เงินก็ยังเป็นพระเจ้า !!! "พล.ท.นันทเดช" สะท้อนเจ็บ...ผลจาก"การตายของเสือดำ" อ่านแล้วปวดไปทั้งหัวใจ!

เงินก็ยังเป็นพระเจ้า !!! "พล.ท.นันทเดช" สะท้อนเจ็บ...ผลจาก"การตายของเสือดำ" อ่านแล้วปวดไปทั้งหัวใจ!

วันที่  10 ก.พ. 2561 บนเฟซบุ๊กของ พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ได้โพสต์ข้อวิเคราะห์4ข้อจากการสูญเสีย1ชีวิต คือการตายของเจ้าเสือดำที่ถูกล่าโหดโดยกลุ่มคนที่ได้ชื่อว่าเป็นบุคคลชั้นนำของประเทศและออกตัวว่าเป็นพวกรักสัตว์รักธรรมชาติมาโดยตลอด

เงินก็ยังเป็นพระเจ้า !!! "พล.ท.นันทเดช" สะท้อนเจ็บ...ผลจาก"การตายของเสือดำ" อ่านแล้วปวดไปทั้งหัวใจ!

ซึ่งพลโท นันทเดช ได้ระบุไว้ดังนี้ว่า

การจากไปของเสือดำวัยรุ่น ภายใต้การสังหารอย่างเหี้ยมโหด ในบ้านของมันนั้น ให้อะไรแก่สังคมไทยบ้าง เป็นเรื่องที่น่าคิดต่อไปครับ เสือดำตาย1ตัวกลับส่งผล กระทบอย่างกว้างขวาง ต่อสังคมไทย เพราะ

(1) การตายของเจ้าดำน้อย จะทำให้การเข้าไปล่าสัตว์ ตัดต้นไม้ในป่ายากขึ้น กว่าเดิมแยะ เกือบทุกป่าต้องมีการดูแลอย่างเข็มแข็ง แม้เป็นเวลาสัก2-3เดือนก็ยังดี เพราะคนไทยเราขี้ลืม พอเวลาผ่านไปมันก็จะกลับมาเป็นแบบเดิมอีก

(2) พวกเราเพิ่งรู้จักงานคุ้มครองป่า จากเจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆคนหนึ่ง ได้เป็นอย่างดีภายในเวลาไม่มากนัก และ ยังน่าจะทำให้กระทรวงทรัพยากร รู้จักเจ้าหน้าที่เหล่านี้ว่ามีตัวตนอยู่ในกระทรวงจริงๆ ไม่ใช่เป็นหัวหลักหัวตอ ที่เดินผ่านไปผ่านมา

(3) คำพูดว่า" กรรมตามทัน " นั้นดูจะเป็นเรื่องจริงมากขึ้น ทั้งๆที่ตัวอย่างเรื่อง"กรรม"ของคนรวยก็มีให้เราเห็นอยู่เป็นประจำ และมีถี่มากขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ เดือนหน้าก็จะมีขึ้นอีก ส่วนกรรมของคนจนนั้น ขึ้นอยู่กะใจเราเอง ว่าจะเห็นแต่ละเรื่องเป็นกรรม หรือ เป็นบทเรียน

(4) แสดงให้เราเห็นว่า เงินก็ยังเป็นพระเจ้า เป็น Time Machine ให้ย้อนเวลาจากผิดมาเป็นถูก หรือผิดนิดหน่อยได้ เป็นตัวกำหนดความรักแทนกามเทพ ในยุคปัจจุบันนี้

เงินก็ยังเป็นพระเจ้า !!! "พล.ท.นันทเดช" สะท้อนเจ็บ...ผลจาก"การตายของเสือดำ" อ่านแล้วปวดไปทั้งหัวใจ!

เงินก็ยังเป็นพระเจ้า !!! "พล.ท.นันทเดช" สะท้อนเจ็บ...ผลจาก"การตายของเสือดำ" อ่านแล้วปวดไปทั้งหัวใจ!

เงินก็ยังเป็นพระเจ้า !!! "พล.ท.นันทเดช" สะท้อนเจ็บ...ผลจาก"การตายของเสือดำ" อ่านแล้วปวดไปทั้งหัวใจ!

ก่อนหน้านี้พลโท นันทเดช ก็ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีการล่าและบุกรุกผืนป่าที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ ระบุ

อย่าให้น้องเสือดำที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตายฟรี

เมื่อ29 เมษายน 2516 ได้เกิดเหตุ ฮ.กองทัพบกตก ที่บางเลน จ.นครปฐม มีผู้เสียชีวิต 6 รบาดเจ็บอีก 4 มีซากกระทิง และสัตว์ป่าอื่น ๆ รวมถึงอุปกรณ์ล่าสัตว์จำนวนมากใกล้ ซาก ฮ. ข่าว จนเป็นขึ้นหน้า1 ของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ อุบัติเหตุในครั้งนั้นกลายเป็นหลักฐานฟ้องว่า มีการใช้ ฮ.ของราชการเข้าไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อย่างชัดเจน

แต่รัฐบาล จอมพลถนอม กลับปฎิเสธ และพยายามให้สื่อมวลชนยุติการเผยแพร่ข่าว โดยแถลงข่าวว่า ผู้เสียที่ชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุ ฮ. ตกอยู่ในช่วงปฏิบัติราชการ ลับ เปิดเผยมิได้ เพื่อการรักษาความปลอดภัย นายพล เน วิน นรม. พม่า ส่วนเนื้อสัตว์ป่าอาจเป็นของคนอื่นฝากมา ข่าวในลักษณะนี้ ยิ่งทำให้ประชาชนไม่พอใจต่อรัฐบาลเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายมาเป็นเรื่องการเมือง เกิดเหตุการณ์14ตุลาขึ้นในที่สุด

ข้อสังเกตุ : กลุ่มนักศึกษาประชาชนทั่วประเทศ ได้ใช้ พระบรมฉายาลักณ์ ในหลวงรัชกาลที่9 และ ธงชาติเป็นเครื่องมือโค่นล้มรัฐบาลจนเป็นผลสำเร็จ

กรณีล่าสัตว์คราวนี้ แตกต่างกันมากมาย กับ เมื่อปี16 เพราะ (1). รัฐบาล ลุงตู่ เปิดไฟเขียวให้ดำเนินการได้ตามกฏหมาย อย่างเต็มที่ ไม่มีการเข้ามาปกป้อง (2) เจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมเอง ไม่ใช่ ฮ.ตก แล้วถึงรู้ และ (3) เป็นเรื่องของคนเฮงซวย3-4คน เข้าไปล่าสัตว์เอง ไม่เกี่ยวกับทหาร ตำรวจ แต่อย่างได

จุดจบในคดีนี้ ไม่สำคัญเท่าไรครับ เงินคงทำหน้าที่ของมันอย่างได้ผลเหมือนเดิม ผิดนะผิดแน่ แต่คนรับผิดน่าจะเป็น"แพะ" คนหนึ่งเท่านั้นเอง สิ่งสำคัญคือ ทำอย่างไรพวกเราถึงจะช่วยให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่รักษาป่า เหล่านี้ได้อย่างมีรูปธรรม เพื่อไม่ให้น้องเสือดำรุ่นเยาว์นี้ตายไปฟรีๆ เรื่องนี้คงไม่ต้องให้ พี่ตูนมาวิ่งอีกมั้ง ลุงตู่ และยังเป็นการช่วย เจ้าหน้าท่ีป่าไม้ชุดนี้ไม่ให้ถูกแกล้งอีกด้วย

ก่อนจบ ตอนนี้ ปรากฏว่ามี เพจ ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลหลายเพจ พยายามมั่ว เอามาเสนอข่าวว่า เหตุการณ์ล่าเสื้อดำครั้งนี้ เหมือนการล่าสัตว์ในปี2516 จึง เป็นลางบอกถึงจุดจบรัฐบาล เพื่อให้มีคนมาชุมนุมที่ ถนน ราชดำเนิน ใน10 ก.พ. 61 มากขึ้น หรืออะไรทำนองนี้ ทำอย่างไหงไฟก็จุดไม่ติดหรอก มีแต่คนอ่านแลัวจะขำตาย เท่านั้นเอง เรื่อง โม้แบบนี้ละเร็วนัก ! ดำน้ำมาทีเดียว วันท่ี10ก็พอจะเดาชื่อผู้มาชุมนุมล่วงหน้าได้สัก20คนล่วงหน้าเลยครับ

เงินก็ยังเป็นพระเจ้า !!! "พล.ท.นันทเดช" สะท้อนเจ็บ...ผลจาก"การตายของเสือดำ" อ่านแล้วปวดไปทั้งหัวใจ!

 

 

 

ขอบคุณ พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์