   แต่เธอก็อาศัยความเป็นปาตี้ลิสต์เบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทยที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกฯในสภา ด้วยคะแนนโหวต 296 เสียง ไม่เห็นด้วย 3 เสียง งดออกเสียง 197 เสียง  

หลังทราบผลลงมติวันนั้นช่วงบ่ายเธอกลับไปแต่งชุดขาว ซ้อมพิธี รอโปรดเกล้าฯเป็นผู้นำประเทศคนใหม่ ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ใช้เวลารอนานหลายชั่วโมงแต่ท้ายสุดก็กลายเป็นแม่สายบัวแต่งตัวรอเก้อเพราะไม่มีพระบรมราชโองการฯโปรดเกล้าฯ ลงมาแต่อย่างใด  ผ่านไป 3 วันจึงมีโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นนายกฯในวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554 

 

ยิ่งลักษณ์ใช้เวลาอยู่ในตำแหน่งสร.1 นาน 2 ปี 275 วัน  โดยนับตั้งแต่วันที่เธอได้รับการโหวตให้เป็นนายกฯเมื่อ 5 สิงหาคม 2554   จวบจนถึงวันที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากรักษาการนายกฯในวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557   สืบเนื่องจากการย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี  ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ “สมช.” ด้วยความไม่เป็นธรรม   อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาการบริหารประเทศในตำแหน่งนายกฯเกือบ 3 ปีนั้น

แม้ช่วงแรกของเส้นทางสู่ตึกไทยคู่ฟ้าจะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ ไปไหนมาไหนมีแต่คนแห่แหนล้อมรอบ แต่เวลาแห่งความสุขของเธอก็กินเวลาสั้นเหลือเกิน ผิดกับช่วงเวลาแห่งความทุกข์ที่ยาวนาน  เพราะหลังจากเป็นนากฯได้ไม่นาน ยิ่งลักษณ์ก็ต้องเผชิญกับนานาปัญหาสารพัดวิบากกรรมไม่รู้จบ  ไล่ตั้งแต่การถูกปรามาสตั้งแต่ต้นๆก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกฯ  จากฝ่ายค้าน ฝ่ายตรงข้าม นักวิชาการ และสื่อมวลชน ว่าเป็น “นอมินี” เป็นหุ่นเชิดทางการเมืองของทักษิณผู้เป็นพี่ชาย  ที่การประชุม ครม.หรือการตัดสินใจนโยบายสำคัญๆ ต่างๆ จะต้องมีการโทรศัพท์ทางไกลไปหารือพี่ชายเพื่อขอความเห็นก่อนเสมอ  

การตกเป็นจำเลยสังคมถูกกล่าวหาว่าบริหารประเทศผิดพลาดล้มเหลว โดยเฉพาะกับการรับมือปัญหาวิกฤติ “มหาอุทกภัย”  ที่เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2554 ก่อนเธอเริ่มเป็นนายกฯ และไปสิ้นสุดเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2555  โดยที่มีคน 12.8 ล้านคนได้รับผลกระทบ  ถึงขนาดธนาคารโลกประเมินว่ามีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 1.44 ล้านล้านบาท เป็นภัยพิบัติที่มีมูลค่าความเสียหายอันดับ 4 ของโลก  

การถูกกล่าวหาว่าไม่มีภาวะผู้นำขาดวิสัยทัศน์ไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศ  การถูกเชื่อมโยงถูกโจมตีเรื่องข่าวคาวกับนักธุรกิจใหญ่เรื่อง ว.5 โฟร์ซีซั่น   แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการพูดจาภาษาไทยแบบผิดๆถูกๆ ของเธอที่เกิดขึ้นตลอดในช่วงที่เป็นนายกฯ ก็ถูกสื่อหยิบยกมาเป็นประเด็นพาดหัวขึ้นหน้าหนึ่งอยู่บ่อยๆ   เรื่อยมาจนถึงกรณีที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยต้นสังกัดทางการเมืองของเธอ เสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองและการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน

โดยนำฉบับ “แบบสุดซอย” ไปบรรจุในสภาเมื่อปี  2556  แต่เป้าหมายแอบแฝงที่แท้จริงอยู่ที่การช่วยเหลือพี่ชายพานายใหญ่กลับบ้านโดยไม่ต้องถูกดำเนินคดีรับโทษ  ที่สุดท้ายปลายทางมูลเหตุแห่งการเสนอกฎหมายช่วยทักษิณแบบไม่ลืมหูลืมตาในคราวนั้นเอง  กลายเป็นการจุดฉนวนให้ “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ  ประกาศลาออกจากการเป็นเลขาธิการทิ้งพรรคประชาธิปัตย์  มาสวมหมวก “ลุงกำนัน” ตั้งม็อบข้างถนนภายใต้ชื่อคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ “กกปส.”เมื่อ 29พฤศจิกายน 2556 เดินหน้าขับไล่ยิ่งลักษณ์อย่างเต็มรูปแบบฐานรู้เห็นเป็นใจกับเรื่องนี้   มีการจัดม็อบเคลื่อนพลไปทุกจุดในแบบยิ่งลักษณ์ไปไหนกกปส.จัดม็อบไปไล่ที่นั้น   มีการเดินขบวนตั้งเวทีชุมนุมกันทั่วกรุงยาวนานนับ 6 เดือน  ถึงขนาดยิ่งลักษณ์ต้องหอบครม.หนีการเผชิญหน้ามวลชนแบบหนีหัวซุกหัวซุน เปลี่ยนที่จัดการประชุมครม.ไปเรื่อยแบบไร้จุดหมาย  ตั้งแต่กองบัญชาการกองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์คลองหลวง โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จนมาจบที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี  ฯลฯ

เพราะเข้าทำเนียบรัฐบาลทำงานไม่ได้ และสุดท้ายเจ้าตัวก็ทนกระแสเรียกร้องกดดันจากหลายฝ่ายไม่ไหว ต้องชิงประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเช้าของวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556  หลังถูกกกปส.ปลุกคนกรุงและต่างจังหวัดเดินขบวนขับไล่หลายสิบรอบทั่วกรุง  จากหลักหมื่นเป็นหลักแสนจนถึงล้านคน แต่แม้จะยุบสภาหนียิ่งลักษณ์ก็ยังนั่งรักษาการนายกฯต่อไป  จนพ้นจากตำแหน่งรักษาการนายกฯจริงๆหลังคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญเรื่องย้ายถวิลไม่ชอบด้วนกฏหมาย  เพราะหวังเอื้อประโยชน์ให้พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ขึ้นเป็นผบ.ตร.

แม้ยิ่งลักษณ์จะหลุดพ้นจากตำแหน่งรักษาการนายกฯและมอบหมายให้นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯขึ้นมารักษาการนายกฯแทน  แต่จนแล้วจนรอดรัฐบาลรักษาการก็ยังหาทางออกจาก “วิกฤติที่สุดในโลก” ไม่ได้หาทางไปไม่เจอ  ท้ายสุดก็ถูก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในขณะนั้นแสร้งออกอุบาย “ลับ ลวง พราง” ประกาศกฎอัยการศึกตี 2 อ้างเหตุควบคุมพื้นที่สยบปัญหาเหตุรุนแรงจากม็อบสีต่างๆ

ก่อนเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองหาทางออกบนโต๊ะเจรจา 1 วันแต่ก็เถียงกันคอเป็นเอ็นตกลงกันไม่ได้  ที่สุดเวลา  16.00 น. วันที่ 22 พฤษภาคม 2557  ทหารภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ก็ผ่าทางตันประเทศด้วยการเข้าทำการรัฐประหารควบคุมอำนาจการบริหารประเทศจากรัฐบาล  ปิดฉากอำนาจทางการเมืองของ ยิ่งลักษณ์และบริวารอย่างสมบูรณ์

 

“ เกิดเพราะพี่ชาย ตายเพราะพี่สาว”เปิดเส้นทางโลดโผนปนวิบากกรรมของยิ่งลักษณ์ 6 ปี จากนายกฯประวัติศาสตร์สู่นักโทษอาญาแผ่นดิน “หนีคดี ติดคุก

 

“ เกิดเพราะพี่ชาย ตายเพราะพี่สาว”เปิดเส้นทางโลดโผนปนวิบากกรรมของยิ่งลักษณ์ 6 ปี จากนายกฯประวัติศาสตร์สู่นักโทษอาญาแผ่นดิน “หนีคดี ติดคุก

อย่างไรก็ตามแม้ถูกรัฐประหารยึดอำนาจไปแล้ว แต่วิบากรรมของยิ่งลักษณ์ยังไม่จบ เพราะก่อนหน้านั้น  เธอถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ “ป.ป.ช.” ตั้งองค์คณะไต่สวนโครงการรับจำนำข้าวเมื่อ 28 มกราคม 2557   ก่อนป.ป.ช.จะมีมติส่งเรื่องให้ส.ว.ถอดถอนเธอออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2557

จากนั้นป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดโครงการรับจำนำข้าวต่อยิ่งลักษณ์ในส่วนของคดีอาญาเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2557  ต่อมาเมื่อ 23 มกราคม 2558  อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องยิ่งลักษณ์วันเดียวกับที่สนช.ดำเนินการถอดถอนเธอออกจากตำแหน่งด้วยมติ 1


23 มกราคม 2558  อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องยิ่งลักษณ์วันเดียวกับที่สนช.ดำเนินการถอดถอนเธอออกจากตำแหน่งด้วยมติ 190 เสียงต่อ 18 เสียงและตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี   ต่อมาในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558  ป.ป.ช.ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลังให้ส่งหนังสือเรียกค่าเสียหายจากยิ่งลักษณ์    

ก่อนที่ 7 วันต่อมาเมื่อ  19 กุมภาพันธ์ 2558 อัยการสูงสุดยื่นฟ้องยิ่งลักษณ์ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว อ้างความปิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1  

จากนั้นศาลฯได้เริ่มพิจารณาคดีครั้งแรกเมื่อ 19 พฤษภาคม 2558 .ใช้เวลาในการพิจารณาคดีเกือบ 2 ปีเศษก่อนศาลจะเปิด โอกาสให้น.ส.ยิ่งลักษณ์แถลงปิดคดีในวันที่ 1 สิงหาคม 2560

ซึ่งตลอดเวลาที่มาต่อสู้ในชั้นศาลตามกระบวนการยุติธรรมทั้ง 26 นัด เป็นเวลา 2 ปี 4 เดือน  ยิ่งลักษณ์เดินทางมาศาลตลอดและประกาศพร้อมสู้ไม่เคยคิดหนี  ก่อนจะมาตบะแตกหักมุมชิงหนีคดีออกนอกประเทศก่อนหน้าวันนัดหมายอ่านคำพิพากษาเมื่อวันศุกร์ที่25 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมาแบบหลอกคนทั้งแผ่นดิน จนศาลต้องออกหมายจับและสั่งริบเงินประกัน 30 ล้านบาทหลังทนายยิ่งลักษณ์อ้างลูกความป่วยน้ำในหูไม่เท่ากันวิงเวียนมาศาลไม่ได้   ทำให้ศาลต้องเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 27 กันยายน 2560  แทน  

วานนี้วันชี้ชะตายิ่งลักษณ์ก็มาถึง  หลังองค์คณะผู้พิพากษาศาลฯ จำนวน 9 คน ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงในการเขียนคำวินิจฉัยกลาง ก่อนแถลงคำพิพากษาจำนวน 90 หน้าเป็นเวลา 4 ชั่วโมงไม่ขาดไม่เกิน จาก 11.15 น.ถึง15.15 น. โดยงานนี้ศาลฟันธงลงมาให้เห็นชัดๆ ว่า  “จุดสลบ จุดตาย” ที่ทำให้ยิ่งลักษณ์ติดคุกหัวโต 5 ปีโดยไม่รอลงอาญา  ต้นเหตุหลักก็มาจากการปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตการขายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลหรือ “จีทูจี”  กับรัฐวิสาหกิจของจีน

ทั้งๆที่มีการท้วงติงจากหลายฝ่ายมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างกว้างขวางจากฝ่ายค้านว่าเป็นรายการจีทูจีเก๊ หรือ “จีทูเจี๊ยะ” แต่ยิ่งลักษณ์ก็ไม่สนแถมให้สัมภาษณ์ยืนยันแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้แบบไม่เช็คข้อมูลไม่กลัวติดคุกหนักแน่นว่ามีการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐจริงไม่มีทุจิรต  งานนี้ก็เลยกลายเป็นรายการปากพาจนมัดตัวเองแบบเต็มๆ    

เพราะดันไปรับลูกอุ้มรัฐมนตรีเผือกร้อนอย่าง บุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์  ที่เป็นเด็กในคาถาของพี่สาวทรงอิทธิพลของตัวเองแบบเต็มๆ งานนี้ก็เลยตกม้าตายเข้าซังเตแบบช่วยไม่ได้   ถือเป็นการปิดฉากชีวิตโลดโผนปนวิบากกรรม 6 ปีบนถนนสายการเมืองของยิ่งลักษณ์  ที่รุ่งโรจน์และแตกดับเพราะสายโลหิตคนใกล้ชิดแท้ๆ  อาจจะเรียกว่า  “เกิดเพราะพี่ชาย ตายเพราะพี่สาว” ก็ว่าได้   วันนี้ไม่รู้ว่าชะตากรรมของยิ่งลักษณ์จะเป็นอย่างไร แต่สาเหตุที่ต้องตกระกำลำบากในวัย 51 ปี ต้องหนีคดี  ต้องติดคุก ไร้ที่ซุกหัวนอน ต้องระเห็จไปอยู่ในต่างแดนตามรอยพี่ชาย  ลำบากวันนี้ก็เพราะ....พี่จัดให้

 

ขอบคุณข้อมูลจาก   เพจอีกา https://www.facebook.com/permalink.phpstory_fbid=367625700340906&id=345970352506441