- 11 พ.ย. 2561
กฏหมายมีช่องว่าง? "ทนายเดชา" ลั่น! รพ.ปฏิเสธรักษาสาวถูกสาดน้ำกรด ไม่สามารถเรียกค่าเสียหาย แต่ฟ้องฆ่าคนตายได้ !! (คลิป)
จากเหตุการณ์ ที่น.ส.ช่อลัดดา ซึ่งเชื่อว่าถูกนายคำตัน สามีเอาน้ำกรดสาดที่ใบหน้าเพราะความหึงหวง แล้วได้หลบหนีไป นส.ช่อลัดดา ต้องกัดฟันทนพิษบาดแผลประคองตัวเองให้น้องเต ลูกสาว วัยเพียง 12 ปี พามา ร.พ.บางมด แต่แท็กซี่เห็นว่าอาการหนักจึงปรารถนาดีนำส่ง ร.พ.พระราม 2 ที่ใกล้ที่สุดแต่กลับถูก ร.พ.พระราม 2 ปฏิเสธการรักษา โดยผลักไสผู้ป่วยให้ขึ้นแท็กซี่ไปรักษาตัวที่ ร.พ.อื่นทั้งๆที่ผู้ป่วยยังไม่ได้อยู่ในอาการที่ปลอดภัย พ้นขีดอันตราย และผลสุดท้ายคือ น.ส.ช่อลัดดาทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในระหว่างทาง
โดยในเวลาต่อมานั้น ฝั่งตัวแทนของโรงพยาบาลพระรามสอง นั้น ก็ได้มีการออกมาเผยสาเหตุว่าทำไมถึงไม่รักษาสาวที่ถูกสาดน้ำกรด โดยทางโรงพยาบาลนั้นยืนยันว่าสาวคนดังกล่าวนั้น ไม่ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลของตนแต่ไปเสียชีวิตที่อีกโรงพยาบาลหนึ่ง
โดยแพทย์ระบุว่า น.ส.ช่อลัดดา บอกกับแพทย์ว่าถูกน้ำร้อนราดขณะนอนหลับ แพทย์ประเมินแล้วบาดแผลไม่รุนแรง แต่อยากให้นอนดูอาการ แต่เมื่อตรวจสอบสิทธิประกันสังคมพบว่าอยู่ที่โรงพยาบาลบางมด ผู้ป่วยจึงแจ้งประสงค์อยากไปใช้สิทธิที่โรงพยาบาลบางมด โดยขณะนั้นผู้ป่วยเดิน พูดคุยได้ปกติ ไม่ได้มีอาการทรุดแต่อย่างใด ทั้งนี้ขอแสดงความเสียใจ โดยทางโรงพยาบาลก็ไม่มีเหตุุผลที่จะปฏิเสธการรักษาคนไข้ จึงอยากขอความเป็นธรรม
ล่าสุดในวันเดียวกันนี้
ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เจ้าของเพจ "ทนายคลายทุกข์" ได้ออกมาไลฟ์สดข้อกฏหมายของครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้นจะดำเนินการได้ โดยทนายเดชาได้กล่าวว่า เรื่องนี้สำคัญนะครับ มีกฎหมายคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินแต่สถานพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนไม่เชื่อถือ ซึ่งมีประกาศออกมาเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2560 มีการระบุไว้ว่า ผู้ป่วยฉุกเฉิน รัฐบาลและสถานบริการต้องระดมทรัพยากร ต้องมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเยียวยา และส่งต่อไปยังสถานบริการอื่น ซึ่งไม่ใช่การผลักไสผู้ป่วยออกไปโดยอ้างว่าไม่มีเงินรักษาไม่ได้ เพราะฉะนั้นโรงพยาบาลย่านพระราม2 ที่ปฎิเสธการักษาแห่งนี้สมควรที่จะเป็นสถานพยาบาลต่อไปไหม นอกจากนี้คำจำกัดความของผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต หมายถึงได้รับบาดเจ็บ ป่วยกระทันหันมีภาะวะคุกคามชีวิต การที่ถูกน้ำกรดแบบนี้ก็เข้าข่ายเพราะอาจตายได้ ถ้าไม่ด้รบการรักษาทันทีก็มีโอกาสเสียชีวิตได้สูง ต้องได้รับการรักษาทันที
สำหรับเรื่องข้อกฏหมายนั้น กฎหมายบอกเพียงแต่ว่าหากละเมิดต้องได้รับโทษจำคุก แต่ไม่ได้บอกว่าให้สิทธิญาติผู้ป่วยฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ ศาลจึงไม่สามารถกำหนดค่าเสียหายที่ต้องชดใช้ให้โจทก์ซึ่งเป็นญาติผู้ตายได้ มีคำตัดสินศาลฎีกามาตั้งแต่ปี2555แล้ว แต่ทำไมรัฐบาลไม่แก้กฎหมายให้สอดคล้องกับคำพิพากษา กระทรวงสาธารณสุขน่าจะเสนอรัฐบาลนะครับให้แก้กฎหมาย เพราะในคำพิพากษาระบุไว้ว่า ถึงแม้เขาจะไม่รับผู้ป่วยไว้รักษา ก็ไม่มีกฎหมายระบุให้ผู้เสียหายไปเรียกร้องค่าสินไหม จากโรงพยาบาลได้ จึงไม่ได้สามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ ผมไม่ได้อยากจะสร้างความวุ่นวายในสังคม แต่อยากจะชี้ให้เห็นว่ากฎหมายฉบับนี้มีความบกพร่อง มีช่องว่างอยู่ อยากจะขอให้กระทรวงสาธารณสุขไปแก้กฎหมายฉบับนี้
แต่ทางฝั่งของผู้ตายนั้นมีสิทธิ์ฟ้องข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาได้ เพราะคนทีหมอหรือพยาบาลนั้นต้องรู้อยู่แล้วว่าอาการของผู้ป่วยนั้นหนักขนาดไหน เพราะเป็นหน้าที่ต้องรับผิดชอบตามข้อบ่งชี้ตามการแพทย์
เริ่มพูดเรื่องข้อกฏหมมายตั้งแต่นาทีที่ 50.00
ขอบคุณคลิปจาก ทนายคลายทุกข์