ปชช.เห็นด้วยลาก "นักการเมือง-สื่อ" ปากไม่ดี เข้าปรับทัศนคติ - หนุนระยะเวลา 3-7 วัน !!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

"สวนดุสิตโพล" เผยประชาชนเห็นด้วยกับการให้นักการเมือง-สื่อมวลชน เข้าปรับทัศนคติหากวิจารณ์การทำงานรัฐบาล หวั่นเกิดความสับสนทางสังคม ยุยงต่อต้านคสช. - พร้อมหนุนระยะเวลาปรับทัศนคติ 3-7 วัน 

 

วันนี้ (3 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่องประชาชนคิดอย่างไร? กรณี การปรับทัศนคติของผู้ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นขัดแย้งกับ คสช. จากที่ คสช. มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำหลักสูตรปรับทัศนคติ เนื่องจากที่ผ่านมา คสช. เคยชี้แจงแล้วว่าการปรับทัศนคติไม่ได้ใช้อำนาจพิเศษและไม่ควรใช้เรื่องดังกล่าวมาสร้างเงื่อนไขในเรื่องสิทธิเสรีภาพ หากการแสดงออกอยู่ภายใต้กรอบกติกา ไม่ละเมิดหรือหมิ่นประมาทบุคคลหรือองค์กรอื่นใด โดยเฉพาะที่ผ่านมาการแสดงออกที่ไม่ระมัดระวังอาจนำไปสู่การสร้างความขัดแย้งของสังคม เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งจากผลสำรวจจำนวนทั้งสิ้น 1,229 คน สำรวจระหว่างวันที่ 29 มีนาคม - 2 เมษายน 2559 สรุปผลได้ ดังนี้
         


เมื่อถามว่า ประชาชนคิดอย่างไร กรณี คสช. จะเปิดหลักสูตรปรับทัศนคติ
         


อันดับ 1 เป็นข่าวดังที่หลายคนจับตามองและพูดถึง อยากทราบรายละเอียดของหลักสูตร 78.11%
         


อันดับ 2 มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ไม่รู้ว่าจะได้ผลมากน้อยเพียงใด คงต้องรอดูต่อไป 64.93%
         


อันดับ 3 ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับกลุ่มการเมือง ยิ่งใกล้จะลงประชามติจึงออกมาวิพากษ์วิจารณ์กัน 58.04%
         


อันดับ 4 เพื่อป้องกันการวิพากษ์วิจารณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของ คสช. 57.45%
         


อันดับ 5 คสช.มีอำนาจพิเศษ หากพิจารณาแล้วว่าเหมาะสมก็สามารถเปิดหลักสูตรได้ 55.49%
         


เมื่อถามว่า ผลดีของการเปิดหลักสูตรปรับทัศนคติ
         


อันดับ 1 เพื่อปรับความเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีต่อการทำงานของ คสช. 73.72%
         


อันดับ 2 ลดความขัดแย้งในบ้านเมือง เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย 68.35%
         


อันดับ 3 เป็นการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจอย่างหนึ่ง เพื่อให้เกิดการยอมรับมากขึ้น 58.82%
         


เมื่อถามว่า ผลเสียของการเปิดหลักสูตรปรับทัศนคติ
         


อันดับ 1 ผู้ที่ไม่เห็นด้วยออกมาต่อต้าน ยุยง โจมตี คสช.ให้เกิดปัญหา 74.14%
         


อันดับ 2 ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของนายกฯและคสช. เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพ ปิดกั้นความคิดเห็น 72.66%
         


อันดับ 3 เสียเวลา สิ้นเปลืองงบประมาณ 60.90%
         


เมื่อถามว่า ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ กับ การที่ทหารเชิญผู้ที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกับ คสช. ไปปรับทัศนคติ
         


อันดับ 1 เห็นด้วย 59.02% เพราะ การออกมาเคลื่อนไหวหรือแสดงความเห็นส่วนตัวมากเกินไป อาจทำให้สังคมเกิดความสับสน เข้าใจผิดได้ เป็นการแก้ปัญหาของ คสช.เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ฯลฯ
         


อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 23.77% เพราะ ยิ่งทำให้สถานการณ์ตึงเครียด เกิดความขัดแย้งมากขึ้น การปรับทัศนคติไม่น่าจะได้ผล หรือเปลี่ยนความคิดของคนๆนั้นได้ เมื่อกลับออกไปก็อาจมีพฤติกรรมเช่นเดิมอีก คสช.ควรรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างบ้าง ฯลฯ
         


อันดับ 3 เฉยๆ 17.21% เพราะเป็นเพียงแค่การเชิญตัวไปพูดคุยไม่ได้จับกุมตัวหรือทรมานอะไร ถ้าใครเสนอความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรร ไม่เข้าท่า สังคมก็จะเป็นผู้ตัดสินเอง ฯลฯ
         


เมื่อถามว่า ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่กับการที่จะมีหลักสูตรปรับทัศนคติ โดยมีระยะเวลา 3 วัน หรือ 7 วัน
         


อันดับ 1 เห็นด้วย 57.93% เพราะ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ คสช. คิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาและสร้างความเข้าใจให้ดีขึ้น ระยะเวลาเหมาะสมไม่มากไม่น้อยเกินไป ฯลฯ
         


อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 26.27% เพราะ เสียเวลา เปล่าประโยชน์ สิ้นเปลืองงบประมาณ ควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ใช้บทลงโทษตามกฎหมายจะดีกว่า อยากให้ คสช. เร่งแก้ปัญหาปากท้องและเรื่องอื่นๆที่เร่งด่วน ฯลฯ
         


อันดับ 3 เฉยๆ 15.80% เพราะ คสช.มีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง หากเห็นว่าอะไรเหมาะสมก็ควรรีบดำเนินการ สถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ฯลฯ