ประยุทธ์โวทุ่มงบ 1 ล้านล้านบาท เนรมิตรอีอีซียกระดับประเทศ  ฟุ้ง 5 ปีแรกดันจีดีพี 5 %  สร้างมูลค่าพุ่ง 3 ล้านล้านบาท

ประยุทธ์โวทุ่มงบ 1 ล้านล้านบาท เนรมิตรอีอีซียกระดับประเทศ ฟุ้ง 5 ปีแรกดันจีดีพี 5 % สร้างมูลค่าพุ่ง 3 ล้านล้านบาท

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2561 เวลา 20.15 น. ถึงการพัฒนาประเทศในยุคดิจิทัล ตามนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” ว่า  เราจะต้องให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม ในมิติวัฒนธรรม ความเป็นไทย ตามหลักคิด “ไทยนิยม” ที่ได้กล่าวไปแล้ว และโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพของประเทศไปพร้อม ๆ กันด้วย อาทิ โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ พลังงาน ชลประทาน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ประเทศของเรานั้นไม่ได้ร่ำรวยมากนัก จนสามารถเนรมิต หรือลงทุน ทุกอย่างได้ ตามที่เราต้องการในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้น เราจำเป็นต้องมีการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ มีการพัฒนาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ปัจจุบันแม้เราจะกำหนดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแล้ว (SEZ) ไว้ทุกภูมิภาคของประเทศ จำนวน 10 แห่ง แต่ก็ไม่ง่ายนักที่จะเริ่มดำเนินการได้พร้อม ๆ กัน
 

“ เนื่องจากติดขัดในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งกฎหมาย ทั้งงบประมาณ ทั้งความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ ความเข้าใจ บางท่านอาจจะไม่เข้าใจ ยังมองภาพความสำเร็จไม่ออก เพราะทุกคนก็เคยชินอยู่กับการทำวันนี้ ให้ได้พรุ่งนี้นะครับ บางทีหลายอย่างต้องใช้ระยะเวลา ก็ยังมองไม่ค่อยออกกัน เป็นหน้าที่ของรัฐบาล คสช. และทุกหน่วยงานนะครับ ในการที่จะสาธิต ให้เห็นภาพอนาคต ของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ บนพื้นที่ที่มีศักยภาพเดิม คือระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)  เพราะว่าเมื่อสามารถทำได้สำเร็จ จะไม่เพียงแค่ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเท่านั้น แต่ยุทธศาสตร์ขั้นต่อไป คือ การขยายผลในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ทั้ง 10 แห่ง ในวันข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศครั้งยิ่งใหญ่ และเป็นก้าวย่างที่สำคัญของชาติ ข้าม “กับดัก” ความเหลื่อมล้ำ ความยากจน และการพัฒนาที่ไม่สมดุล สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า  อยากวาดภาพอนาคต และความเป็นไปได้ให้ทุกคนได้เห็น ว่ารัฐบาลจะขับเคลื่อนโครงการ EEC อย่างไร โดยแผนปฏิบัติการลงทุน แบ่งออกเป็น 3 ระยะ  ระยะที่ 1 หรือระยะเร่งด่วนนะครับ ระหว่างปี 2560 ถึง 2561 ที่ต้องดำเนินการทันที เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจภายใน EEC ให้มีการลงทุนจากในประเทศ และต่างประเทศ  ระยะที่ 2 ระหว่างปี 2562 ถึง 2564 เป็นแผนงานต่อเนื่อง เพื่อให้โครงข่ายการขนส่งสามารถรองรับกิจการทางเศรษฐกิจ ที่จะเกิดขึ้น และขยายกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และระยะต่อไป เริ่มตั้งแต่ปี 2565 ก็จะเป็นแผนงานเพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่EEC อย่างยั่งยืน เพื่อจะเพิ่มรายได้ของประเทศ ให้กับประชาชนทุกระดับ ทุกฝ่าย รวมถึงการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเพิ่มมูลค่าอีกด้วย ทั้งนี้ จะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านคมนาคมขนส่ง ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ ทางอากาศ และ โลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ (1) มอเตอร์เวย์ พัทยา-มาบตาพุด, แหลมฉบัง-ปราจีนบุรี และชลบุรี-อ.แกลง จ.ระยอง รวมทั้งการปรับปรุงโครงข่ายถนนสายรอง  การเพิ่มโครงข่ายทางเลี่ยงเมือง   (2) รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 ท่าอากาศยาน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) รถไฟทางคู่ ช่วงแหลมฉบัง-มาบตาพุด รถไฟ ช่วงระยอง-จันทบุรี-ตราด และ รถไฟเชื่อม EEC-ทวาย-กัมพูชา รวมทั้ง สถานีบรรจุและยกสินค้ากล่อง จ.ฉะเชิงเทรา  (3) ท่าเรือแหลมฉบัง เฟสที่ 3  ท่าเรือมาบตาพุด เฟสที่ 3 และ อากาศยานผู้โดยสาร
ท่าเรือ จุกเสม็ด  (4) การยกระดับท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา อาทิ การสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ทางวิ่งที่ 2 พื้นที่ขนส่งสินค้าทางอากาศ เขตปลอดอากร (Free Zone) และอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3  ตามลำดับ

นายกฯกล่าวต่อว่า  สำหรับการจัดหาแหล่งวงเงินลงทุน เบื้องต้นนั้นประมาณ 1 ล้านล้านบาท จากงบประมาณแผ่นดิน 30%  เงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจ 10%  รัฐและเอกชนร่วมลงทุน (PPP) 59% และ กองทุนหมุนเวียน จากกองทัพเรือ 1%  ผลที่คาดว่าจะได้รับ อาทิ ใน 5 ปีแรก จะเกิดฐานเทคโนโลยีใหม่ของประเทศและ เกิดการพัฒนาคน ทำให้รายได้ประชาชาติ “ขยายตัว” ไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปี เกิดการลงทุนจากภาคเอกชนเพิ่มเติมช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้กว่า 2.1 - 3.0 ล้านล้านบาท จะมีการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนคุณภาพสูงมากขึ้น ปริมาณการเดินทาง และขนส่งสินค้าใน EEC มากขึ้น สามารถจะลดต้นทุนของรถบรรทุกได้ ประมาณ 35.6 ล้านบาทต่อวัน  ลดต้นทุนรถไฟได้ ประมาณ 2.3 แสนบาทต่อวัน รวมทั้ง ลดระยะเวลาการเดินทางลงได้อีกด้วย นอกจากนี้ จะเป็นการสนับสนุนให้ EEC เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเป้าหมาย เป็นประตูเศรษฐกิจเชื่อมเพื่อนบ้าน - CLMV - และ อาเซียนทั้งหมด อย่างสมบูรณ์

//////////////