ออกโรงแล้ว! "บอย สกล" เดินทางเข้าแจ้งความตำรวจ พร้อมแถลงเปิดใจทุกประเด็นปมเข้าไปถือป้ายงานจุฬา โกงเงิน ม.บูรพา

จากกรณีนักศึกษารายหนึ่ง บอยสกล โดยออกมาแฉจนเป็นที่โด่งดังในทวิตเตอร์จนเกิด  #บอยสกล นิสิตลวงโลก ที่รวมวีรกรรมสุดจะเนียนจนโดนออกมาแฉ ประเด็นเด็ดในทวิตเตอร์ เมื่อมีหนุ่มดังกล่าวได้ปลอมตัวเข้าไปเนียนเป็นนิสิตนักศึกษาของสถาบันดัง  เนียนใส่ชุดนิสิต โพสต์รูปชีวิตดี ทำเนียนไปเรียนในมหาลัยชื่อดัง ได้ถือป้ายในงานฟุตบอลมหาลัย ซ้ำเคยโกงเงินผู้อื่นหนีลอยนวล  
 

 

 

 นายสกล เอี่ยมสะอาด หรือบอย  วัยรุ่นชายที่ถูกโลกโซเชียลออกมาวิพากษ์วิจารณ์พร้อมระบุว่านายบอยแอบอ้างเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยดัง  เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เพื่อให้ดำเนินคดีกับ บุคคลที่ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อกล่าวหาว่าตนโกงเงินของสโมสรนิสิตนักศึกมหาวิทยาลัยบูรพากว่า8แสนบาท ไปใช้ส่วนตัว

 

บอย สกล เผยว่า เพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ว่าตนเองไม่เคยนำเงินดังกล่าวไปใช้ส่วนตัว และยอดเงินของชมรมไม่ถึง8แสนตามกล่าวอ้าง ซึ่งเงินก็ถูกใช้ภายใช้ชมรมทั้งหมด วันนี้จึงนำเอกสาร เป็นบทสัมภาษณ์ที่บุคคลดังกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อ กล่าวอ้างว่าตนยักยอกเงินของสโมสรนิสิตนักศึกมหาวิทยาลัยบูรพากว่า8แสนบาท รวมทั้ง บันทึกธุรกรรมทางการเงิน มามอบให้ตำรวจเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ มามอบให้กับพนักงานสอบสวนด้วย พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่กล่าวหาตน ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ตนยอมรับว่ารู้จักกับเพื่อนคนดังกล่าวแต่ไม่สนิทสนม และไม่เคยเข้าไปนั่งเรียนในคลาสกับเพื่อนดังกล่าว ไม่ทราบสาเหตุว่า ทำไมถึงออกมาว่าให้ร้ายกล่าวหาตน
 

 

 

ส่วนเรื่องที่กล่าวหาว่า ตนแอบอ้างและปลอมแปลงเอกสาร รวมทั้งเข้าเรียน เป็นนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ขณะนี้ตนเองได้ส่งชี้แจงกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว ตนเองไม่ได้หนี หากจะให้เข้าไปชี้แจงก็พร้อม และสถานะตอนนี้ตนเป็นนักศึกษาอยู่ที่ ม.รามคำแหง แต่ก่อนหน้านี้ เคยเรียนที่ ม.บูรพาจริง แต่พ้นสถานะออกมาเมื่อปี57 ส่วนที่ภาพในงานฟุตบอลประเพณี ธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์นั้น ขอชี้แจงว่า งานดังกล่าว เป็นงานเปิด ที่สามารถให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าลงทะเบียนและคัดเลือกได้ ซึ่งสัดส่วนตนเหมาะสมพอดี และขบวนที่ตนถือป้ายขบวนสุดท้ายเท่านั้น  และอีกหนึ่งกรณีที่ปรากฏภาพว่า ตนไปอ่านหนังสือในห้องสมุดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นั้น เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานที่เปิดเช่นกัน ตนเองใช้บัตรประจำตัวประชาชน แลกเข้าไปเหมือนคนนอกทั่วไป ไม่ได้ทำเอกสารและบัตรนิสิตปลอม และไม่ได้ร่วมเรียนกับนิสิตจุฬาฯ และสุดท้ายนี้ตนยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทบกับชีวิตอย่างมาก เดินไปไหนมีแต่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนไม่ดี