- 04 ส.ค. 2561
ด่วนที่สุด! เตรียมอพยพประชาชน 5อำเภอ"เพชรบุรี" หลังน้ำจ่อทะลักท่วมเขื่อนแก่งกระจาน
วันที่ 4 ส.ค.61 นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมหลัง จ.เพชรบุรี จะมีการระบายน้ำจากเขื่อนแก่งกระจาน อาจมี 5 อำเภอได้รับผลกระทบ ว่า เท่าที่ทราบทางจังหวัดได้แจ้งอำเภอและประชาชน ให้เตรียมความพร้อมว่าจะมีการพร่องน้ำและระบายน้ำ โดยจะให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ขณะที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีได้ประชุมเตรียมความพร้อมกับนายอำเภอทั้ง 5 อำเภอ เพื่อให้ประชาชนเตรียมเก็บของขึ้นสู่ที่สูง และกำหนดจุดอพยพไว้ตามแต่ละจุดของอำเภอ
.
.
.
.
“ต้องดูตามแนวการไหลของน้ำ ต้องแจ้งเตือนพื้นที่ที่อยู่ตามแนวการไหลของน้ำ เพื่อรองรับพื้นที่อพยพ หากมีความเสี่ยงหรืออาจเกิดอันตรายกับประชาชน เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าฯ นายอำเภอ และผู้บริหารท้องถิ่น ผมเชื่อว่าท้องถิ่นทุกที่ได้ประเมินความเสี่ยงไว้แล้วเพื่อหาจุดอพยพที่ปลอดภัย ทางปภ.เองก็ได้เตรียมเครื่องสูบน้ำเพื่อให้ทันต่อการช่วยเหลือไว้ตามจุดต่างๆ เท่าที่ทราบทางจังหวัดได้ประสานไปยังกองทัพเรือเพื่อขอเรือผลักดันน้ำมาช่วยเพิ่มเติมด้วย” รองอธิบดี ปภ.กล่าว
.
.
.
.
ด้าน นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขึ้น ฮ. บินสำรวจสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเพชรบุรีเหนือเขื่อนแก่งกระจานว่า จากการติดตามคาดว่าน้ำจะเต็มเขื่อนแก่งกระจานในอีกประมาณ 10 ชั่วโมงข้างหน้า จากนั้นน้ำส่วนเกินที่ล้นสปินเวย์ ประมาณ 300 ลูกบาศก์ (ลบ.ม.)ต่อวินาที จะลงมายังเขื่อนเพชรบุรีใน 10 ช.ม. ต่อมา และเข้าตัวเมืองเพชรบุรีประมาณเที่ยงวันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม โดยคาดว่าระดับน้ำที่เข้าแม่น้ำเพชรในตัวเมืองสูงกว่าปี 2560 ประมาณ 50 ซ.ม. ผู้ว่าฯเพชรบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบและได้เตรียมแจ้งเตือนประชาชนแล้วและจะมีการแจ้งเตือนต่อเนื่อง
ทั้งนี้จากปริมาณฝนที่ตกต่อเนื่องและไหลลงอ่างมากกว่า 24 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ทำให้คาดว่าน่าจะส่งผลกระทบต่อเมืองเพชรบุรีนานประมาณ 1-2 เดือน โดยกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ ตลอดเส้นทางเพื่อเร่งให้น้ำออกทะเลเร็วที่สุด
สำหรับการประเมินแผนปฏิบัติการรับมือสภาพอากาศและสถานการณ์ฝนช่วงวันที่ 4 – 8 ส.ค.2561 ที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นบริเวณชายขอบประเทศภาคตะวันตก และ ภาคอีสาน เนื่องจากเป็นแนวปะทะของฝน โดยจะตกมากในภาคตะวันตก และมีน้ำไหลเข้าเขื่อน 4 เขื่อนมากขึ้น คือ ศรีนครินทร์ วชิราลงกรณ แก่งกระจาน และปราณบุรี
โดยพบว่า 1 วันปริมาณน้ำขึ้นมามากถึง 150 ล้านลบ.ม. โดยปัจจุบันปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มีปริมาณน้้ำประมาณ 690 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็น 97% ของความจุเขื่อน 710 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลเข้า 24.8 ล้าน ลบ.ม./วัน ระบายออก 9.30 ล้าน ลบ.ม./วัน คงเหลือพื้นที่รับน้ำอีกประมาณ 40 เซนติเมตร คาดว่าภายในวันที่ 5 สิงหาคม น้ำจะไหลล้นระดับ spillway
นายสมเกียรติกล่าวว่า มาตรการระบายน้ำจากเขื่อนแก่งกระจาน คือ การระบายทางช่องทางระบายน้ำในลำน้ำเดิมวันละ 8.6 ล้านลูกบาศก์เมตร และติดตั้งกาลักน้ำ 12 แถวระบายได้ 0.5 ล้าน ลบ.ม./วัน และ เพิ่มเครื่องสูบน้ำ Hydro Flow อีก 20 เครื่อง ระบายน้ำได้ 2.6 ล้าน ลบ.ม./วัน รวม 2 ส่วนระบายน้ำได้ 3.1 ล้าน ลบ.ม./วัน นอกจากนี้ ยังมี Spillway เมื่อน้ำถึงระดับเก็บกักสูงสุด สามารถระบายได้อีก โดยไม่กระทบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน
สำหรับพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมจากเขื่อนแก่งกระจาน ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้ทำหนังสือไปยังอำเภอ นายกเทศมนตรีเมือง และปภ.เพชรบุรี เพื่อแจ้งให้แจ้งเตือน และเตรียมช่วยเหลือชาวบ้าน จากการระบายนำออกจากเขื่อนแก่งกระจาน ทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำเพชรบุรี ตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อน จนถึงปลายแม่น้ำเพชรบุรี หากมีการระบายน้ำจากเขื่อนแก่งกระจาน ตั้งแต่บริเวณด้านท้ายอาคารระบายน้ำล้นเขื่อนแก่งกระจานจนถึงเขื่อนเพชร พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบอาจจะทำให้มีระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2.87-4.51 เมตร ขณะที่พื้นที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนเพชร ตั้งแต่บริเวณเขื่อนเพชร จนถึงปลายแม่น้ำเพชรบุรีจากตั้งแต่ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีลงมา โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ คือ พื้นที่ลุ่มต่ำริมคลองท่าแร้ง ต.ท่าแร้ง ต.ท่าแร้งออก ต.บ้านแหลม ต.บางขุนไทร อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี